แต่แกบอกว่าแค่นี้ยังไม่สะใจนะ เป้าหมายปีนี้คือจะทำให้ Meta AI มันลึกซึ้งยิ่งขึ้นไปอีก ให้มันเป็น AI คู่ใจประจำตัวที่เน้นเรื่องความเฉพาะบุคคล (Personalization) คุยกันด้วยเสียงได้ (Voice Conversations) แล้วก็เน้นความบันเทิงด้วย (Entertainment) คือกะให้เราติดกันงอมแงมยิ่งกว่าติดซีรีส์เกาหลีอีกมั้ง!
เมื่อเดือนเมษาฯ ที่ผ่านมา Meta เพิ่งปล่อยแอปพลิเคชัน Meta AI แบบเดี่ยวๆ ออกมาด้วยนะ เหมือนพี่มาร์คแกจะกะลุยตลาด AI เต็มตัวเลย ไม่ใช่แค่มีในเฟซบุ๊ก ไอจี วอทส์แอปอย่างเดียวแล้ว ทีนี้ก็ไปอยู่บนมือถือเราแบบเดี่ยวๆ เลย เหมือนมีเพื่อนคู่ใจเป็น AI ติดตัวตลอดเวลา!
มีข่าวลือตั้งแต่เดือนกุมภาฯ แล้วนะว่า Meta จะเปิดตัวแอป Meta AI แบบเดี่ยวๆ ในช่วงไตรมาสสอง (Second Quarter - ช่วงเดือนเมษาฯ ถึงมิถุนาฯ) แล้วก็เตรียมทดสอบบริการแบบสมัครสมาชิกเหมือนคู่แข่งอย่าง OpenAI ที่มี ChatGPT Plus นั่นแหละ
พี่มาร์คแกยังบอกอีกว่า “มันอาจจะดูตลกนะที่จำนวนผู้ใช้งานหนึ่งพันล้านคนต่อเดือนของเรามันยังดูเหมือนยังไม่ถึงขนาด (At Scale)” คือแกมองว่าสำหรับ Meta ที่มีผู้ใช้งานมหาศาลขนาดนี้ พันล้านคนก็ยังถือว่าเริ่มต้นอยู่เลยนะ มันเหมือนเราบอกว่ามีเงินล้านนึงยังไม่รวยอะ คนรวยเขาบอกว่าต้องมีพันล้าน!
เหมือนกับคนอื่นมีหนึ่งเสียง แต่แกมีสิบเสียงอะ! นี่มันไม่ต่างอะไรกับตอนที่เล่าปี่ต้องคอยรับฟังขงเบ้งกับเตียวหุย แต่สุดท้ายก็ต้องเป็นผู้ตัดสินใจเองแหละ! ในทางกลับกัน ข้อเสนอที่คณะกรรมการเห็นชอบ เช่น การอนุมัติผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการบริษัท (Board of Director Nominees) และแผนแรงจูงใจด้านหุ้น (Equity Incentive Plan) เนี่ยก็มีแนวโน้มที่จะผ่านไปได้สบายๆ
Meta บอกว่าผลโพลล์สุดท้ายจะประกาศภายในสี่วันทำการบนเว็บไซต์ของบริษัทและในสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (U.S. Securities and Exchange Commission)
สรุปแล้ว Meta AI กำลังมาแรงแซงทางโค้งมากๆ และพี่มาร์คก็กะจะเอาจริงเอาจังกับ AI สุดๆ ใครที่ยังไม่ได้ลองใช้ก็ลองไปเล่นดูนะ อาจจะติดใจจนลืมเพื่อนสนิทเลยก็ได้!