Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
แฟนบอลเลเวล 1
•
ติดตาม
31 พ.ค. เวลา 07:47 • กีฬา
SON : ROAD TO GLORY
“For what is a man, hat has he got?
If not himself, then he has naught”
แด่ผู้ชายคนหนึ่ง,ยังต้องการสิ่งใดอีกเล่า
หากไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง แล้วจะมีความหมายอะไร
Frank Sinatra — My way
ดั่งเพลงของแฟรงค์ ซินาตรา ราชาเจ้าพ่อเพลงคลาสสิคอเมริกัน ถ้าผู้ชายคนหนึ่งไม่ได้ทำตามใจตัวเองจะมีความหมายอะไรอีกเล่า ประโยคนี้ทำให้ผมนึกถึงชายคนหนึ่ง
“ซอน ฮึง มิน“ สำหรับผมไม่รู้ทำไมเมื่อเพลงนี้ขึ้นมาทำให้ผมนึกถึงเขา
ในห่วงเวลา 1 ทศวรรษเต็มๆ ที่ซอน อยู่กับ สเปอร์ เขาไม่เคยได้ จับถ้วยเมเจอร์ แม้แต่ครั้งเดียว ถึงแม้ทีมเขาจะอยู่ในจุดพีคสุดๆ ก็ตาม ถ้าเปรียบเป็น คอมมิคเล่มหนึ่ง ผมคงตั้งชื่อเรื่องนี้ว่า...
THE ROAD TO GLORY SON HUENG MIN (เส้นทางสู่ความรุ่งโรจน์ ซอน ฮึง มิน)
Chapter 1 : BORN TO FINAL
ฤูดกาล 18/19 สปอร์ภายใต้การคุมของ เมาริซิโอ โปเชตติโน่ พาสปอร์ทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศได้อย่างปาฏิหาริย์ โดยการล้ม อาเจคที่ช่วงเวลานั้นทีมรวมไปด้วยพลังหนุ่ม แฟรงค์กี้ เดยอง , มัตไตส์ เดอ ลิคต์ ,ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค , ในปีนั้นอาแจกค์เป็นทีมที่เขี่ย เรอัล มาริด ตกรอบ ถึงถิ่น ซานเตียโก เบร์นาเบว สื่อแต่ละสำนัก มองว่า อาแจกซ์ คือม้ามืดในปีนั้นถ้าจะบอกว่าพวกเขาจะทะลุเข้ารอบชิง คงไม่ใช่คำพูดที่เกินจริง
แต่ทว่า สเปอร์ พลิกล็อค ยิง 3 ประตูรวด จาก ลูคัส มูร่า พาสปอร์เข้าชิง UCL ด้วยกฎอเวย์โกล (3-3) และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ สโมสร
ความรุ่งโรจน์ที่ถามหาเหมือนว่ามันใกล้แค่เอื้อม อีกแค่นัดเดียว เขาจะถูกจดจำว่าคือผู้ชนะ
แต่ทว่าชีวิตไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ ถึงแม้พวกเขาจะเดินผ่านลวดหนามมาถึงปลายทาง แม้พวกเขาเดินทางมาถึงที่นี่อย่างยากลำบากก็ไม่มีอะไรมาการันตีว่าพวกเขาจะได้สิ่งที่ต้องการ
ในนัดชิงชนะเลิศ เขาทำทุกอย่างที่ทำได้ ในเกมนั้น สปอร์ไม่ได้เล่นแย่ พวกเขาทำเต็มที ...
