Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หุ้นวันละตัว
•
ติดตาม
3 มิ.ย. เวลา 05:02 • หุ้น & เศรษฐกิจ
SNNP
🇹🇭
กระทิง ที่ราคา 10.50
ราคาปิด 30 พ.ค. 2025
สรุป OppDay SNNP Q1/2025
(ใช้ Google NotebookLM มาช่วย บางคำมันสะกดออกมาผิดบ้าง ต้องมา Double Check อีกที แต่พอใช้มันมาช่วย สะดวกมากเลย)
1. ผลประกอบการทางการเงินที่สำคัญในไตรมาส 1/2025 (Financial Highlights):
- ยอดขายรวม: ปิดที่ 1,486 ล้านบาท.
- การเติบโตของยอดขาย: เติบโต +3% เมื่อเทียบปีต่อปี (YoY).
- ลดลง -8% เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส (QoQ) ซึ่งเป็นเรื่องปกติเนื่องจากไตรมาส 4 เป็นช่วง High Season.
- ยอดขายในประเทศ: เติบโตต่อเนื่องแบบ Double-digit (+10%) YoY. เป็นสัดส่วนหลักประมาณ 70-75% ของยอดขายรวม. ได้แรงหนุนจากสินค้าเดิมที่มีแบรนด์แข็งแกร่ง เช่น เบนโตะ, เจเล่, โลตัส, และเมจิกฟาร์ม รวมถึงการเปิดตัวสินค้าใหม่.
- ยอดขายต่างประเทศ: เริ่มฟื้นตัว (recovery) โดยเฉพาะในเวียดนาม.
- ยอดขายตามประเภทสินค้า:
กลุ่ม Snack: เติบโตประมาณ +7% YoY. เป็นสัดส่วนหลักของรายได้ที่ 55%.
กลุ่ม Beverage: เติบโตประมาณ +5% QoQ.
- ช่องทางการจัดจำหน่ายในประเทศ: Modern Trade ยังเป็นช่องทางหลัก (มากกว่า 60%) ในขณะที่ General Trade ค่อยๆ เพิ่มขึ้น.
- สัดส่วนรายได้ต่างประเทศ: เวียดนามเป็นหลัก (เกือบ 40%) ตามมาด้วยกลุ่มประเทศ CLM (ประมาณ 30%).
- อัตรากำไรขั้นต้น (GP Margin): ปรับตัวดีขึ้นเป็น 30% ในไตรมาส 1/2025 (จาก 29.5% ใน Q1 ปีที่แล้ว)
ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยสาเหตุหลักมาจากการเปิดตัวสินค้าใหม่, การจัดหวัตถุดิบที่มีประสิทธิภาพช่วยประหยัดต้นทุน, ต้นทุนบรรจุภัณฑ์ที่ลดลง, และกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
- อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin): ปรับตัวสูงขึ้นเกือบ 12%.
- อัตราส่วนทางการเงินหลัก: ROIC อยู่ที่ประมาณ 12% ในขณะที่ WACC อยู่ที่ประมาณ 6% ซึ่ง ROIC ยังคงสูงกว่า WACC
2. ภาพรวมธุรกิจและกลยุทธ์ (Business Outlook & Strategy)
- ความท้าทายทางเศรษฐกิจ: สภาวะเศรษฐกิจโลก, สงครามการค้า, และการเมืองในประเทศที่ไม่ชัดเจน ล้วนเป็นความท้าทาย. SNNP มีความระมัดระวังและวางกลยุทธ์ที่รัดกุม.
- การเติบโตในประเทศ:
เป็นผู้นำตลาด: เจเล่มีส่วนแบ่งตลาดกว่า 80% และเบนโตะมีส่วนแบ่งตลาด 78% (เพิ่มขึ้นจาก 75% ในปี 2024) ซึ่งเติบโตสูงกว่าตลาดโดยรวม.
