31 พ.ค. เวลา 12:26 • การเมือง

เส้นทางชีวิต เสธ.ต๊อด โฆษกคนดัง

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน ในช่วงนี้มีข่าวความขัดแย้งที่บริเวณช่องบกปรากฎมากมายหลายสื่อ แน่นอนว่าผู้ที่ออกมาแถลงข่าวนี้จะต้องมีความรู้ความสามารถ และชี้แจงข่าวสารอย่างตรงไปตรงมาไม่มีบิดเบือนใดๆทั้งสิ้น จากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาในครั้งนี้ โฆษกท่านนี้ก็ออกมาแถลงและชี้แจงให้ประชาชนชาวไทยหายความสงสัย โฆษกท่านนี้มีชื่อว่า "พลตรี วินธัย สุวารี"
“ผมเองก็เป็นเหมือนกระบอกเสียงองค์กร ได้รับนโยบายจากผู้บังคับบัญชา ไม่ได้ทำจากความรู้สึกส่วนตัว แล้วทั้งหมดเป็นสิ่งที่ผู้บังคับบัญชาให้ตลอด ปัจจุบันความคิดของคนค่อนข้างหลากหลาย ทางผู้บังคับบัญชาเห็นว่าถึงจุดหนึ่งที่ความคิดในสังคมเกิดความแตกแยก ทหารต้องเอาคนทั้งประเทศ"
"ไม่ใช่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ต้องทำเพื่อส่วนรวมไม่ใช่เพียงเพื่อกลุ่มก้อน เพื่อทำให้ภาพรวมของการแก้ปัญหาออกมาดีที่สุด แน่นอนว่าอาจจะมีบ้างบางส่วนยังไม่เข้าใจ แต่เราไม่ได้ไปมีปฏิกิริยาตอบโต้กลับไป ต้องพยายามเข้าใจทุกคน และทำเพื่อทุกคนจริงๆ” พันเอก วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก (ยศและตำแหน่งในขณะนั้น) ขณะกล่าวกับ POST TODAY
>>ประวัติส่วนตัว
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก หรือที่ผู้คนเรียกติดปากว่า ผู้พันต๊อด มีชื่อเล่นว่า ต๊อด เกิดเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมพ.ศ. 2512 เป็นบุตรชายคนกลางในบรรดาพี่น้อง 3 คน จบการศึกษาจากโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 30 และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 41
ได้รับปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า และปริญญาโทรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารทั่วไป จากมหาวิทยาลัยบูรพา Post Today กล่าวถึงประวัติของพลตรี วินธัย สุวารี ว่าท่านเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 30 และต่อเนื่องยังนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า หรือนักเรียนนายร้อย จปร. ที่คุ้นหูกันในรุ่น 41 ช่วงนั้นชีวิตท่านได้เติบโตในสายงาน “รบ” เป็นหลัก
>>การรับราชการ
ชีวิตการเป็นนายทหารของท่านส่วนมากจะคลุกคลีกับเหล่าทหารปืนใหญ่เป็นหลัก โดยเริ่มเข้ารับราชการในตำแหน่งรองผู้บังคับตอน เรดาร์ ศปภอ.ทบ.2 จากนั้นได้เป็นผู้บังคับหมวดกองร้อยทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1 รักษาพระองค์, รองผู้บังคับกองร้อยทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1 รักษาพระองค์
จากนั้นในช่วงปี 2540-2544 พลตรีวินธัย สุวารี ได้เข้าเป็นช่วยราชการ ในตำแหน่งนายทหารคนสนิทรองผู้บัญชาการทหารบก และนายทหารคนสนิทผู้บัญชาการทหารสูงสุด ก่อนเข้ามาเป็นหัวหน้าศูนย์ต่อสู้ป้องกันภัยทางอากาศ กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1 รักษาพระองค์ ในปี 2544 ก่อนไปประจำโรงเรียนเสนาธิการทหารบก
เป็นนายทหารยุทธการกรมทหารปืนใหญ่ที่ 9 แล้วข้ามมาประจำกองกิจการพลเรือนกองทัพภาคที่ 1 เป็นผู้ช่วยอำนวยการกองข่าว กองทัพน้อยที่ 1 และได้ขึ้นดำรงตำแหน่งรองโฆษกกองทัพบก ในปี 2554
>>วงการบันเทิง
นอกจากเป็นทหารแล้วในวงการบันเทิง KAPOOK ให้ข้อมูลว่า เสธ.ต๊อด พลตรี วินธัย สุวารี ได้มีโอกาสเข้าสู่อาชีพนักแสดง เมื่อ ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล หรือ ท่านมุ้ย กำลังจะสร้างภาพยนตร์ "ตำนานสมเด็จพระนเรศวร" และต้องการได้ทหารจริง ๆ มาร่วมแสดง
ทำให้ พลตรี วินธัย ได้มีโอกาสร่วมแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยท่านรับบทเป็น "สมเด็จพระเอกาทศรถ" หรือ "พระองค์ขาว" พระอนุชาของสมเด็จพระนเรศวร โดยต้องเข้าเรียนการแสดงเป็นระยะเวลากว่า 9 เดือน นอกจากนี้ ท่านก็ยังมีความสามารถในด้านการร้องเพลง โดยได้ทำหน้าที่เป็นนักร้องนำของวงดนตรีของกองทัพอีกด้วย
วันที่ 18 กุมพาพันธ์ พ.ศ.2568 กองทัพบกไทยรายงานว่า ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ลงนาม ในคำสั่งกองทัพบก แต่งตั้ง พลตรี วินธัย สุวารี เป็น โฆษกกองทัพบก เพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงานด้าน การประชาสัมพันธ์ของกองทัพบก ให้สอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน พร้อมประสานร่วมกับทีมโฆษกเหล่าทัพ ในการสื่อสารข้อเท็จจริงต่อสังคมอย่างถูกต้อง และรวดเร็ว
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
ต่อไปนี้จะเป็นการนำข้อความที่ท่านโฆษกได้กล่าวถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ถ้าข้อความยาวเกินไปหรือเนื้อไม่เกี่ยวข้องกับบทความ ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ เนื่องจากผู้เขียนขอนำถ้อยคำที่ท่านแถลงจริงมาเปิดเผย เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันและเพื่อแสดงให้เห็นข้อเท็จจริงอันเป็นประโยชน์แก่พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่าน
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา พลตรีวินธัย สุวารี  โฆษกกองทัพบก รายงานว่า พลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และคณะ เดินทางไปยังจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม  ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เพื่อพบปะหารือกับ พลเอกเมา โซะพัน ผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา และคณะฝ่ายกัมพูชา ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน
ซึ่งเป็นการพบปะเจรจาต่อเนื่อง หลังจากที่ ผบ.ทบ.ทั้ง 2 ฝ่ายได้พูดคุยผ่านทางระบบ VTC เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม โดย ผบ.ทบ.ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียกำลังพลจากเหตุการณ์ปะทะ และเน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญต่อเจตนารมณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของทั้งสองประเทศ ที่ต้องการให้มีการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้ง
พร้อมแสดงจุดยืนสนับสนุนการพูดคุยเจรจาด้วยสันติวิธี ในการหาข้อตกลงร่วมกัน และขอยืนยันว่าจะไม่มีการรุกรานอธิปไตย หรือการหยิบยกประเด็นข้อขัดแย้งในอธิปไตยของกัมพูชาโดยเด็ดขาด การเจรจาครั้งนี้จะส่งผลดีต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ
ส่วนกรณีข้อขัดแย้งบริเวณช่องบก กองทัพบกไทยและกัมพูชา มีความเห็นร่วมกันในการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ Joint Boundary Committee (JBC) ซึ่งเป็นกลไกในระดับรัฐบาลในการเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งผลการประชุม JBC คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในอีก 2 สัปดาห์
โดยปัจจุบันกำลังทั้งสองฝ่ายที่เคยปะทะได้เคลื่อนออกจากพื้นที่แล้ว ถือเป็นการคลี่คลายความตึงเครียดระหว่างกัน ทั้งสองฝ่ายยังมีความเห็นพ้องในการใช้กลไกคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณชายแดน หรือ Regional Border Committee (RBC) เพื่อคลี่คลายข้อสงสัยที่อาจค้างคา และส่งเสริมกลไก JBC ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ผบ.ทบ.ทั้งสองฝ่ายระบุว่า จะกำกับดูแลกำลังพลให้อยู่ภายใต้กรอบการเจรจาอย่างเคร่งครัด โดย ผบ.ทบ.กัมพูชาย้ำว่า ในส่วนของกัมพูชา หากมีผู้ใดฝ่าฝืนข้อตกลงที่ได้ร่วมกันวางไว้ในวันนี้ จะดำเนินการย้ายกำลังออกจากพื้นที่ทันที ยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชาสามารถควบคุมและสั่งการหน่วยงานทุกหน่วยได้อย่างเด็ดขาด
วันนี้ ( 31 พฤษภาคมพ.ศ.2568 ) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงภายหลังมีกระแสข่าวไทยเตรียมปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาตลอดแนวหลังจากมีการปลุกระดมต่อต้านสินค้าไทย ท่านชี้แจงว่า การปิดด่านเป็นส่วนหนึ่งของแผนสำหรับใช้ในการบริหารจัดการสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคงและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน
ซึ่ง ณ ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริงๆ โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน
สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวมส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด
ในช่วงที่มีข่าวความขัดแย้งไทย-กัมพูชา กำลังเป็นประเด็น หรือเหตุการณ์สำคัญด้านความมั่นคงกลายเป็นข่าวใหญ่ ท่านโฆษกกองทัพบก ก็จะออกมาชี้แจงเพื่อให้ข้อเท็จจริง เพื่อคลายความสงสัย เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ชาวไทยทุกท่าน
ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้นในแผ่นดินขวานทองนี้การที่มีกระบอกเสียงอย่างท่านถือว่าเป็นการสร้างความอุ่นใจให้แก่พี่น้องประชาชนในประเทศ กองทัพไม่ได้สร้างทหารน้ำดีแต่ยังสร้างโฆษกน้ำดีให้ประเทศไทย "พลตรี วินธัย สุวารี" สำหรับวันนี้ก็ขอลาไปก่อน สวัสดีครับ
Credit บทความและภาพประกอบ
Post Today
สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก
มติชน
กองทัพบก
KAPOOK
เรียบเรียงบทความ : จ่าหวาน เกรียงไกร
โฆษณา