1 มิ.ย. เวลา 09:27 • การเมือง

พลโท บุญสิน พาดกลาง นักรบผู้ยิ้มยาก

สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่เคารพรักทุกท่าน ในช่วงที่สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังเอาแน่เอานอนไม่ได้ ทหารยังคงไม่ลดบทบาทในการพิทักษ์รักษาชายแดน แม้ว่าพลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก จะมีการชี้แจงแถลงไขว่า จะยังไม่มีการปิดด่านพรมแดนตามที่หลายๆฝ่ายคาดเดา
ในสถานการณ์เช่นนี้ผู้ที่จะสามารถวางกลยุทธ์และรับมือความขัดแย้งในพื้นที่ที่กองทัพภาคที่ 2 กำกับดูแลนั้น คงจะไม่มีใครไม่รู้จัก "แม่ทัพกุ้ง" พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ท่านนี้นี่เอง สำหรับประวัติของท่าน ผู้เขียนขออนุญาตนำมาเป็นเผยเพื่อที่จะเป็นแรงบันดาลใจในการรับราชการทหารของคคนรุ่นใหม่ เรื่องราวของท่านจะเป็นอย่างไร วันนี้เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาผู้เขียนจะขออนุญาตนำเสนอประวัติของแม่ทัพท่านนี้กันครับ
"เราฝึกกำลังพลให้มีความพร้อม ในการป้องกันอธิปไตยของชาติ เป็นปกติอยู่แล้วครับ ขอขอบคุณพี่น้องประชาชน ชาวไทยทุกคน ที่ร่วมแรงร่วมใจกันเป็นห่วง หวงแหนอธิปไตยของชาติ เขตอธิปไตยเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องหารือร่วมกันทั้งสองประเทศ เพื่อให้เป็นที่เข้าใจ และอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข ขอให้มีความอดทนครับ"
"แม่ทัพกุ้ง" พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2
สำนักข่าวเดลินิวส์เปิดเผยข้อมูลว่า พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ท่าน สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 26 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (นายร้อยจปร.) รุ่นที่ 37 โรงเรียนเสนาธิการทหารบก หลักสูตรหลักประจำ ชุดที่ 77
เคยดำรงตำแหน่งสำคัญ อาทิ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3, บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 22, เสนาธิการกองพลทหารราบที่ 3, ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 3, ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 3, รองแม่ทัพภาคที่ 2, แม่ทัพน้อยที่ 2 ก่อนที่จะดำรงตำแหน่ง แม่ทัพภาคที่ 2 ลำดับที่ 44
พลโท บุญสิน ขึ้นดำรงตำแหน่ง แม่ทัพภาคที่ 2 ต่อจาก พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ 2 คนเก่า เมื่อวันที่ 28 กันยายนพ.ศ. 2567 โดยได้ร่วมทำพิธีรับ–ส่งหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 2 ผ่านพิธีสักการะพระศรีสัมพุทธโมลี พระพุทธวิชัยเสนีย์นาถ อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อนุสาวรีย์วีรไทย พระบรมรูป ร.5 พระบรมราชานุสาวรีย์
หลังจากนั้นจึงลงนามเอกสารรับ – ส่งหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 2 ณ ห้องประชุมกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 ก่อนจะเดินทางมายังบริเวณพิธีรับ – ส่งหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 2 ณ ลานหน้าสโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา
ในช่วงกรณีพิพาทเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ท่านยังได้มีบทบาทป้องปรามมิให้กรณีดังกล่าวกลายเป็นสงครามใหญ่ โดยผู้เขียนจะขอยกตัวอย่างบางเหตุการณ์ที่ท่านเข้าไปมีส่วนร่วมเกี่ยวกับกรณีพิพาทในครั้งนี้
วันที่ 18 พฤษภาคมพ.ศ. 2568 พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยถึงกรณีปรากฎภาพทหารกัมพูชา รุกล้ำพื้นที่ เนิน 745 ช่องบก ในพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยพบการสร้างฐานที่มั่น ขุดคูเลท สนามเพลาะ เตรียมตั้งฐาน พร้อมเสริมกำลังเกือบร้อยนาย อาวุธครบมือเตรียมรับมือทหารไทย ท่านกล่าวว่า
เรื่องดังกล่าวทางกองกำลังสุรนารีได้ไปตรวจพบมาสักระยะหนึ่งแล้ว และรายงานให้ตนได้ทราบ โดยทางกองกำลังสุรนารีได้เข้าไปพูดคุยกับทหารกัมพูชา จนกระทั่งมีข้อสรุปได้ยกเลิกการขุดคูดังกล่าว และตกลงถอนกำลังออกจากพื้นที่ทับซ้อนทั้งสองฝ่าย
ก่อนจะนัดมาพบกันตามห้วงเวลาโดยไม่มีอาวุธ รวมถึงได้พูดคุยเรื่องของการลาดตระเวนร่วมกัน ส่วนกรณีตลาดช่องอานม้า ยังทำการค้าขายได้ตามปกติ หากปิดด่านชายแดนก็จะมีผลกระทบกับพี่น้องประชาชนทั้งสองประเทศที่อาศัยใกล้บริเวณชายแดนดังกล่าว และยืนยันเหตุการณ์สามารถพูดคุยกันได้และมีการพูดคุยกัน
วันที่ 28 พฤษภาคมพ.ศ.2568 หลังจากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา จนเป็นเหตุให้มีทหารกัมพูชา 1 นายเสียชีวิต ท่านมีบทบาทสำคัญในการเจรจา หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ที่บริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี หลังพบทหารกัมพูชาขุดคูเรตหรือคูเลต (คูที่ขุดติดต่อกันเป็นทางยาว เป็นการดัดแปลงภูมิประเทศเพื่อเป็นที่มั่นในการปฏิบัติการรบ) หลังเกิดเหตุปะทะท่านลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ
พร้อมยืนยันว่า ทหารไทยทำหน้าที่รักษาอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 ซึ่งในพื้นที่ทับซ้อนของทั้ง 2 ประเทศ จะมีการออกลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายล้ำเข้ามา ซึ่งทุกฝ่ายต้องยึดตามเอ็มโอยู 2543 รวมทั้งได้ปลุกขวัญกำลังพลในพื้นที่ โดยมอบ "พระหลวงปู่ทวดเนื้อว่าน วัดช้างให้" และ "เหรียญหลวงพ่อใหญ่โชคดี" จัดสร้างโดยกองทัพภาคที่ 2
เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการรับภารกิจรักษาธิปไตยแห่งชาติ นอกจากนี้ "แม่ทัพกุ้ง" พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2  ร่วมเป็นหนึ่งในทีมของ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) แกนหลักในการเจรจากับ พลเอก เมา โซะพัน ผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา พร้อมคณะร่วม 18 คน ที่หน่วยประสานงานชายแดน ประจำพื้นที่ 2 สำนักงานประสานงานชายแดนไทยกัมพูชา ช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 เพื่อหาข้อยุติการปะทะในพื้นที่อ้างสิทธิ์
เฟซบุ๊ก กองทัพภาคที่ 2 โพสต์ข้อความระบุว่า เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลัง พลกองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำฐานปฏิบัติ การปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์
พร้อมมอบสิ่งของ ข้าวสาร อาหารแห้ง และให้โอวาทแก่กำลังพล โดยมี พลตรีสมภพ ภาระเวช ผบ.กกล.สุรนารี ร่วมภารกิจ โดยท่านได้กล่าวขอบคุณ และเชื่อมั่น ในการปฏิบัติหน้าที่ของทหารทุกนายว่า "จะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดียิ่ง ยืนยันว่าพวกเราทำถูก ต้องแล้ว พร้อมทั้งขอให้ทหารทุกนายตระหนัก เสมอว่า ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ คอยให้กำลังใจ อยู่เสมออย่าได้ประมาท พร้อมจะเกิดอะไรได้ทุกเวลา ขอให้ติดตามข่าวสารอยู่ตลอดเวลา"
สถานการณ์เช่นนี้ไม่มีแม่ทัพคนใดที่จะทอดทิ้งลูกน้อง ในยามคับขัน ท่านคือผู้บังคับบัญชาที่กล้าตัดสินใจในการเจรจา แทนที่จะทำศึกสงครามแบบในอดีตที่ผ่านมา เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เราเห็นแล้วว่า บางครั้งไม่จำเป็นจะต้องทำการรบด้วยอาวุธหนักเสมอไป เราสามารถเจรจาเพื่อหาข้อยุติไม่ได้เหตุการณ์บานปลายได้
หากเจรจาไม่ได้อาจนำไปสู่สงครามที่ล้างผลาญประชาชนทั้ง 2 ชาติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นี่คือเรื่องราวของท่านแม่ทัพที่กำลังเป็นกระแส ท่านคือทหารไทยที่กล้าหาญในการสร้างสันติภาพระหว่างไทย-กัมพูชาให้มั่นคงในช่วงที่สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ จะมีทหารไทยสักกี่คนที่เลือกหนทางเจรจาแทนการใช้อาวุธ ท่านนี้คือ " พลโท บุญสิน พาดกลาง"
Credit บทความและภาพประกอบ
กองทัพภาคที่ 2
Nation
กอ.รมน.จังหวัดเลย
เดลินิวส์
เรียบเรียงบทความ : นักรบดาวแดง
โฆษณา