นักวิทยาศาสตร์ด้านสุริยะ
ได้เผยโฉมภาพใหม่ของสิ่งที่เรียกกันว่า▪️▪️◾
‼️ฝนบนดวงอาทิตย์🌦️‼️
หรือที่แท้จริงแล้วคือ "พลาสมาร้อนจัดในโคโรนา"
ที่ค่อยๆ เย็นตัวลงและร่วงหล่นกลับสู่พื้นผิวดวงอาทิตย์ตามเส้นสนามแม่เหล็กอย่างน่าพิศวง
ปรากฏเป็นหยดสว่างไสวโค้งตัวเป็นวงคล้ายหยด
น้ำฝนตกจากฟ้า แต่เป็นหยดที่อุณหภูมิสูงนับล้านองศา และครั้งนี้ สามารถจับภาพได้ละเอียดที่สุด
เท่าที่เคยมีมา
🌦️ โคโรนา คือชื่อเรียกของบรรยากาศชั้นนอกสุดของดวงอาทิตย์ โดยปกติจะถูกบดบังด้วยแสงอันเจิดจ้าเหนือผิวดวงอาทิตย์ เรียกว่า "โฟโตสเฟียร์" และจะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเฉพาะช่วงเวลาสั้นๆ ระหว่างสุริยุปราคาเต็มดวงเท่านั้นช่วงเวลาที่ดวงจันทร์โคจรบดบังดวงอาทิตย์ทั้งหมดจนแสงเจิดจ้าหมดสิ้น เหลือเพียงขอบสีเงินอมชมพูโค้งๆ เป็นพู่ฟุ้งรอบดวงอาทิตย์เหมือนมงกุฎเงิน ซึ่ง “โคโรนา” ในภาษาละตินแปลว่า “มงกุฎ”
สิ่งที่น่าสนใจและหลายคนอาจยังไม่รู้ก็คือ โคโรนาแม้จะอยู่ไกลจากแกนดวงอาทิตย์กว่าโฟโตสเฟียร์ แต่กลับมีอุณหภูมิสูงกว่ากันอย่างเหลือเชื่อ ด้านในโฟโตสเฟียร์อุณหภูมิประมาณ 5,500°C ขณะที่โคโรนาอาจสูงได้ถึง 1–2 ล้านองศาเซลเซียส
ความร้อนที่มากขนาดนี้ยังคงเป็นปริศนาให้นักดาราศาสตร์ศึกษามาถึงทุกวันนี้
สำหรับภาพชุดล่าสุดนี้ ถ่ายโดยกล้องโทรทรรศน์สุริยะ "Goode Solar Telescope" ขนาด 1.6 เมตร ที่หอสังเกตการณ์ Big Bear Solar Observatory
โดยใช้นวัตกรรมใหม่ล่าสุดชื่อว่า "" Cona"" หรือระบบออปติกแบบปรับตัว ทำงานเหมือนระบบโฟกัสอัตโนมัติสำหรับท้องฟ้า ช่วยปรับความเบลอของภาพที่เกิดจากความปั่นป่วนของชั้นบรรยากาศโลกกว่า 2,200 ครั้งต่อวินาที ทำให้ภาพของปรากฏการณ์สุริยะครั้งนี้คมชัดในระดับที่มองเห็นโครงสร้างพลาสมาได้ละเอียดถึงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 63 กิโลเมตร จากที่ก่อนหน้านี้เคยมองเห็นได้แต่ในขนาดกว่า 1,000 กิโลเมตร
🌦️ ภาพที่ออกมาเต็มไปด้วยเส้นสายและวงโค้ง
ของพลาสมาร้อนที่แต่งแต้มสีชมพูอมแดงด้วยแสง "Hydrogen-alph" ซึ่งเป็นคลื่นแสงเฉพาะจากไฮโดรเจน ทำให้เหมือนหยดน้ำฝนสีชมพูหล่นโปรยปรายกลางอวกาศเหนือดวงอาทิตย์ เป็นภาพ
ที่ทั้งร้อนแรงและหวานละมุนในเวลาเดียวกัน
ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ปรากฏการณ์ฝนโคโรนา
เช่นนี้เกิดจากการที่พลาสมาเย็นตัวลงเร็วในบริเวณเส้นสนามแม่เหล็ก ก่อนควบแน่นและตกลงสู่พื้นผิว ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของมวลสารจำนวนมหาศาลพร้อมการปลดปล่อยพลังงานที่อาจส่งผลถึงโลกได้ถ้าขนาดใหญ่พอ เป็นสาเหตุหนึ่งของพายุสุริยะและลมสุริยะที่ทำให้เกิดแสงเหนือและพายุแม่เหล็กโลกดังที่เห็นในช่วงนี้