4 มิ.ย. เวลา 00:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ข่าวร้ายเศรษฐกิจไทย “ธุรกิจใหม่ลด-ธุรกิจเก่าปิด”

ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังเต็มไปด้วยความผันผวนและปัญหาภายในประเทศอย่างภาระ “หนี้ครัวเรือน” ที่พุ่งสูง สถานการณ์ธุรกิจไทยในเดือนเมษายน 2568 สะท้อนภาพ “เศรษฐกิจไทย” ที่กำลัง “อ่อนแรง” อย่างชัดเจน เมื่อยอดจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ลดลง ขณะที่ยอดเลิกกิจการยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะธุรกิจกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และร้านค้าออนไลน์ ที่เคยเติบโตในช่วงโควิด-19 กำลังชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ
1
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดย อรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่เปิดเผยออกมาล่าสุด เดือนเมษายน 2568 พบว่า มีธุรกิจจัดตั้งใหม่ 6,325 ราย ลดลง 205 ราย หรือ 3.14% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ทุนจดทะเบียนรวมกลับเพิ่มขึ้น 17.86% อยู่ที่ 32,141 ล้านบาท สะท้อนแนวโน้ม “น้อยรายแต่รายใหญ่” ที่เริ่มปรากฏให้เห็น
โดยประเภทธุรกิจยอดนิยม 3 อันดับแรก ได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไป (502 ราย) อสังหาริมทรัพย์ (439 ราย) ภัตตาคาร/ร้านอาหาร (264 ราย) นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจทุนใหญ่เกิน 1,000 ล้านบาท 2 ราย ได้แก่ บมจ.กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ทุนจดทะเบียน 14,940 ล้านบาท บจ.อิเดมิตสึ อพอลโล (ประเทศไทย) ทุนจดทะเบียน 1,580 ล้านบาท
ช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 (ม.ค.-เม.ย.) มีธุรกิจใหม่ 30,148 ราย ลดลง 4.39% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ทุนจดทะเบียนรวมพุ่งแตะ 112,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 17.7% ธุรกิจที่ลดลงอย่างชัดเจน ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์, ขายปลีกทางอินเทอร์เน็ต, ร้านค้าทั่วไป, ตัวแทนนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งสาเหตุหลักมาจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว หนี้สินครัวเรือนภายในประเทศ และ นโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่ยังไม่แน่นอน
ในทางกลับกัน ธุรกิจที่ยังเติบโตดี ได้แก่ ขายส่งสินค้าทั่วไป, ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์, ธุรกิจโรงแรม, โรงพยาบาล, รถยนต์มือสอง โดยมีปัจจัยสนับสนุน คือ มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวและ เทรนด์สุขภาพ
ในเดือนเมษายน 2568 มีธุรกิจเลิกกิจการ 814 ราย เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อน ขณะที่ทุนจดทะเบียนเลิกหายไป 18.94% เหลือเพียง 4,131 ล้านบาท สะสม 4 เดือนแรกของปีนี้ มีธุรกิจเลิกแล้ว 3,921 ราย เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 8.34% ทุนเลิกรวม 15,990 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 6.16% สำหรับภาพรวมธุรกิจไทย ณ เดือนเมษายน 2568 พบว่า นิติบุคคลจดทะเบียนทั้งหมด 1.99 ล้านราย ดำเนินกิจการอยู่ 947,791 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 22.34 ล้านล้านบาท ประเภทนิติบุคคล เป็น บริษัทจำกัด 748,685 ราย (ทุนรวม 16.53 ล้านล้านบาท)