แต่ก็ไม่สามารถยิงผ่าน อลิสซอน เบคเกอร์ ได้ ไม่สามารถผ่านการป้องกันสุดแกร่งของ เวอร์จิล ฟานไดค์ ได้ ไม่สามารถเซฟลูกยิงของ ดิว็อค โอริกี้ ได้
ในเกมนั้นพวกเขา แพ้ไปด้วย สกอร์ 0-2 น้ำตา ความผิดหวังของ ซอน พวกเราสัมผัสถึงมันได้ดี กล้องที่จับไปที่เจอร์เก้น คล็อป สวมกอด ดั่งพ่อที่กำลังปลอบประโลม
พวกเรารู้ดีว่าเขาผิดหวังขนาดไหน
"บทนี้เป็นข้อพิสุทธิ์ “เขาจะเลือกจมปลัก หรือ ว่า ก้าวข้ามมันกันละ”
Chapter 1.5 : The Fall
ในฤดูกาลถัดมาเป็นบททดสอบที่ไม่ใช่แค่ ซอน สปอร์ปลด โปเซตติโน่ ในกลางฤดกาล และ โชเซ่ มรินโญ่ เข้ามารับตำแหน่งแทน เป็นช่วงเวลาที่พวกเขาต้องเผชิญความเปลี่ยนแปลง ทั้งแผนการเล่น ทั้งอาการบาดเจ็บ ต่างๆ ทั้งจากแฟนบอลที่คาดหวัง ซอน ก็ยังเป็นหัวใจในการสร้างสรรค์เกม พวกเขาทะลุถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ใน ชปล. แต่ต้องตกรอบจากบาเยิร์น มิวนิค ไป 0-7(รวมผลสกอร์2นัด) เป็นการแสดงให้เห็นถึงช่องว่างระดับความแข็งแกร่งในยุโรป
“จากจุดสูงสุดที่พวกเขาเคยสัมผัส...ซอนกระแทกลงมาที่พื้นอีกครั้ง “
Chapter 2 : The Cycle Never Ends
ฤดูกาล 20/21 จากพื้นดิน— เรื่องราวของเขายังต้องดำเนินต่อ ซอนทั้งยิงทั้งจ่ายเป็นส่วนสำคัญในแนวรุกคู่กับ แฮรรี่ เคน ทั้งสองเหมือนดั่ง แบทแมน กับ โรบิน ซอน จ่าย เคน ยิง ทั้งสองเป็นเหมือนดั่งแสงสว่างจากพื้นดิน
ค่อยช่วยกันพาขึ้นไปที่ ละก้าว... ที่ ละก้าว...จนพบแสงสว่างอยู่ที่ปลายทาง—จนความพยายามสัมฤทธิ์ผล
ในที่สุด— เขาก็ได้กลับมา ในฐานะผู้ท้าชิง เป็นโอกาสให้เขาได้แก้ตัว
เขาแบกความเชื่อ ความคาดหวัง ความฝัน ของแฟนบอลเอาไว้ แต่ทว่า—
ฝนก็ตกลงมาก่อนจะถึงปลายทาง สปอร์แยกทางกับ มูรินโญ่ ก่อนนัดชิงเพียงไม่กี่วัน
ในแมทช์นัดลูกโหม่งของ แอมริก ลาปอร์ต เหมือนเป็นพายุที่พาพวกเขาร่วงหล่นอีกครั้ง...
