3 มิ.ย. เวลา 21:46 • ข่าว

ความฝันกลางอากาศร้อน และก้าวเล็กๆ ของกฎหมายไทย

ในวันที่โลกหมุนเร็วขึ้นด้วยพายุ ความร้อน และฝนที่ไม่ตรงฤดู ประเทศต่าง ๆ ก็เริ่มตระหนักว่าสภาพอากาศไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป โดยเฉพาะในอาเซียน ภูมิภาคที่มีทั้งฝน เขตร้อน พื้นที่เกษตรกรรม ฟาร์มกุ้ง กาแฟ และโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ยังเป็นฟันเฟืองหลักของเศรษฐกิจ
🌿 “Net Zero” คำนี้เราได้ยินกันมากี่ปีแล้ว ? หลายคนอาจมองว่าเป็นเป้าหมายของอนาคตอันไกล แต่ในความเป็นจริง มันคือ ภารกิจของปัจจุบัน ที่หลายประเทศกำลังเร่งเดินหน้า และปรับตัวให้ทันกับกฎระเบียบโลกที่เข้มงวดขึ้น
📍 อาเซียน หลากหลายเป้าหมาย หนึ่งอนาคตเดียวกัน
ปัจจุบัน อาเซียนที่มีประเทศสมาชิกทั้งหมด 10 ประเทศ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทุกประเทศในอาเซียนได้ประกาศเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน "แต่" มีแนวทางที่เหมาะสมกับสถาณการ์ณของตัวเอง ได้แก่ Carbon Neutrality, Net Zero และยังไม่มีเป้าหมายที่ขัดเจน แต่มีมาตรการในการลดคาร์บอนต่างๆ ที่ประกาศใช้
ความแตกต่างระหว่าง "ความเป็นกลางทางคาร์บอน" (Carbon Neutrality) และ "Net Zero"
• ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) :
หมายถึง เป้าหมายลดการปล่อย คาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) สุทธิเป็นศูนย์ โดยอาจใช้การชดเชย (Carbon Offset) ผ่านการปลูกป่า หรือซื้อคาร์บอนเครดิต อย่างไรก็ตาม เป้าหมายนี้ไม่ได้รวมก๊าซเรือนกระจกชนิดอื่นเหมือน Net Zero
• Net Zero
มุ่งเน้นให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด (รวมถึง CO₂, มีเทน (CH₄), ไนตรัสออกไซด์ (N₂O) และอื่นๆ) สุทธิเป็นศูนย์ โดยเน้นการลดการปล่อยให้ได้มากที่สุดก่อน แล้วจึงชดเชยส่วนที่เหลือ
♟️รายละเอียดเป้าหมายและแผนของแต่ละประเทศ
นี่คือข้อมูลเป้าหมาย Net Zero และแผนหลักของแต่ละประเทศในอาเซียน โดยข้อมูลอิงจาก Nationally Determined Contributions (NDC) และกลยุทธ์ระยะยาวที่ยื่นต่อ UNFCCC
1. ประเทศที่มีเป้าหมาย "ความเป็นกลางทางคาร์บอน" (Carbon Neutrality)
• กัมพูชา :
มีเป้าหมาย เป็นกลางคาร์บอนในปี 2050 โดยใช้คำว่า "Carbon Neutrality" ในเอกสาร LTS4CN เน้นการลดการตัดไม้ทำลายป่าและพลังงานสะอาด
• ไทย :
มีเป้าหมาย เป็นกลางคาร์บอนในปี 2050 (ก่อนไปสู่ Net Zero ในปี 2065)
2. ประเทศที่มีเป้าหมาย "Net Zero"
• บรูไน :
เป้าหมาย Net Zero ในปี 2050 โดยใช้นโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เน้นพลังงานหมุนเวียนและการอนุรักษ์ป่า
• อินโดนีเซีย :
เป้าหมาย Net Zero ในปี 2060 โดยระบุชัดเจนว่าเป็น "Net Zero Emissions" เน้นลดการใช้ถ่านหินและเพิ่มพลังงานหมุนเวียน
 
