Alexandr Wang มหาเศรษฐีแสนล้าน ที่อายุต่ำกว่า 30 ผู้ก่อตั้ง Scale AI
อายุ 17 ปี เป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ให้กับบริษัทในซิลิคอนแวลลีย์
อายุ 19 ปี ก่อตั้งบริษัทส่วนตัว
อายุ 22 ปี พาบริษัทเป็นยูนิคอร์นได้สำเร็จ
อายุ 25 ปี ขึ้นแท่นเป็น Billionaire หรือมหาเศรษฐีที่มีมูลค่าทรัพย์สินเกินกว่า 3.3 หมื่นล้านบาท ที่อายุน้อยที่สุดในโลก
และตอนนี้ ด้วยวัยเพียง 28 ปี เขามีทรัพย์สินกว่า 1.2 แสนล้านบาท..
เรื่องราวน่าทึ่งเหล่านี้ คือเส้นทางของ “คุณ Alexandr Wang” ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Scale AI เจ้าของแพลตฟอร์มสำหรับการสอนและพัฒนา AI
ที่ปัจจุบันได้รับการประเมินมูลค่าบริษัทกว่า 8.3 แสนล้านบาท
Scale AI มีลูกค้าระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Meta, GM, Microsoft, SAP, Cisco, OpenAI, Harvard Medical School หรือแม้แต่รัฐบาลสหรัฐฯ
คุณ Alexandr Wang เขาคือใคร
แล้ว Scale AI ทำธุรกิจอะไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
จุดเริ่มต้นความสำเร็จของคุณ Alexandr Wang นั้น ก็ต้องบอกว่ามีรากฐานมาจากความรู้ และสภาพแวดล้อมที่เขาเติบโตมา
พ่อแม่ของคุณ Wang เป็นนักฟิสิกส์ ที่ทำงานให้กับ Los Alamos National Lab ซึ่งเคยเป็นพื้นที่ลับสุดยอดในรัฐนิวเม็กซิโก ประเทศสหรัฐอเมริกา
ที่บอกว่าบริเวณนี้เป็นพื้นที่ลับสุดยอดนั้น ก็เพราะมันเป็นสถานที่ที่ใช้ในการพัฒนาระเบิดปรมาณูลูกแรกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ภายในเมืองนี้จึงมีครอบครัวของนักวิทยาศาสตร์ และนักวิจัย อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
สภาพแวดล้อมที่คุณ Wang เติบโตมา ได้หล่อหลอมให้เขากลายเป็นเด็กใฝ่เรียนตั้งแต่ยังเล็ก
โดยแม่ของคุณ Wang ก็เป็นคนที่คอยสอนทั้งคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และความรู้ทางวิทยาศาสตร์อื่น ๆ ให้กับเขา
ทำให้คุณ Wang มีความสนใจด้านคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ยังเด็ก โดยเมื่อเขาเรียนอยู่ในระดับเกรด 6 หรือเทียบเท่ากับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในประเทศไทย เขาก็ได้ลงสนามแข่งขันคณิตศาสตร์ และการเขียนโปรแกรมระดับประเทศเป็นครั้งแรก
จนเมื่ออายุได้ 17 ปี คุณ Wang ก็ได้หยุดเรียน และไปรับงานเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ให้กับ Quora แพลตฟอร์มถาม-ตอบชื่อดัง ที่ตั้งอยู่ในซิลิคอนแวลลีย์ โดยหน้าที่ของคุณ Wang คือการเขียนโคดซอฟต์แวร์ให้กับ Quora
การทำงานใน Quora ทำให้เขาได้รู้จักกับ AI หรือปัญญาประดิษฐ์มากขึ้น เพราะมีหลากหลายโปรเจกต์ที่เกี่ยวข้องกับ Machine Learning และ AI
นอกจากนี้ การทำงานที่ Quora ยังทำให้คุณ Wang ได้พบกับคุณ Lucy Guo เพื่อนร่วมงานอีกคน ซึ่งในอนาคตเธอคนนี้ก็ได้กลายมาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทร่วมกับเขา
ในเวลาต่อมาคุณ Wang ได้เข้าศึกษาต่อที่ MIT มหาวิทยาลัยที่ขึ้นชื่อในสาขาวิศวกรรมอันดับต้น ๆ ของโลก โดยเขาได้เข้าเรียนด้านปัญญาประดิษฐ์
ที่นี่เองที่ไอเดียในการก่อตั้งธุรกิจเกิดขึ้น เมื่อเขามีความคิดที่อยากจะติดตั้งกล้องในตู้เย็น
เพื่อที่จะสามารถบอกได้ว่าเมื่อไรที่ต้องซื้อของมาเติม และของที่ซื้อมามีอะไรบ้าง
แต่สิ่งที่เขาตระหนักได้คือ แม้เขาจะมีไอเดียที่ดี แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร ไม่รู้ว่าจะหาข้อมูลหรือสอบถามใครได้บ้าง ว่าต้องทำอย่างไร
เรื่องนี้ทำให้เขาเห็นปัญหาคอขวดของการสร้าง AI นั่นคือ “ข้อมูลที่จำเป็นต้องใช้”
ในช่วงปิดเทอมปีแรก คุณ Wang ในวัย 19 ปี จึงได้ชวนคุณ Lucy Guo ร่วมกันก่อตั้ง Scale AI ขึ้นมา
โดยเขาบอกกับครอบครัวว่า เป็นโปรเจกต์ที่จะทำเฉพาะช่วงปิดเทอมเท่านั้น..