กลยุทธ์หลัก: มุ่งเน้นไปที่แบรนด์หลัก 4 แบรนด์ (เบนโตะ, โลตัส, เจเล่, เมจิกฟาร์ม)
โดยการขับเคลื่อนยอดขายผ่านผลิตภัณฑ์ที่ออกใหม่และกิจกรรมทางการตลาด. ตลาดสแน็ก ทั่วโลกมีขนาดใหญ่และเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยเกือบ 5% โดยเฉพาะในเอเชีย. ตลาดเจลลี่ก็เติบโตเช่นกัน.
โอกาสเสริม: มองตลาด Supplement ในประเทศไทยว่าเป็นตลาดใหญ่ และพยายามต่อยอดจาก Core Brand.
- การเติบโตต่างประเทศ:
เป้าหมายคือ การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเปลี่ยนจากการส่งออก (exporter) ไปสู่การเป็นผู้จัดจำหน่าย (distributor ship).
กลยุทธ์: เน้นการเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคและลักษณะตลาดในแต่ละประเทศ (Localized Approach) เพื่อปรับสินค้าหลักให้เหมาะสม.
เวียดนาม: ยอดขายค่อยๆ ฟื้นตัวจากการแก้ไขปัญหาการจัดจำหน่ายในปีที่แล้ว.
- การควบคุมต้นทุนและการดำเนินงานที่เป็นเลิศ (Operation Excellent):
นอกจากการขยายยอดขายแล้ว บริษัทยังให้ความสำคัญอย่างมากกับการ ควบคุมค่าใช้จ่ายและต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่ม Cost Saving และประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต.
มีการดำเนินโครงการ "Operation Excellent" ที่มีหลายมิติ รวมถึงโครงการประหยัดต้นทุน (cost saving) และการปรับปรุงกระบวนการ (process improvement) โดยลดวิธีการทำงานที่ซ้ำซ้อน.
- เป้าหมายการเติบโตปี 2025: ตั้งเป้าหมายการเติบโตแบบ Double-digit ที่ 10-15%. ในช่วง 4-5 เดือนแรกยังคงเป็นไปตามแผนที่วางไว้.
3. ความยั่งยืนและธรรมาภิบาล (ESG):
- ให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างยั่งยืน ความโปร่งใส และการเป็นบริษัทธรรมาภิบาล.
- ได้รับผลประเมินหุ้นยั่งยืนระดับ "A" ในปีแรกที่เข้าร่วม.
- ได้รับคะแนน 5 ดาว ด้านธรรมาภิบาล 2 ปีติดต่อกัน.
- ได้รับการอนุมัติโครงการต่อต้านการทุจริต (CAC).
- รับผิดชอบต่อสังคมโดยผลิตสินค้าที่ดีต่อสุขภาพและเหมาะสมกับผู้บริโภค.
4. Part Q&A
Q1: บริษัทมีความกังวลใดๆ ใน 1-3 ปี และมีแผนการรับมืออย่างไร?
A1: ความกังวลหลักคือ จะทำอย่างไรให้ธุรกิจเติบโตแบบ Double-digit ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศที่ไม่แน่นอน เช่น สงครามการค้า.
แผนรับมือ: มีทั้งแผนรับและแผนรุก เนื่องจากเป็นสินค้า FMCG จึงต้องศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
โดยมีการทำวิจัย "ANU study" (สำรวจพฤติกรรมผู้บริโภค) ทั่วประเทศกว่า 2,000 ตัวอย่าง เพื่อวางแผนให้ถูกต้อง
เนื่องจากปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น สงครามการค้า บริษัทจึงพยายาม ผลักดันธุรกิจในประเทศที่เป็นฐานหลักให้เติบโตยิ่งขึ้น.
Q2: บริษัทให้ความสำคัญกับสิ่งใดมากที่สุดในการดำเนินธุรกิจ?
A2: การเป็นบริษัทธรรมาภิบาลและการเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ รวมถึงความรับผิดชอบต่อสังคม โดยเฉพาะสินค้าที่ผลิตออกมาต้องดีต่อสุขภาพและเหมาะสมกับผู้บริโภค.
