2 มิ.ย. เวลา 05:07 • ธุรกิจ

จับตาบิ๊กโปรเจ็กต์ทอท. ขยายสนามบินเฉียด 4 แสนล้าน ภายใต้อุ้งมือเอ็มดีใหม่

การสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) AOT หรือ ทอท. คนใหม่แทน กีรติ กิจมานะวัฒน์ ที่ลาออกไป คาดว่าจะใช้เวลาราว 3 เดือนก็จะแล้วเสร็จ ซึ่งการเข้ามานั่งกุมบังเหียนทอท.ของเอ็มดีคนใหม่ต้องจับตาบิ๊กโปรเจ็กต์ขยายสนามบินเฉียด 4 แสนล้านบาท
ภารกิจสำคัญของเอ็มดีทอท.คนใหม่คงหนีไม่พ้นการเดินหน้าขยาย 6 สนามบินของทอท. และแผนสร้างสนามบินใหม่ 2 แห่ง มูลค่าการลงทุนกว่า 392,870 ล้านบาท แผนแม่บทการพัฒนาสนามบินของทอท.มีเป้าหมายขยายขีดความสามารถของท่าอากาศยานที่เปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบันทั้ง 6 แห่ง เพื่อรองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 170 ล้านคนในปี 2572 และเพิ่มเป็น 240 ล้านคน ภายในปี 2575
โดยในขณะนี้มี 5 สนามบินที่ ทอท.วางไทม์ไลน์การพัฒนาที่ชัดเจนแล้ว ได้แก่ การขยายสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง สนามบินภูเก็ต สนามบินเชียงใหม่ และสนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ซึ่งจะเป็นการลงทุนต่อเนื่องตลอดช่วง 10 ปีนี้ (ปี 2568-2578) ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 2.4 แสนล้านบาท
สนามบินสุวรรณภูมิ
รวมถึงแผนการสร้าง 2 สนามบินใหม่ คือ สนามบินล้านนา และ สนามบินอันดามัน มูลค่าการลงทุนรวม 1.5 แสนล้านบาท ที่อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุน หากรวมทั้งการขยายสนามบินปัจจุบันของทอท.และการสร้างสนามบินใหม่ รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 3.92 แสนล้านบาท
เม็ดเงินการลงทุนส่วนใหญ่จะอยู่ที่การพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งรัฐบาลตั้งเป้าหมายยกระดับสนามบินสุวรรณภูมิให้ติดอันดับ 1 ใน 20 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก ภายใน 5 ปี จากปัจจุบันอยู่ในอันดับ 39 โดยในขณะนี้ทอท.อยู่ระหว่างการทบทวนแผนแม่บทการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิ มูลค่าการลงทุน 1.7 แสนล้านบาท ขยายการรองรับผู้โดยสารเป็น 150 ล้านคน
ขยายสนามบินเชียงใหม่
ไฮไลท์หลักๆนอกจากการขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันตก (East Expansion) และการขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal)ที่จะสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ ในพื้นที่ 4 แสนตรม. และอาคารเทียบเครื่องบิน 6 แสนตรม. รวมถึงรันเวย์ 4 เพิ่มการรองรับเที่ยวบิน 26 เที่ยวบินต่อชั่วโมงแล้ว ทอท. ยังจะตัดแผนการลงทุนในบางโครงการออกไป
เช่น อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ ( North Expansion) และส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันตก (West Expansion) และจะโฟกัสการเปิดพื้นที่ เพื่อขยายการลงทุนใหม่ๆในธุรกิจศูนย์ซ่อมอากาศยาน (MRO) คาร์โก้ อาคารผู้โดยสารทั่วไป หรือ General Aviation : GA (การบินทั่วไป) VIP Terminal
นอกจากนี้ทอท.ยังมีแผนชัดเจนในการขยายท่าอากาศยานดอนเมือง เฟส 3 วงเงินลงทุน 3.6 หมื่นล้านบาท คาดจะเปิดประมูลกลางปี 2568 แล้วเสร็จในปี 2572 รองรับผู้โดยสารจาก 30 ล้านคน เป็น 40 ล้านคนต่อปี โดยจะสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่ (อาคาร 3) รับผู้โดยสารได้ 18 ล้านคนต่อปี เปิดให้บริการปี 2571 และจะปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร อาคาร 1 และ 2 ให้เป็นอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ รองรับผู้โดยสาร 22 ล้านคนต่อปี
ปัจจุบันอยู่ระหว่างออกแบบ คาดว่าจะก่อสร้างปี 2568 และมีแผนจะปรับปรุงพื้นที่กว่า 2.1 หมื่นตร.ม. เพื่อก่อสร้างอาคารรับรองพิเศษ สำหรับเครื่องบินส่วนบุคคล (Private Jet Terminal)
รวมไปถึงโครงการขยายท่าอากาศยานเชียงใหม่ วงเงิน 2.4 หมื่นล้านบาท คาดเริ่มก่อสร้างปลายปี 2568 แล้วเสร็จในปี 2572 ซึ่งจะสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่ มีพื้นที่กว่า 9.5 หมื่นตร.ม.