แต่เพียงแค่ 3 เดือนหลังจากก่อตั้งบริษัท Scale AI ก็ได้รับเงินทุนรอบแรกจาก Y Combinator
บริษัทที่ลงทุนในสตาร์ตอัป ด้วยเงินทุนประมาณ 4 ล้านบาท
จากการได้รับเงินทุนดังกล่าว ทำให้คุณ Wang ทุ่มสุดตัวให้กับโปรเจกต์ปิดเทอมของเขา และ Scale AI ก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นสตาร์ตอัป ที่มีมูลค่าสูงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากก่อตั้งได้เพียง 3 ปี
ตั้งแต่นั้นมา คุณ Wang ก็ไม่เคยกลับไปเรียนที่ MIT อีกเลย..
แล้ว Scale AI ทำอะไร ?
ปัจจุบัน มีบริษัทจำนวนมากพยายามที่จะสร้าง AI ขึ้นมา แต่ปัญหาของการสร้าง AI ที่ยากไม่แพ้การเขียนโคด ก็คือการหาข้อมูลมาป้อนให้ AI เพราะ AI จะยิ่งทำงานได้ดี ถ้ามีการเรียนรู้ที่ถูกต้อง
ประสิทธิภาพของ AI จึงขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ ความแม่นยำ และปริมาณของข้อมูลที่จัดเตรียมไว้
ข้อมูลเหล่านี้จึงเปรียบเสมือน “สารอาหาร” ที่เลี้ยง AI ให้เติบโต
หากเราป้อนข้อมูลที่ดี AI ก็จะคิดบนพื้นฐานข้อมูลที่เราป้อนให้ และตัดสินใจได้แม่นยำมากขึ้น
แต่การหาข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ต้องใช้ทรัพยากรทั้งเวลา และเงินทุนจำนวนมาก
จึงมีแต่บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ อย่างเช่น Microsoft, Meta, Google และ Amazon ที่สามารถทำได้ และประสบความสำเร็จในการสร้าง AI
จุดนี้เองที่ Scale AI ใช้เป็นโอกาสทางธุรกิจ ก็คือ สร้างแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้ AI เข้ามาเรียนรู้ผ่านตัวอย่างและข้อมูล ที่แพลตฟอร์มจัดเตรียมไว้ให้ เสมือนโรงเรียน ห้องสมุด หรือ Google สำหรับ AI
โดยข้อมูลที่ Scale AI ใช้ในการสอนและพัฒนา AI ก็มีทุกรูปแบบ ตั้งแต่ภาพ เสียง วิดีโอ บทความ หรือคำพูด
ยกตัวอย่างลูกค้ารายแรกของ Scale AI คือ ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของรถยนต์
โดยสิ่งที่ Scale AI เตรียมไว้สำหรับใช้ฝึกฝน AI ก็คือข้อมูลทางด้านการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็น
- ภาพถ่ายดาวเทียม และข้อมูลแผนที่
- ข้อมูลภูมิประเทศที่มีทั้งรูปแบบเทคโนโลยี Lidar และ Radar
- ภาพถ่ายสภาพแวดล้อมขณะขับขี่ เช่น เส้นทางจราจร ป้ายสัญญาณ
นอกจากกลุ่มยานยนต์ อย่างเช่น Toyota และ General Motors แล้ว อุตสาหกรรมที่เป็นลูกค้าของ Scale AI ก็มีตั้งแต่
- Meta ใช้แพลตฟอร์มของ Scale AI เพื่อเตรียมข้อมูลสำหรับเทรน AI Model
- โปรเจกต์พัฒนา AI ทางการแพทย์ที่ทำร่วมกับ MIT ซึ่งช่วยวินิจฉัยโรคก่อนถึงมือหมอ
- State Title บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ที่ใช้ AI เพื่อตรวจสอบ และจัดเตรียมเอกสารในการซื้อขาย
- OpenAI ผู้พัฒนา ChatGPT ที่ใช้ฐานข้อมูลของ Scale AI ในการปรับปรุงโมเดลภาษาของ OpenAI
- Scale AI ทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ โดยเฉพาะกองทัพบกและกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในโครงการที่เกี่ยวกับการใช้ AI เพื่อความมั่นคง เช่น การวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียม การสอดแนม และระบบป้องกันอัตโนมัติ
ซึ่งในปี 2024 มีรายงานว่า Scale AI มีรายได้ราว 2.9 หมื่นล้านบาท
และบริษัทตั้งเป้าว่า ในปี 2025 นี้ จะมีรายได้แตะ 6.6 หมื่นล้านบาท หรือโตกว่าเท่าตัว..
ที่น่าสนใจคือ มีรายงานว่า Scale AI สามารถทำกำไรได้แล้วตั้งแต่ปี 2020 หรือเพียง 4 ปีตั้งแต่ก่อตั้งธุรกิจ
ที่ผ่านมา Scale AI ได้รับเงินระดมทุนไปแล้วหลายรอบ ทั้งจากกองทุน VC ชื่อดัง และนักลงทุนที่มีชื่อเสียง เช่น Y Combinator, Founders Fund ของ Peter Thiel, Accel, Thrive Capital, Tiger Global Management
หรือแม้แต่คุณ Sam Altman ผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI ก็ลงทุนใน Scale AI ด้วยเช่นกัน
และจนตอนนี้ Scale AI ได้รับการประเมินมูลค่าบริษัทไว้สูงถึง 8.3 แสนล้านบาท
ทำให้คุณ Alexandr Wang ซึ่งถือหุ้นใน Scale AI ราว ๆ 14%
กลายเป็นบุคคลที่มีทรัพย์สินกว่า 1.2 แสนล้านบาท ด้วยอายุเพียงแค่ 28 ปีเท่านั้น..
References
- 21
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
