30 พ.ค. เวลา 14:04 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

ถึงช่วงนี้จะหลงคำ​ โอ้โลม ปฏิโลม​ Elon​ ก็ไม่ลืม...

จีน​ 🇨🇳 ทดสอบกู้คืนจรวดจากทะเลแบบแนวตั้ง
สำเร็จเป็นครั้งแรก​ 🚀🌫️🌫️ 🌤️
ก้าวกระโดดครั้งสำคัญของอุตสาหกรรมอวกาศจีน บริษัทสตาร์ทอัพหน้าใหม่ Sepoch หรือชื่อทางการ​ "Beijing Jianyuan Technology Co., Ltd."
ได้ประกาศความสำเร็จในการทดสอบ การกู้คืนจรวดจากทะเลในแนวตั้ง เป็นครั้งแรก นับเป็น
อีกก้าวหนึ่งที่จีนเข้าใกล้การพัฒนาเทคโนโลยี
"" จรวดนำกลับมาใช้ใหม่"" ได้อย่างทัดเทียมกับบริษัทระดับโลกอย่าง SpaceX
จรวดต้นแบบที่ใช้ในการทดสอบคือ​ 🌫️🌫️ Yuanxingzhe-1 หรือ YXZ-1 ▪️▪️◾🚀
มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4.2 เมตร ความสูง 26.8 เมตร และใช้วัสดุสเตนเลสแบบผนังบาง ซึ่งช่วยลดน้ำหนักโดยไม่ลดความแข็งแรง จรวดขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงผสมระหว่าง ออกซิเจนเหลวกับมีเทน (methalox) สามารถนำกลับมาใช้งานซ้ำได้ โดยเชื้อเพลิงชนิดนี้เริ่มกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของวงการจรวดเพราะให้แรงขับสูง เผาไหม้สะอาด และเหมาะกับระบบนำกลับมาใช้ใหม่
💢 ในการทดสอบเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2025 ที่ผ่านมา จรวด YXZ-1 ถูกส่งขึ้นจากแท่นปล่อยในพื้นที่ท่าอวกาศไห่หยาง มณฑลซานตง โดยบินขึ้นสู่ความสูง 2.5 กิโลเมตร และใช้เวลาทั้งสิ้น 125 วินาที ก่อนจะ เปิดเครื่องยนต์อีกครั้งในอากาศเพื่อลดความเร็วแล้วค่อย ๆ ร่อนลงจอดอย่างนุ่มนวลในน่านน้ำใกล้ฝั่ง ซึ่งถือเป็นการทดสอบ การขึ้นและลงในแนวตั้ง (VTVL – Vertical Takeoff, Vertical Landing) ที่สำเร็จอย่างสมบูรณ์ตามที่วางแผนไว้ โดยการบินครั้งนี้มีค่าใช้จ่ายราว 910 ล้าน​ บาท
Sepoch ได้เปิดเผยว่าเที่ยวบินนี้ผ่านกระบวนการสำคัญถึง 8 ขั้นตอน ตั้งแต่จุดระเบิดและยกตัวขึ้น การเร่งแรงขับ การปรับแรงขับอย่างแม่นยำ การดับเครื่อง การร่อนอิสระ การจุดระเบิดซ้ำ การควบคุมการลอยตัว และการแตะผิวน้ำอย่างนุ่มนวล
เทคโนโลยีจรวดจีนก้าวไกล
จากภาครัฐสู่เอกชน​ 🚀🌫️🌫️🌫️
ความสำเร็จของ Sepoch ไม่ได้เกิดขึ้นโดยลำพัง
แต่เป็นผลสืบเนื่องจากการพัฒนาระบบขนส่งอวกาศของจีนทั้งในภาครัฐและภาคเอกชนตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดย จีนเริ่มโครงการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศมาตั้งแต่ทศวรรษ 1950 ผ่านการพัฒนา
จรวด Long March โดยรัฐบาลและกองทัพ
ต่อมา ในยุคทศวรรษ 2010 เป็นต้นมา ภาคเอกชนจีนได้รับการสนับสนุนให้เข้ามาร่วมแข่งขัน​และพัฒนาเทคโนโลยีด้วยตนเอง โดยมีการอนุญาตให้บริษัทเอกชนจัดตั้งบริษัทอวกาศพาณิชย์อย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา นำไปสู่การเกิดขึ้นของบริษัทหน้าใหม่มากมาย เช่น Landspace, iSpace, Galactic Energy, Space Pioneer, Deep Blue Aerospace และล่าสุด Sepoch
บริษัทเหล่านี้ต่างมีเป้าหมายในการพัฒนา
จรวดที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้*ถือเป็นหัวใจสำคัญของการลดต้นทุนการเดินทางสู่อวกาศ หนึ่งในโครงการที่น่าจับตามอง คือจรวด ‼️Hiker-1‼️ ของ Sepoch มีกำหนดทดสอบปล่อยสู่วงโคจรจริง
ช่วงปลายปี 2025 โดยสามารถขนส่งน้ำหนักบรรทุกสูงสุดถึง10,000 กิโลกรัมสู่วงโคจรต่ำของโลก (LEO)เทียบได้กับความสามารถของ
Falcon 9 จาก SpaceX
ในขณะเดียวกัน บริษัทอื่น ๆ▪️▪️◾
ก็เร่งพัฒนาจรวดของตนเอง เช่นZhuque-3
https://www.facebook.com/share/p/1DgQidwBjt/ของ Landspace ที่ใช้โครงสร้าง
สเตนเลสเช่นเดียวกัน
◾ Long March 12Aของ SAST เป็นองค์กรรัฐ
ที่ทดสอบบินขึ้นลงในแนวตั้งได้สำเร็จเช่น
กันในช่วงต้นปี
◾ Tianlong-3​ ของ Space Pioneer กำลังพัฒนาให้มีขีดความสามารถเทียบชั้นกับจรวดนำกลับมา
ใช้ใหม่ได้
◾ Hyperbola-3 ของ iSpace
◾ Pallas-1ของ Galactic Energy ที่อยู่ระหว่างการออกแบบขั้นสุดท้าย
ไม่เพียงแค่ด้านการปล่อยจรวดเท่านั้น Sepoch
ยังมีวิสัยทัศน์กว้างไกล โดยได้ร่วมมือกับ
" Shifang Xinglian0" เพื่อสร้างเครือข่ายกลุ่มดาวเทียมในระดับกลางของวงโคจรโลก
และจับมือกับ Taobao.แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
รายใหญ่ของจีน เพื่อศึกษา ความเป็นไปได้ของ
การขนส่งด่วนด้วยจรวดหากสำเร็จ จะเป็นการเปลี่ยนโฉมการส่งสินค้าระหว่างประเทศภาย
ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง.▪️▪️▪️◾
➖➖➖➖➖➖➖➖➖310🚀➖➖➖➖➖
ความสำเร็จ​ และความพยายามด้านอวกาศของจีน
ในรอบปี 2️⃣0️⃣2️⃣4️⃣ และต่อๆ ไป​ ▪️◾🇨🇳🧑‍🚀🚀
จีนจะเปิดตัวจรวดขนาดยักษ์ ที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้​ สำหรับภารกิจไปยังดวงจันทร์.🚀🌕 🧑‍🚀🇨🇳
สตาร์ทอัพจีน Cosmoleap ได้รับเงินทุนสำหรับ
สร้างจรวดที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้​🚀🇨🇳
นี่คือสิ่งที่จีนวางแผนจะทำภารกิจอวกาศ 🇨🇳
ในอีก 5 ปีข้างหน้า ▪️▪️🚀🛰️🪐🌑
โฆษณา