สเปอร์ พ่าย แมนซิตี้ 0-1
พวกเรารู้ดี ซอน เก่งขนาดไหน เขาเลือกที่จะไปทีมที่การันตีแชมป์ในทุกปีเลยก็ได้
ผลงาน ซอน ที่อยู่กับสปอร์เรารู้ดีว่ามันยอดเยี่ยมขนาดไหน
แต่ซอน...เลือกที่จะเดินเส้นทางตามที่ใจตนปรารถนา
“หากไม่ได้เป็นตัวของตัวเองแล้วจะมีความหมายอะไร “
บทนี้ ความล้มเหลวของจะนำพาเขาไปถึงจุดไหน
The Final Chapter : ROAD TO GLORY
สปอร์ไม่ได้เป็นผู้ท้าชิงอีกเลย พวกเขาเป็นแค่ ท็อป 6 ไปยูโรป้าบ้าง ยูฟ่า บาง บอลถ้วยเข้ารอบ ก็ตกรอบ ไม่ได้สัมผัสจุดสูงสุด
ฤดูกาลนี้ 2024/25 เรียกได้ว่าเป็นฤดูกาลที่แย่ขอสปอร์พวกเขามี แค่ 38แต้ม จาก 38นัด อันดับ พวกเขาอยู่ที่ 17 แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขายังมี คือตั๋วที่ บิลเบา มันเหมือนเป็น ตั๋วทองคำ เป็นเหมือน ตั๋วความฝัน ทุกสิ่งทุกอย่างในฤดูกาลนี้มันจะขึ้นอยู่ที่บิลเบา
ถ้าผมยังไม่สามารถพาสเปอร์คว้าแชมป์ได้... ผมก็ไม่สมควรถูกเรียกว่า ตำนาน
ซอน ฮึง มิน กล่าวก่อนเกม
เสียงนกวีดเริ่มเกมเป็นเหมือนสัญญาณความฝันของซอนได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง
นัดนี้เขาเป็นเพียงตัวสำรองเพราะพึงหายจากอาการบาดเจ็บ
แมนยูไนเต็ด บุกโหมใส่สปอร์ในช่วงต้นเกม แต่เป็นสปอร์ที่รอสวนกลับได้ดี
นาทีที่ 42 ป๊าบ ซาร์ เปิดบอลเข้าไป บอลกระเด้งไปโดน ลุก ซอว์ ก่อน โดนเบรนแนน จอห์นสัน บอลพุ่งสวน ตัวของ โอนาน่า เข้าไป สปอร์ขึ้นนำในเกมนัดชิงในรอบ 17 ปี
นาที 67 ซอน ถูกเปลี่ยนตัวเข้ามา สเปอร์ตั้งรับถึงที่สุด พยายามกันทุกลูกที่เข้ามา
แต่ทว่า หลังจากนั้น ลูกโยนยาวจากกลางสนามของ บรูโน่ เฟอร์นันเดช พุ่งเข้าไปที่มือ วิคาริโอ
แต่ลูกนั้นหลุดมือ! ความโชคร้าย บอล ลอยไปหา ราชมุด ฮอยลุนด์ที่อยู่ตรงจุดโทษ เขากระโดดโหม่ง บอลกำลังลอยเข้าประตู
ทว่า! มิกกี ฟัน เดอ แฟ็น พุ่งมาสกัดจากเส้น! —เซฟความฝันของ ซอน เอาไว้ได้
ปริ๊ด— ปริ๊ด—
เสียงนกวีดจบเกมคล้ายการบอกคร่าวๆ ว่าเรื่องราวนี้กำลังจะจบลง
ในที่สุด ซอน ก็สามารถคว้าแชมป์แรกได้แล้วเป็น ถ้วยเมเจอร์ แรกใน 10 ปี และเป็นของ สปอร์ในรอบ 17 ปี
17 ปีที่ผ่านมา ไม่มีใครทำได้ ดังนั้นกับผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้ ใช่เลย วันนี้คือวันของเรา บางทีวันนี้ผมอาจจะเป็นตำนานของสโมสรนี้
ซอน ฮึง มิน
“ความล้มเหลวคือบททดสอบ คุณเลือกที่จะจมปลักหรือจะก้าวข้ามผ่านมันละ”
“ความสำเร็จที่งดงามเพราะมันช่างยากเย็น ความสำเร็จที่บ่มเพาะเป็นเวลานานมันจะหอมหวานเสมอ จงอดทน พยายามให้หนัก จงกล้าฝัน”
“ชีวิตไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ ต่อให้คุณมาถึงปลายทาง ก็ไม่มีใครรับประกันว่าคุณจะได้ในสิ่งที่ต้องการ”
สุดท้ายนี้ ยินดีกับ Spurs และก็ ซอน ด้วยครับ
ผมเขียนจากมุมองของผมที่มีต่อ ซอน กับ ทีมสเปอร์ ถ้าผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
#waynemood
ฟุตบอล
พรีเมียร์ลีก
กีฬา
1 บันทึก
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย