1 มิ.ย. เวลา 13:10 • การเมือง

3 เหตุผล ที่ “รัฐบาลเพื่อไทย” ยกเลิกแจกเงิน 10,000 บาท ไม่ได้

  • แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็น “คำมั่นเรือธง” ที่พรรคเพื่อไทยใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งปี 2566 พรรคไม่สามารถ “หักหลังคำพูดตัวเอง” ได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ฐานเสียงใหญ่ เช่น ภาคอีสาน และ ภาคเหนือ
  • รัฐบาลอ้างเหตุจำเป็น เช่น งบประมาณที่หมดใน ก.ย. 68 ความไม่แน่นอนจากกำแพงภาษีสหรัฐ ข้อท้วงติงจาก ธปท. และสภาพัฒน์ เฟส 3 จึงถูกเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด
  • หากรัฐบาลเพื่อไทยยกเลิกแจกเงิน คะแนนนิยมอาจลดฮวบ ถูกประชาชนมองว่า “ผิดคำพูด” เปิดช่องให้ฝ่ายค้านโจมตี กระทบต่อคะแนนเสียงในการเลือกตั้งรอบหน้า
2
โครงการแจกเงินดิจทัล 10,000 บาท น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “โอกาสไทย กับ นายกฯแพทองธาร” หัวข้อ “ปรับแผน เดินหน้า สร้างโอกาสไทย” เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2568 ว่า ทำไมถึงต้องเลื่อนดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 เราจะทำดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเพื่อให้ประชาชนเข้าใกล้กับเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น
ก่อนหน้านั้นยังไม่มีเรื่องของกำแพงภาษีสหรัฐฯ เราก็ต้องปรับเปลี่ยนแผน และมีการท้วงติงอย่างชัดเจนจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นคอมเมนต์ที่เราต้องรับฟัง ฟังเสียงสะท้อนของประชาชน จากฝ่ายค้านด้วย และจากทุกๆ คนด้วย นำเอาความเห็นทุกคนมารวมกัน และหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับประเทศ
“นั่นคือ สิ่งที่รัฐบาลบริหารจัดการ ซึ่งก่อนหน้านั้นที่เราทำเรื่องนี้มา เป็นงบที่วางตั้งแต่ปีที่แล้ว เมื่อเข้างบในปีนี้ ซึ่งงบนี้จะหมดในเดือน ก.ย.นี้ จะใช้งบนี้ไม่ได้แล้ว เราเลยคิดว่า งบก้อนนี้เราพอจะทำอะไรได้บ้าง เราต้องถอยออกมา และมองภาพรวมว่า เมื่อมีปัจจัยอื่นเข้ามาแทรก เราต้องมองเป็นภาพรวมของทั้งประเทศก่อนว่า อะไรที่จะทำให้เงินก้อนนี้ช่วยคนทั้งประเทศได้ดีที่สุด เราเลื่อนเฟส 3 ออกไป”
นายกฯ แพทองธาร ย้ำว่า “ที่บอกว่า พูดมาเลยนายกฯ จะยกเลิกหรือไม่ยกเลิก พูดไม่ได้ค่ะ ถ้าเศรษฐกิจมันดีขึ้น เหตุการณ์มันดีขึ้น เราก็ยังอยากจะให้พี่น้องประชาชนได้รับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเหล่านี้อยู่เช่นกัน”
“ทักษิณ”ลั่นสัญญาไว้ต้องแจกเงินให้ได้
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2568 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ "ฐานเศรษฐกิจ" และสื่อในเครือเนชั่น ในโอกาสเดินทางมาอวยพรวันครบรอบ 55 ปี เนชั่นกรุ๊ป และ 25 ปี เนชั่นทีวี ถึงข้อสงสัยว่า "นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต" จะยังอยู่หรือไม่
นายทักษิณ ตอบว่า งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท ซึ่งเดิมกำหนดไว้สำหรับแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตนั้น ต้องมีการปรับเปลี่ยน เนื่องจากผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ทำให้งบประมาณส่วนนี้ถูกโยกไปสำรอง เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมใช้กระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนสูง
นายทักษิณ ยืนยันว่า นโยบายนี้ยังต้องดำเนินต่อ แต่จะรอให้สถานการณ์เศรษฐกิจเอื้ออำนวยก่อน
“นโยบายที่สัญญากับประชาชนไว้ต้องทำให้ได้ แม้จะมีความล่าช้าบ้างก็ตาม เช่น รถไฟฟ้าค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย หรือ ดิจิทัลวอลเล็ต ที่แม้จะต้องทยอยดำเนินการแต่ต้องไม่ทิ้งคำมั่นสัญญา"
1
ความเป็นมาแจกเงิน 10,000 บาท
นโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท “รัฐบาลเพื่อไทย” เลี้ยวกลับไม่ได้ เพราะมันคือ “สัญญาทางการเมือง” และเป็นหลักหมุดสำคัญของการรักษาฐานมวลชนในเลือกตั้งใหญ่รอบหน้า ปี 2570
นโยบายแจก “เงินดิจิทัล 10,000 บาท” ถูกประกาศเป็น “เรือธง” ของพรรคเพื่อไทย ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งปี 2566 ด้วยคำมั่นว่า จะแจกเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตให้ประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไป เพื่อนำไปใช้จ่ายในพื้นที่ใกล้บ้าน หวังกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้เดินหน้า
แม้ในช่วงหาเสียงจะไม่ชัดเจนว่าใช้เทคโนโลยีใด และใช้งบประมาณจากไหน แต่พรรคเพื่อไทยสามารถสร้างกระแส “จูงใจประชาชน” จนตรึงคะแนนนิยมไว้ได้ แม้จะไม่สามารถเอาชนะ พรรคก้าวไกล ก่อนจะกลายมาเป็น “พรรคประชาชน” ได้ ก็ตาม
1
แต่ในที่สุด พรรคเพื่อไทย ก็รับ “ส้มหล่น” เมื่อพรรคก้าวไกลไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้
หลังพรรคเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาลแล้ว “นโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท” จึงเป็นนโยบายแรกที่รัฐบาลงัดขึ้นมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ และปฏิบัติตาม “สัญญา” ที่ให้ไว้กับประชาชน
แจกเงินเฟส 1-2 เฟส 3 สะดุด
“รัฐบาลเพื่อไทย” ในยุคที่ “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินการแจกเงิน 10,000 บาท
เฟสแรก แจกให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 12,405,954 คน และ ผู้พิการ 2,149,256 คน รวมจำนวน 14,555,240 คน เป็นเงินงบประมาณ 145,552.40 ล้านบาท
เฟส 2 ยุค “นายกฯแพทองธาร” แจกให้กับผู้สูงอายุ ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป จำนวน 4 ล้านคน วงเงินประมาณ 40,000 ล้านบาท
ส่วนเฟส 3 เตรียมแจกเงินให้กับวัยรุ่นอายุ 16-20 ปี จำนวน 2.7 ล้านคน วงเงินงบประมาณ 27,000 ล้านบาท แต่ต้อง “เลื่อนออกไปไม่มีกำหนด
สำหรับ เฟส 4 เตรียมแจกเงินคนกลุ่มอายุ 21-59 ปี คาดว่าจะครอบคลุมผู้ที่มีสิทธิ์ประมาณ 15 ล้านคน จะเงินงบประมาณ 150,000 ล้านบาท
3 เหตุยกเลิกแจกเงินหมื่น"ไม่ได้"
โครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท แม้จะเจอแรงกดดันจากหลายภาคส่วน แต่รัฐบาลภายใต้พรรคเพื่อไทย กลับ “ยกเลิกไม่ได้” ด้วยเหตุผลสำคัญ 3 ประการคือ
1.เดิมพันทางการเมืองของพรรค
แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท คือ “คำมั่นสูงสุด” ในแคมเปญหาเสียง พรรคเพื่อไทยได้อำนาจส่วนหนึ่งเพราะนโยบายนี้ การ “ยกเลิก” เท่ากับ “หักหลัง” คำพูดของตัวเอง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสานและภาคเหนือที่เป็นฐานคะแนนเสียงหลัก
2.เป็นนโยบายประชานิยมที่เรตติ้งสูง
แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ต่างจากนโยบายอื่นๆ เช่น เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ หรือ พักหนี้เกษตรกร โครงการนี้ทำให้ประชาชน “รู้สึกได้ทันที” ว่ามีผลกับชีวิตประจำวัน จึงยากที่จะอธิบาย หากมีการยุติโครงการกลางทาง
1
3.ถอยไม่ได้เพราะคู่แข่งจ้องเสียบ
หากยกเลิกโครงการแจกเงินทันที พรรคประชาชน หรือ พรรคฝ่ายค้านอื่นๆ อาจใช้ประเด็นนี้ตอกย้ำเรื่อง “ตระบัติสัตย์” หรือ “ไม่รักษาคำมั่นสัญญา” ซึ่งจะกระทบต่อความน่าเชื่อถือของผู้นำรัฐบาล และ พรรคเพื่อไทย อย่างรุนแรง
เลิกแจกเงิน-กระทบทางการเมือง
หากรัฐบาลตัดสินใจ ยกเลิกโครงการแจกเงิน 10,000 บาท ที่เหลืออยู่ ผลกระทบทางการเมืองที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่
1.คะแนนนิยมลดฮวบ โดยเฉพาะในเขตชนบทและกลุ่มผู้มีรายได้น้อย
2.เกิดแรงต่อต้านภายในพรรค จากกลุ่ม สส.เขต ที่ใช้โครงการนี้เป็นเครื่องมือสื่อสารกับประชาชน
3.เปิดช่องฝ่ายค้านโจมตีหนัก ทั้งในสภา และบนโลกโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะประเด็น “ล้มเหลวในการบริหารงบประมาณ”
นโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท กลายเป็นเหมือน “ดาบสองคม” ที่พรรคเพื่อไทยเลือกชักออกมาจากฝักแล้ว ไม่สามารถเสียบกลับเข้าไปโดยไม่บาดตัวเอง
1
การจะเดินหน้า หรือ หาทางถอย จึงเป็นศิลปะทางการเมือง ที่ท้าทาย “พรรคเพื่อไทย” ยิ่งนัก...
โฆษณา