ความต้องการของผู้บริโภค: มีการทำวิจัยตลาด (UN, QA, GR) อย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศเพื่อเรียนรู้และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค.
คุณภาพและการกระจายสินค้าที่ดี: พยายามทำให้พื้นฐานธุรกิจแข็งแรง และมีการทบทวนแผนงานทั้งระยะสั้นและระยะกลางอยู่เสมอ เพื่อปรับตัวต่อปัจจัยภายนอกที่ไม่แน่นอน.
Q3: ตัวเลข ROIC เทียบกับ WACC ในไตรมาส 1 เป็นอย่างไร?
A3: ROIC อยู่ที่ประมาณ 12% ในขณะที่ WACC อยู่ที่ประมาณ 6% ซึ่งหมายความว่า ROIC สูงกว่า WACC เกือบเท่าตัว
Q4: แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 และปี 2025 โดยรวม?
A4: ผู้บริหารไม่สามารถให้ตัวเลขที่แน่นอนได้ แต่ให้เป้าหมายสำหรับทั้งปีอยู่ที่ 10%.
- สถานการณ์ปัจจุบันใน Q2: ฝนมาเร็ว ทำให้ยอดขายเครื่องดื่ม (Beverage) เติบโตไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ แต่ก็ยังคงเติบโตอยู่.
- ภาพรวม: แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่การที่บริษัทศรีนานาพรมีแบรนด์แข็งแกร่งอย่างเจเล่และเบนโตะซึ่งเป็นผู้นำตลาด ทำให้ยังสามารถขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตได้.
- ในสภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ผู้บริโภคมีแนวโน้มจะใช้จ่ายน้อยลงและเลือกซื้อสินค้าที่คุ้นเคย ซึ่งเป็นโอกาสของเจเล่และเบนโตะ.
- ไม่มีตัวบ่งชี้ใดที่แสดงว่าบริษัทจะพลาดเป้าหมายอย่างมีนัยสำคัญ และยังคงใกล้เคียงเป้าหมายการเติบโตแบบ Double-digit.
Q5: มาตรการภาษีนำเข้าของอเมริกาที่เรียกเก็บมีผลกระทบต่อบริษัทอย่างไร และมีแผนรับมืออย่างไร?
A5: มีผลกระทบแต่ ไม่มากนัก เนื่องจากตลาดหลักของบริษัทอยู่ในเอเชียใต้และเอเชียกลาง.
- โอกาส: บริษัทมีฐานผลิตที่เวียดนาม ซึ่งเวียดนามมีข้อตกลง FTA ที่ดี และคาดว่าจะเซ็นสัญญาการค้ากับสหรัฐฯ เสร็จก่อนไทย.
นี่เป็นโอกาสให้บริษัทสามารถส่งออกสินค้าจากเวียดนามไปยังอเมริกาได้มากขึ้นในอัตราภาษีที่ดีกว่า.
Q6: ทำไมยอดขายเวียดนามถึงลดลงใน Q1 ทั้งๆ ที่แก้ปัญหา Distributor ได้แล้ว?
A6: การแก้ไขปัญหาเรื่องการกระจายสินค้าในเวียดนามสำเร็จแล้ว. แต่บริษัทต้องการให้ยอดขาย เติบโตแบบ Organic ซึ่งจะค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่การอัดสินค้าเข้าร้านค้ามากเกินไป.
- ไตรมาส 1 ของปีที่แล้วมียอดขายสูงเนื่องจากการอัดสินค้าเข้าตลาดมาก ทำให้ตัวเลข Q1 ปีนี้เมื่อเทียบกับปีก่อนอาจดูไม่สูงเท่า
เพราะปีนี้เน้นการปรับปรุงฐานรากให้มั่นคง. คาดว่าจะเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นใน Q2.
Q7: เข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ยอดขายในประเทศจะลดลงหรือไม่? และกรณีน้ำท่วมเป็นระยะเวลานาน?