• ลาว :
เป้าหมาย Net Zero ในปี 2050 โดยใช้คำว่า "Net Zero" ในแผนการลดการปล่อยก๊าซ 60% ภายในปี 2030 และไปสู่ศูนย์ในปี 2050
• มาเลเซีย :
เป้าหมาย Net Zero ในปี 2050 โดยระบุ "Net Zero GHG Emissions" ใน National Energy Transition Roadmap
• สิงคโปร์ :
เป้าหมาย Net Zero ในปี 2050 และมีแผน Singapore Green Plan 2030 เน้นภาษีคาร์บอนและพลังงานสะอาด
• เวียดนาม :
เป้าหมาย Net Zero ในปี 2050 ใน Power Development Plan 8 โดยเน้นพลังงานหมุนเวียน
3. ประเทศที่ยังไม่มีเป้าหมายชัดเจน
• ฟิลิปปินส์ :
มีเพียงแผนลดการปล่อยก๊าซใน National Climate Change Action Plan
• เมียนมา :
มีเพียงเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซในบางภาคส่วนใน NDC
.
📁 Source :
www.unfcc.int
แม้แต่ละประเทศจะมีเส้นทางการลดคาร์บอนด้วยนโยบายที่ต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ “ไม่มีเวลาให้รอ” การลดการใช้ถ่านหิน, การส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน, การเปลี่ยนสารทำความเย็นไปใช้ HFO หรือธรรมชาติ เช่น CO₂ ล้วนเป็นจิ๊กซอว์ที่ช่วยประกอบภาพ Net Zero ให้สมบูรณ์ขึ้น
จากข้อมูลข้างต้น หลายประเทศในอาเซียนประกาศชัดว่าจะ ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 แล้วประเทศไทยของเราล่ะ ? เราวางหมุดหมายไว้ที่ ปี 2065 ใช่ค่ะ เราช้ากว่าคนอื่นหน่อย แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่ทำอะไรเลย
⚖️ พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
กว่าจะไปถึงจุด Net Zero ตอนนี้ไม่ใช่แค่การรณรงค์ให้ปลูกต้นไม้หรือลดใช้พลาสติก แต่ต้องมี กฎหมายที่เข้มแข็ง มาควบคุมและผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจริงจัง
นั่นจึงเป็นที่มาของ "พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ" ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ไทยบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality ในปี 2050 และ Net Zero ในปี 2065 โดยมีมาตรการที่ออกแบบมาเพื่อควบคุมและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และมีหมวดหมู่ที่เกี่ยวข้องกับการบังคับลดการปล่อยคาร์บอน เช่น
• หมวด 7 : รายงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
• หมวด 8 : ระบบซื้อขายสิทธิปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Emission Trading System - ETS)
• หมวด 10 : ภาษีคาร์บอน (Carbon Tax)
• หมวด 11: คาร์บอนเครดิต (Carbon Credit)
มาตรการเหล่านี้มุ่งสร้างกลไกทั้งภาคบังคับและส่งเสริมเพื่อให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตามพันธกรณีระหว่างประเทศและแผน Net Zero
นอกจากนี้ประเทศไทยยังได้จัดทำ แผนแม่บทรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. 2558-2593 เพื่อเป็นแนวทางในการปรับตัวและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอีกด้วย
เราคงไม่สามารถเปลี่ยนโลกในวันเดียว แต่การมี “กฎหมายที่ชัดเจน” และ “เป้าหมายที่จริงจัง” คือจุดเริ่มต้นที่ดี เหมือนกับประเทศไทยเอง แม้จะถึงเป้าหมายช้ากว่าใคร แต่ก็ถือว่า พรบ.ฉบับนี้จะเป็นหมุดหมายให้เราเดินให้ถูกทาง อย่างไม่เร่งรีบ แต่ตั้งใจ ด้วยความร่วมมือกันของทุกภาคส่วน
สู่ปีที่ 11 𝗚𝗿𝗼𝘄𝗶𝗻𝗴 𝗚𝗿𝗲𝗲𝗻𝗲𝗿 l 𝗖𝗼𝗹𝗱𝗲𝗿 𝗦𝗼𝗹𝘂𝘁𝗶𝗼𝗻 ยืนหยัดในความเปลี่ยนแปลง สู่โลกที่ยั่งยืน
ติดต่อเรา :
Line id : @Colder หรือคลิก : https://lin.ee/VEnKS4M
#NetZero #น้ำยาแอร์ #สารทำความเย็น #ColderSolution #สัมมนาฟรี
โฆษณา