รวมทั้งจะปรับปรุงอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ทำให้มีพื้นที่ให้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 6.66 หมื่นตร.ม. เพื่อเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารจาก 8 ล้านคนต่อปี เป็น 20 ล้านคนต่อปี
แผนขยายสนามบินภูเก็ต
ทั้งยังจะเดินหน้าลงทุนแผนขยายท่าอากาศยานภูเก็ต วงเงิน 6.2 พันล้านบาท คาดประมูลก่อสร้างในกลางปี 2569 แล้วเสร็จในปี 2572 รองรับผู้โดยสารจาก 12.5 ล้านคน เป็น 18 ล้านคนต่อปี โดยจะก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เพื่อเพิ่มพื้นที่อีกกว่า 1.77 แสนตร.ม.
โครงการพัฒนาท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย วงเงิน 5.8 พันล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2576 เพื่อรองรับผู้โดยสารได้ 3.7 ล้านคนต่อปี โดยจะมีการก่อสร้างขยายลานจอดอากาศยานด้านทิศใต้พร้อมการซ่อมปรับปรุงลานจอดอากาศยานเดิม
การก่อสร้างหลุมจอดอากาศยานด้านทิศเหนือ พร้อมทางขับทางเชื่อมต่อทางวิ่งให้สามารถรองรับเฮลิคอปเตอร์ได้รวม 12 ลำ ส่วนกลุ่มงานอาคารผู้โดยสารจะมีการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารหลังเดิม
พร้อมทั้งก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลังเดิมด้านทิศเหนือและชานชาลา รับส่งผู้โดยสาร หลุมจอดประชิดอาคารรวม 5 หลุมจอด และปรับปรุงถนนภายในท่าอากาศยานจาก 2 ช่องจราจรเป็น 4 ช่องจราจร การก่อสร้างอาคารคลังสินค้า เป็นต้น
ขณะเดียวกันทอท.ยังจะมีแผนจะก่อสร้างสนามบินใหม่ 2 แห่ง ได้แก่ “ท่าอากาศยานอันดามัน” หรือ สนามบินภูเก็ตแห่งที่ 2 บนพื้นที่ 7,300 ไร่ ลงทุนประมาณ 8 หมื่นล้านบาท
ประกอบด้วย การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารเพื่อรองรับผู้โดยสาร 22.5 ล้านคนต่อปี ทางวิ่ง 2 เส้น รองรับเที่ยวบินได้ 43 เที่ยวบินต่อชั่วโมง และหลุมจอดอากาศยาน 44 หลุมจอด ตั้งอยู่อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา ห่างจากสนามบินภูเก็ต 23.4 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการอีก 7 ปี
สนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย
รวมไปถึง“ท่าอากาศยานล้านนา” หรือสนามบินเชียงใหม่แห่งที่ 2 บนพื้นที่ 8,050 ไร่ ลงทุนประมาณ 7 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย
การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารเพื่อรองรับผู้โดยสาร 24 ล้านคนต่อปี ทางวิ่ง 2 เส้น รองรับเที่ยวบินได้ 41 เที่ยวบินต่อชั่วโมง หลุมจอดอากาศยาน 38 หลุมจอด รองรับปริมาณการขนส่งสินค้าทางอากาศได้ 3.2 หมื่นตัน ตั้งอยู่ในอำเภอสันกำแพง จ.เชียงใหม่ และอำเภอบ้านธิ จ.ลำพูน ซึ่งห่างจากสนามบินเชียงใหม่ 22 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการอีก 7 ปี
ทั้งหมดล้วนเป็นบิ๊กโปรเจ็กต์การลงทุนของทอท.ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งต่อไปต้องดำเนินการภายใต้เอ็มดีคนใหม่ ภายใต้การสรรหาของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งก็ต้องจับตาดูว่าจะมีการปรับเปลี่ยนหรือปรับใหม่หรือไม่
โฆษณา