A7: สำหรับฤดูฝน โดยธรรมชาติแล้วไตรมาส 2 จะเป็น Low Season ของธุรกิจ FMCG ในประเทศไทย เพราะฝนตกทำให้คนไม่ค่อยออกไปจับจ่ายใช้สอย การจราจรเข้าร้านค้าน้อยลง และคนใช้จ่ายน้อยลง.
- น้ำท่วม: หากเป็นน้ำท่วมใหญ่เหมือนในอดีตจะมีผลกระทบแน่นอน แต่หากเป็นการท่วมเป็นจุดๆ (เช่น ภาคเหนือ, ภาคใต้) จะไม่ส่งผลกระทบมากนัก.
1
- บริษัทจะบริหารจัดการกับลูกค้าร้านค้าส่ง/ร้านค้าต่างๆ เพื่อไม่ให้สต็อกเสียหาย. ผลกระทบจากการที่ฝนตกทุกวันจนผู้บริโภคไม่ออกจากบ้าน มีผลกระทบมากกว่าการน้ำท่วมเป็นจุดๆ.
Q8: โรงงานในเวียดนามมี Utilization rate เท่าไร และจุด Break-even point อยู่ที่กี่เปอร์เซ็นต์?
A8: Utilization rate โดยเฉลี่ยของโรงงาน 4 แห่งในไทย อยู่ที่ประมาณ 70-80% ตลอดทั้งปี ขึ้นอยู่กับช่วงพีคหรือไม่พีค.
- Utilization rate ของโรงงานที่เวียดนามอยู่ที่ประมาณ 60%.
- โรงงานทุกแห่งที่บริษัทมีอยู่ตอนนี้ ได้ถึงจุดคุ้มทุน (Generate Profit) เรียบร้อยแล้ว.
Q9: สัดส่วนรายได้ปีนี้เป็นอย่างไร มีสินค้าหลักใหม่ๆ ออกสู่ตลาดหลายตัว และอะไรจะเป็นสินค้าเรือธงของปีนี้?
A9: สัดส่วนรายได้เดิมคือ
- ในประเทศ 75%
- ต่างประเทศ 25%
- แบ่งเป็น เครื่องดื่ม (Beverage) 45% และ สแน็ค (Snack) 55%.
- สินค้าเรือธง: ยังคงเป็น สินค้าหลัก 4 แบรนด์ (เบนโตะ, โลตัส, เจเล่, เมจิกฟาร์ม).
- จะไม่มีการทำแบรนด์ใหม่ หรือสินค้าตัวใหม่ที่นอกเหนือจากนี้ แต่จะมีการ ต่อยอดในรูปแบบหรือฟอร์แมตใหม่ๆ ภายใต้แบรนด์เดิม.
Q10: กระแสตอบรับสินค้าเป็นอย่างไรบ้าง หลังมีพรีเซ็นเตอร์ใหม่ๆ ทยอยเปิดตัว เป็นไปตามเป้าที่วางไว้หรือไม่?
1
A10: กระแสตอบรับค่อนข้างดี ดีกว่าที่คาดไว้. สะท้อนจากการที่สถานที่จัดงานไม่เพียงพอรองรับกลุ่มเป้าหมาย ทำให้ต้องเปลี่ยนแผนการจัดงานหลายครั้ง ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดี.
Q11: มีแผนการออกผลิตภัณฑ์กลุ่มอื่นอีกหรือไม่ นอกเหนือจากกลุ่มที่เห็นอยู่?
A11: ภายใต้แบรนด์เจเล่และเมจิกฟาร์ม กลยุทธ์หลักคือการ ออกรสชาติใหม่ๆ ปีละ 1 รสชาติ ต่อ 1 แบรนด์ เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภครู้สึกตื่นเต้น.
- จะเป็นรสชาติใหม่ (New Flavor) หรือรูปแบบใหม่ (New Format) ภายใต้แบรนด์เดิม. มักจะไม่ค่อยออกสินค้าที่มากกว่า 4 แบรนด์หลัก.
