30 พ.ค. เวลา 15:12 • ยานยนต์
โรงเรียนอุตรดิตถ์

จุดกำเนิดของ “รถแดร็ก” และ “รถหน้ายาว”

1. แดร็กเรซซิ่ง (Drag Racing) เริ่มต้นจากการเเข่งรถ ในประเทศสหรัฐอเมริกา สถานที่เเข่งขันเป็นเเถบที่ทะเสสาบเเห้ง เพื่อป้องกันการรบกวนต่อประชาชน สามารถทำความไวได้ถึง 160 km/h หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 (ราวปี 1940–1950)กลุ่มวัยรุ่นและทหารผ่านศึกมักจะนำรถมาดัดแปลงแข่งกันแบบเร่งออกตัวระยะสั้นบนถนนตรง ๆ โดยมีการจับเวลา
ต่อมามีการจัดตั้งสนามแข่งอย่างเป็นทางการ และเกิดเป็นกีฬาแดร็กเรซซิ่ง (Drag Racing)
2. ทำไมถึง “รถหน้ายาว”
ในช่วง ยุค 1950–1960 มีการออกแบบรถแดร็กที่เรียกว่า “Front-Engine Dragster” หรือ “Slingshot Dragster”
ลักษณะเด่นคือ:ตัวรถจะยาวมาก เครื่องยนต์วางอยู่ด้านหน้าของคนขับ ช่วงหน้ารถจะยาวเพื่อ:กระจายน้ำหนัก เพิ่มความเสถียรในการเร่งออกตัว ป้องกันไม่ให้หน้ารถยกจากแรงบิดมหาศาล
3. การพัฒนาในไทย
"รถหน้ายาว" เริ่มได้รับความนิยมในประเทศไทยในช่วงปี 2000s มีการนำเข้าแนวคิดและดีไซน์จากสหรัฐอเมริกา ทีมแต่งรถในไทยเริ่มสร้างรถแดร็กเอง โดยเน้น "ความเร็ว" และ "ระยะเร่ง"
4. สถิติที่บันทึกในไทย
"ช่างญา เซอร์วิส" หรือ "YA Service Racing" เป็นที่รู้จักในวงการรถแดร็ก ประเภทเบนซิล ของไทยในฐานะผู้พัฒนาและปรับแต่งระบบเกียร์อัตโนมัติ สำหรับรถแข่งที่มีความสามารถสูง โดยเฉพาะในรถแดร็กที่ใช้เกียร์อัตโนมัติที่สามารถรองรับแรงม้าสูงถึงกว่า 2,000 แรงม้าเป็นต้นไป
ในด้านความเร็วของรถแดร็ก ที่ช่างญาเซอร์วิสได้ปรับแต่งรถที่ได้รับการปรับแต่ง
จากช่างญาเซอร์วิสสามารถทำเวลาในระยะ 402 เมตร (ควอเตอร์ไมล์) ได้ถึง 6.120 วินาที ด้วยความเร็วประมาณ 371 กม./ชม.
รถแดร็กที่ทำสถิติใหม่ในประเทศไทยด้วยเวลา 6.120 วินาทีโดยทีม YA Service (ช่างญา เซอร์วิส) ใช้เครื่องยนต์ Chevy small block V8 twin turbo 3000 hp gear airshifter 5 speed
xo-autosport.com
5. ทำไมต้อง Chevrolet Small Block V8
5.1 ประเภทเครื่อง V8
5.2 จำนวนสูบ 8 สูบ จัดวางแบบ V ทำมุม 90 องศา
5.3 ขนาดความจุ มีหลายขนาด เช่น 4.3L (262 cu in), 5.0L (305 cu in), 5.7L (350 cu in) เป็นต้นไป
5.4 โครงสร้างเครื่อง บล็อกเหล็กหล่อ หรืออลูมิเนียมในบางรุ่น
5.5 วาล์ว/สูบ OHV (Overhead Valve) 2 วาล์ว/สูบ (รวม 16 วาล์ว)
5.6 ระบบจ่ายเชื้อเพลิง คาร์บูเรเตอร์ (ในรุ่นเก่า) หรือ EFI (Electronic Fuel Injection ในรุ่นใหม่)
5.7 ระบบจุดระเบิด ดิสทริบิวเตอร์หรือระบบจุดระเบิดอิเล็กทรอนิกส์
จุดเด่นของ Small Block V8 ในรถแดร็ก:
ทนทานต่อแรงบิดสูง – เหมาะกับการโมดิฟายเพื่อใช้แรงม้าระดับ 1,000–2,000 แรงม้า
อะไหล่หาง่าย ปรับแต่งง่าย – มีของแต่งเยอะมากทั้งในอเมริกาและเอเชีย
ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา – เมื่อเทียบกับ Big Block จึงเหมาะกับรถแข่งที่ต้องการบาลานซ์
รองรับระบบซูเปอร์ชาร์จ / เทอร์โบ / ไนตรัส – นิยมใช้ทั้งในรถแดร็กสายเบนซินหรือแอลกอฮอล์
"YA Service "
6. เทคนิคและระบบควบคุมการออกตัว
Brake Line Lock / Trans Brake
ใช้เบรคล็อคล้อหน้า หรือเกียร์ล็อคไว้ ให้ล้อหลังมีแรงบิดรอไว้แล้วปล่อยทันที
(ปล่อยรถพุ่ง) ด้วยปุ่มบนพวงมาลัยหรือสวิตช์
Two-Step / Rev Limiter
จำกัดรอบเครื่องตอนออกตัว เช่น 4,000-5,500 รอบ/นาที
Chassis Setup การตั้งองศาโช้ค, ระยะห่างล้อหน้า-หลัง, โหลดน้ำหนักหน้า-หลัง
ให้รถ (หน้าแบนต่ำ-หลังยกนิด) เพื่อออกตัวได้ดีโดยไม่กระชาก
ระบบเกียร์แดร็ก (Automatic Drag Transmission)
แบบที่ YA Service ใช้เกียร์อัตโนมัติแบบเซ็ตแข่งเต็มระบบ (Custom Auto Drag Transmission) ไม่ใช่เกียร์ออโต้เดิมโรงงาน แต่เป็นแบบ “Drag Spec” ที่รองรับแรงม้ามหาศาล
ภายในใช้ ชุดคลัทช์, วาล์วบอดี้, ชุดเกียร์ฟอร์จ รองรับระดับ 1,000+ แรงม้า
บางคันใช้ Powerglide (เกียร์ 2 สปีด) หรือ TH400 (3 สปีด) โมดิฟายเต็ม
จุดเด่น: มีระบบ “ลิงค์ชิฟต์” หรือ “Manual Valve Body” เปลี่ยนเกียร์เองแม้เป็นเกียร์ออโต้ มี Line Lock / Trans Brake สำหรับการออกตัว เปลี่ยนอัตราทดได้ ตามสนาม (Final Drive และ Stall Converter)
" Siamphototype " , " ECU "
7. ระบบออกตัว (Launch System)
จุดประสงค์:ทำให้รถ “พุ่งออกตัว” จากจุดสตาร์ตได้เร็วที่สุด โดยไม่ให้ “ฟรีทิ้ง” หรือ “หน้ายก” จนเสียเวลา
องค์ประกอบหลัก:
Trans Brake ล็อกเกียร์เดินหน้าและถอยหลังพร้อมกัน ทำให้รถหยุดนิ่งแม้เหยียบคันเร่งเต็ม แล้วปล่อยพุ่งทันที
2-Step Rev Limiter จำกัดรอบเครื่องไว้ที่จุดที่เหมาะกับแรงยึดเกาะ เช่น 4500-6000 RPM ขณะออกตัว
Line Lock ล็อคล้อหน้าไว้ เพื่อวอร์มยางหรือเบิร์นยางก่อนออกตัว
Torque Converter (Stall) ตั้งจังหวะให้รอบพุ่งพร้อมถ่ายทอดแรงบิดได้รวดเร็ว
Wheelie Bar ป้องกันไม่ให้หน้ารถยกตอนออกตัวแรงมาก
ช็อกอัพ/ช่วงล่างแดร็ก เซ็ตองศาและความสูงให้ “ท้ายดึง หน้าจิก” เพื่อการพุ่งเร็วและนิ่ง
ตอนเข้า “ไฟสตาร์ต” (Christmas Tree),
เข้าเกียร์ + เหยียบเบรก + กด Trans Brake
คันเร่งเต็ม (รอบจะลั่นค้างที่ 2-Step)
ไฟเขียว → ปล่อยปุ่ม Trans Brake → รถพุ่งออกทันที
2. ร่มชะลอความเร็ว (Parachute)
ลดความเร็วรถหลังผ่านเส้นชัย เพราะเบรกธรรมดาไม่เพียงพอที่ความเร็วระดับ 300–400 กม./ชม. จึงต้องมีการเพิ่มร่มเข้าไปเพื่อให้ประสิทธิภาพในการชะลอรถ
ชนิดร่ม ร่มเบรกสำหรับแดร็กโดยเฉพาะ เช่น Stroud หรือ Simpson
ระบบเปิด ใช้ “สายดึงแบบมือ” หรือ “ระบบนิวแมติก/ไฟฟ้า”
ตำแหน่งติดตั้งกลางด้านท้ายรถ (กึ่งกลางแนวรถ) เพื่อไม่ให้รถสะบัด
การใช้งาน หลังผ่านเส้นชัย นักขับจะดึงร่มพร้อมเบรกเบา ๆ เพื่อควบคุมรถให้หยุดตรง
โฆษณา