ห้างหุ้นส่วนจำกัด197,616 ราย (ทุนรวม 0.43 ล้านล้านบาท) บริษัทมหาชน 1,490 ราย (ทุนรวม 5.38 ล้านล้านบาท) กลุ่มธุรกิจหลักที่ยังดำเนินกิจการ ได้แก่ บริการ 512,359 ราย (ทุน 12.85 ล้านล้านบาท) ค้าส่ง/ค้าปลีก 310,856 ราย (ทุน 2.57 ล้านล้านบาท) การผลิต 124,576 ราย (ทุน 6.92 ล้านล้านบาท)
แม้ทุนจดทะเบียนรวมยังเพิ่ม แต่จำนวน “ธุรกิจใหม่” ที่ลดลง และการ “เลิกกิจการ” ที่ยังสูง สะท้อนสภาพ “เศรษฐกิจไทย” ที่ยังเปราะบาง โดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มอีและรายย่อย ที่เป็นฟันเฟืองสำคัญของระบบเศรษฐกิจ หากไม่มีมาตรการช่วยเหลือ หรือ กระตุ้นการใช้จ่ายอย่างตรงจุด ความเปราะบางนี้อาจลุกลาม และกลายเป็นวิกฤตเศรษฐกิจระดับโครงสร้างในอนาคตอันใกล้ได้
1
หันไปดูข่าวดี... เมื่อ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้วางกรอบวงเงิน 5,000 ล้านบาท จัดทำสินเชื่อ Pre Finance Premium สำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ในพื้นที่ทำเลที่มีศักยภาพ 27 จังหวัด ที่ต้องการซื้อที่ดิน ก่อสร้างอาคาร พัฒนาสาธารณูปโภค และคํ้าประกันที่เกี่ยวเนื่องกับการจัดทำโครงการ
โดยจะได้รับอัตราดอกเบี้ย ปีแรก เท่ากับ 3.90% ต่อปี, ปีที่ 2 เท่ากับ 4.40% ต่อปี, ปีที่ 3 เท่ากับ 4.60% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 4.30%), ปีที่ 4-5 เท่ากับ MLR (อัตราดอกเบี้ย MLR ของ ธอส. ปัจจุบัน เท่ากับ 6.10%)
การจัดทำโครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์ โดย 27 จังหวัดสามารถยื่นขอสินเชื่อ Pre Finance Premium ของ ธอส. ในครั้งนี้ ประกอบด้วย กรุงเทพ ฯ และ 5 จังหวัดปริมณฑล ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม, 3 จังหวัด EEC ได้แก่ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ,
18 จังหวัดยุทธศาสตร์ ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา สระบุรี เชียงใหม่ เชียงราย นครสวรรค์ พิษณุโลก ลำพูน อุดรธานี ขอนแก่น มหาสารคาม อุบลราชธานี นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และ สงขลา ใครสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ
ปิดท้ายกันที่ ...หนึ่งภาพจากศรัทธา สู่ความงดงามของพระพุทธศาสนาที่ยั่งยืน ขอเชิญส่งภาพเข้าร่วมโครงการประกวดภาพถ่าย ภารกิจคณะสงฆ์ 6 ด้าน ภายใต้หัวข้อ “ส่องพระธรรม (ทำ) นำพระพุทธศาสนายั่งยืน” ชิงโล่ประทานจากสมเด็จพระสังฆราชฯ พร้อมเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 732,000 บาท
จัดโดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ร่วมกับ วัดอรุณราชวราราม และ สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จุดประสงค์โครงการเพื่อการถ่ายทอดข้อมูล ความรู้ และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับภารกิจของคณะสงฆ์ให้ประชาชนได้รับทราบอย่างกว้างขวาง
ผ่านมุมมองของภาพถ่ายที่ถ่ายทอดเรื่องราวและภาพประทับใจในพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ไทย ระยะเวลาเปิดรับผลงาน : 20 พ.ค.- 14 มิ.ย. 2568 (ปิดระบบรับภาพ 23.59 น.) ประกาศผลภาพที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายเพื่อเปิดให้สาธารณชนร่วมสังเกตการณ์และร้องเรียน รวมถึงประกาศผลการตัดสินภายในเดือน มิ.ย. 2568 ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับภารกิจคณะสงฆ์ทั้ง 6 ด้าน ส่งภาพ-ดูรายละเอียดกติกาเพิ่มเติม : https://rpst.or.th/home/gallerydetails.php?id=121
โฆษณา