Q12: Jele Chewy เปลี่ยนเป็น ซี-นุนิว แล้วดูสดใส มีแผนการเปลี่ยน Packaging สำหรับ J Beauty ด้วยหรือไม่?
A12: ยังไม่มีแผนที่จะเปลี่ยน Packaging ของ J Beauty ในตอนนี้ เนื่องจากเพิ่งถ่ายทำหนังโฆษณาพร้อมพรีเซ็นเตอร์คู่ใหม่และ Packaging ที่ใช้ในโฆษณา.
Q13: ยอดขายต่างประเทศค่อนข้างหายไปเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เกิดอะไรขึ้น และแนวโน้มปี 2025 เป็นอย่างไร?
A13: ยอดขายที่หายไปหลักๆ มาจาก ประเทศเวียดนาม. ในปีที่แล้ว บริษัทได้เข้าไปแก้ไขปัญหาเรื่องการกระจายสินค้าเพื่อให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น.
- แนวโน้มในปีนี้ คือบริษัทต้องการให้การเติบโตของยอดขายเกิดขึ้นจาก Organic Growth อย่างแท้จริง ซึ่งจะค่อยๆ เติบโตขึ้นมาเพื่อสร้างฐานที่ชัดเจน.
- สาเหตุที่ลดลงเมื่อเทียบกับ Q1 ปีที่แล้ว: Q1 ของปีที่แล้วมีการอัดสินค้าเข้าตลาดเวียดนามค่อนข้างเยอะ ทำให้ตัวเลขดูสูง.
หลังจากการปรับปรุงในปีที่ผ่านมา บริษัทใช้เวลาประมาณ 2 ไตรมาสเพื่อแก้ไขปัญหา ดังนั้นตัวเลข Q1 ปีนี้จึงเป็นการสะท้อนการปรับโครงสร้างเพื่อการเติบโตที่มั่นคง ซึ่งจะแตกต่างจากปีที่แล้วที่เน้นการอัดสินค้า.
- คาดว่าตัวเลข Q2 จะเริ่มแสดงความมั่นคงมากขึ้น.
Q14: บริษัทมีแผนในการลงทุนนอกเหนือจาก Core Business บ้างหรือไม่?
A14: ในระยะอันใกล้ ยังไม่มีแผนการลงทุนนอกเหนือจากธุรกิจหลัก. บริษัทต้องการสร้างฐานธุรกิจหลักให้เติบโตอย่างแข็งแรงก่อน.
Q15: ผลการดำเนินงานของ Siri Pro (ธุรกิจการจัดจำหน่าย) ที่เห็นว่าขาดทุนมาตลอด อยากทราบแผนการบริหารจัดการและคิดว่าปีนี้จะเป็นอย่างไร?
A15:
- แผนการบริหาร: เปลี่ยนทีมผู้บริหารใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่ CEO ไปจนถึงระดับ Regional Sales Manager.
- ลดจำนวนคลังสินค้า/ยานพาหนะที่ขาดทุน: จากเดิมกว่า 100 คัน (ที่ก่อให้เกิดการขาดทุนมากที่สุด) เหลือประมาณ 70 คัน.
- แนวโน้มทางการเงิน: ปีที่แล้ว Siri Pro ขาดทุนประมาณ 60 ล้านบาท. ไตรมาส 1 ปีนี้ขาดทุน 9 ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นแนวโน้มที่ดีขึ้น.
- เป้าหมายปีนี้: หวังว่าจะลดการขาดทุนลง หรือ เท่าทุนภายในสิ้นปีนี้ และคาดว่าจะดีขึ้นในปีหน้า.
youtube.com
Oppday Q1/2025 SNNP บมจ. ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง
ติดตามเราได้ที่SET Website: https://www.set.or.th Facebook : https://facebook.com/set.or.thLine (Official Account) : https://line.me/R/ti/p/@setthailandYouTu…
2 บันทึก
1
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย