3 มิ.ย. เวลา 22:15 • ธุรกิจ

เศรษฐศาสตร์ความเย็น 101

หนึ่งในวิธีประหยัดพลังงานและลดภาระค่าใช้จ่ายของ ชิลเลอร์ ที่ ACT เคยแนะนำไป ในยุคที่ทุกคนต้องการความเย็นที่มีประสิทธิภาพ แต่ไม่อยากจ่ายในราคาที่สูง คือการเลือกใช้บริการ Cooling as a Service (CaaS)
เราได้ทราบไปแล้วว่า โรงแรมในประเทศไทย ปริมาณการใช้ไฟฟ้ากว่า 57% มาจากระบบปรับอากาศ การปรับปรุงประสิทธิภาพระบบทำความเย็นจึงเป็นกุญแจสำคัญ ที่จะไขประตูแห่งการลดภาระค่าใช้จ่ายได้อย่างมีนัยสำคัญ
โมเดล CaaS (Cooling as a Service) แม้จะใหม่ แต่ก็กำลังเป็นที่น่าจับตามองอย่างมาก ปัจจุบัน หลายโครงการ อาคาร และโรงแรม ได้เริ่มนำมาปรับใช้แล้ว ตัวอย่างเช่น โรงแรมไมด้า นครปฐม ที่เราได้มีส่วนร่วมในการดูแล รวมถึงโครงการโรงแรมอื่น ๆ ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2025
📊 เศรษฐศาสตร์เบื้องหลัง CaaS คุ้มจริงไหม ?
1.ค่าใช้จ่ายต่อหน่วยความเย็น
ต้นทุนต่อหน่วยความเย็น "จ่ายเฉพาะสิ่งที่ได้รับ" รูปแบบการคิดค่าใช้จ่ายของ CaaS เหมือนการสมัคร NetFlix ที่จ่ายค่าบริการรายเดือนโดยที่คุณไม่ต้องลงทุนซื้อหนังทุกเรื่อง
ลูกค้าจะชำระเงินตามปริมาณความเย็นที่ใช้จริง โดยมักกำหนดเป็นอัตราคงที่ต่อชั่วโมงต่อหนึ่งตันความเย็น ซึ่งค่าบริการนี้ครอบคลุมทั้งต้นทุนอุปกรณ์ การบำรุงรักษา และค่าไฟฟ้า ดังนั้นผู้ใช้จ่ายเงินเฉพาะ “ความเย็น” ที่ได้รับ ไม่มีค่าใช้จ่ายลงทุนล่วงหน้า และไม่มีค่าดูแลรักษาแอบแฝง
ในโมเดลนี้ ผู้ให้บริการมักเป็นผู้รับผิดชอบค่าไฟฟ้าเอง ทำให้มีแรงจูงใจสูงในการใช้อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงเพื่อลดการใช้พลังงานต่อหน่วยความเย็น รูปแบบการคิดค่าบริการนี้ช่วยให้ลูกค้าเห็นค่าใช้จ่ายต่อหน่วยที่ชัดเจน และกระตุ้นให้ลดการใช้ความเย็นฟุ่มเฟือย เพราะคุณต้องจ่ายตามใช้จริง .
2.ต้นทุนรวมตลอดอายุสัญญา
"ลงทุนอย่างไรให้ไม่เป็นภาระ" เมื่อเทียบกับการลงทุนเอง (CAPEX+OPEX) โมเดล CaaS ทำให้ลูกค้าสามารถหลีกเลี่ยงการลงทุนก้อนใหญ่ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญที่สุดในการติดตั้งระบบทำความเย็นประสิทธิภาพสูง ลูกค้าไม่ต้องจ่าย CAPEX ล่วงหน้า ขณะที่ OPEX จะอยู่ในรูปค่าสัญญารายเดือนที่รวมทุกอย่างแล้ว
การเปรียบเทียบต้นทุนตลอดอายุโครงการมักพบว่า โมเดล CaaS สามารถลดค่าใช้จ่ายตลอดอายุโครงการเมื่อเทียบกับการลงทุนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรวมผลประหยัดพลังงานเข้าไป
📄 Case Study : อาคารสำนักงาน 100 ห้อง ในประเทศโคลอมเบีย เลือกติดตั้งระบบปรับอากาศศูนย์กลางผ่านโมเดล CaaS และได้ใช้ชิลเลอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง พบว่าประหยัดเงินได้ประมาณ 5 ล้านยูโร ตลอดอายุสัญญา (20 ปี) เมื่อเทียบกับการใช้ระบบเดิมที่ลงทุนเองทั้งหมด
ซึ่งหมายความว่า เจ้าของอาคารสามารถนำเงินที่ต้อง "ลงทุนเอง" จำนวนนั้น ไปเพิ่มขีดจำกัดในธุรกิจด้านอื่นๆ
กรณีลงทุนเอง เพื่อติดตั้งระบบทำความเย็นที่มีประสิทธิภาพสูง มักต้องเผชิญกับระยะเวลาคืนทุน (Payback Period) ประมาณ 5-10 ปี ในทางกลับกัน โมเดล CaaS ช่วยให้ผู้ใช้ได้เข้าถึงระบบทำความเย็นประสิทธิภาพสูงได้ทันทีโดยไม่ต้องลงทุนเอง ลดภาระ CAPEX เหลือศูนย์ และยังได้ประโยชน์จากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) ที่ลดลงทันที
กล่าวคือ ROI สำหรับผู้ใช้เป็นบวกตั้งแต่ปีแรก เพราะไม่มีการจมทุนและค่าใช้จ่ายผันแปรรวมลดลง ขณะเดียวกัน ผู้ให้บริการสามารถกำหนดค่าบริการที่ครอบคลุมต้นทุนและกำไรตามที่คาดหวัง ส่งผลให้ทั้งสองฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ส่วนผู้ให้บริการมีรายได้มั่นคงและต่อเนื่อง
โมเดล CaaS จึงไม่เพียงเป็นทางเลือกใหม่ แต่ยังเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการสามารถลดความเสี่ยงจากการลงทุน พร้อมทั้งใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยโดยไม่ต้องเผชิญกับภาระต้นทุนก้อนโต
3. ผลตอบแทนการลงทุน (ROI),ระยะคืนทุน (Payback),IRR
• มุมมองของลูกค้า : สำหรับผู้ใช้บริการ CaaS ผลตอบแทนทางการเงินเกิดขึ้นทันทีเนื่องจากไม่ต้องใช้เงินลงทุน (CAPEX) ตั้งแต่ต้น ROI จึงเป็นบวกตั้งแต่ปีแรก เพราะค่าใช้จ่ายความเย็นที่จ่ายผ่านสัญญามักจะต่ำกว่าหรือใกล้เคียงกับค่าใช้จ่ายรวม (ค่าไฟ+ค่าบำรุงรักษา) ของระบบเดิม แต่ได้ระบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า
การเปลี่ยนมาใช้ CaaS ถือว่า “คืนทุนตั้งแต่วันแรก” ผ่านการประหยัดค่าใช้จ่ายรายเดือนและหลีกเลี่ยงค่าเสียโอกาสของเงินลงทุนก้อนใหญ่.
• มุมมองของผู้ให้บริการ : ผู้ให้บริการ CaaS จะได้รับกระแสรายได้ระยะยาวที่มั่นคงจากสัญญาลูกค้า ซึ่งโดยทั่วไปจะกำหนดให้ผู้ให้บริการได้รับ ผลตอบแทนการลงทุนที่น่าพอใจ ในรูปของ IRR (Internal Rate of Return) หรือ อัตราผลตอบแทนภายในโครงการ
มีการวิเคราะห์ว่าโมเดลนี้สามารถให้กำไรสะสมตลอดอายุโครงการสูงกว่าการขายขาดอุปกรณ์อย่างเดียวได้มากกว่า 18% และมากกว่าการแค่รับจ้างบำรุงรักษาระบบเก่ามากถึง 28%
👑 นั่นหมายถึง IRR ของผู้ให้บริการอยู่ในระดับสูงกว่าการลงทุนขายอุปกรณ์ปกติ โดยที่ลูกค้าก็ยังได้ประหยัดเงิน (win-win)
4. ตัวเลขการประหยัดพลังงาน
หนึ่งในข้อเด่นที่สุดของ CaaS คือการปรับปรุงประสิทธิภาพพลังงานของระบบทำความเย็น ส่งผลให้ใช้ไฟฟ้าน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับระบบเดิมหรือมาตรฐาน โดยทั่วไป CaaS มาพร้อมกับอุปกรณ์และการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม จึงเห็นการประหยัดไฟฟ้าเฉลี่ย 20% และอาจมากถึง 50-70% ในบางโครงการขึ้นอยู่กับสภาพเดิมของระบบและมาตรการเสริม
ผู้ให้บริการเองก็ได้รับส่วนแบ่งประโยชน์จากการลดการใช้พลังงานนี้ เพราะค่าไฟฟ้าที่ลดลงหมายถึงต้นทุนของผู้ให้บริการลดลงและกำไรเพิ่มขึ้น นับเป็นแรงจูงใจในการปรับปรุงประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องตลอดอายุสัญญา
5. ตัวเลขการลดคาร์บอน
นอกจากผู้รับบริการ และ Service Provider CaaS จะได้รับประโยชน์กันทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว ยังส่งผลให้สิ่งแวดล้อมได้รับผลพลอยได้ไปด้วย เช่น Case Study จาก พอร์ตโฟลิโอของ Service Provider รายใหญ่ในประเทศเพื่อนบัานอย่างสิงคโปร์ CaaS ช่วยลดการปล่อย CO₂ ได้รวมกว่า 35,000 ตันต่อปี เทียบเท่าการปลูกต้นไม้กว่า 1.7 ล้านต้น
⚠️ ข้อควรพิจารณาก่อนเลือกใช้บริการ Cooling as a Service
แม้ CaaS จะมีข้อดีหลายประการ แต่ผู้ประกอบการก็ควรพิจารณาประเด็นอื่นๆ เช่น ระยะเวลาสัญญา ซึ่งผูกพันกับผู้ให้บริการระยะยาว (10-20 ปี) ความน่าเชื่อถือ ประสบการณ์ และความมั่นคงของผู้ให้บริการ และรายละเอียดสัญญาเกี่ยวกับอัตราค่าบริการที่ผูกกับการใช้พลังงาน
🏭 ธุรกิจของคุณสามารถใช้บริการ Cooling as a Service ได้หรือไม่ ?
ปัจจุบันจากข้อมูลทั่วโลก โมเดล Cooling as a Service สามารถนำไปปรับใช้ได้กับอาคารและธุรกิจหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นอาคารใหม่ หรือ Retrofit อาคารเก่า ทั้งอาคารสำนักงาน อาคารเชิงพาณิชย์ สนามบิน ห้างสรรพสินค้า มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล และโรงแรม รวมถึง ศูนย์ข้อมูล (Data Centers) ที่ใช้พลังงานมหาศาล
และเริ่มมีการใช้ในภาคอุตสาหกรรมและห้องเย็น โดยการบริการคล้ายกับแนวคิด “refrigeration-as-a-service” .
โดยสรุป แทบทุกประเภทอาคารที่มีการใช้ระบบปรับอากาศหรือทำความเย็นขนาดใหญ่ ที่มีขนาดและภาระโหลดความเย็นมากพอที่จะคุ้มค่าสำหรับผู้ให้บริการและผู้รับประโยชน์ สามารถใช้ประโยชน์จาก CaaS ได้
สำหรับประเทศไทยและพื้นที่อาเซียน ยังมีโครงการ CaaS ไม่มากนัก แต่หลายประเทศเริ่มให้ความสำคัญกับการส่งเสริมโมเดลนี้ควบคู่ไปกับ National Cooling Plan นอกจากนี้ องค์กรนานาชาติอย่าง UNEP Cool Coalition และ ASEAN เองก็ส่งเสริมแนวทาง CaaS เป็นหนึ่งในวิธีการลดโลกร้อนในภาคเมืองร้อนชื้น
ในอนาคตอันใกล้ เราคาดว่าจะได้เห็นโครงการนำร่องที่ประสบความสำเร็จจากการใช้โมเดล CaaS เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แล้วคุณล่ะ จะรออะไร ? เพราะความสำเร็จครั้งต่อไป อาจจะเริ่มต้นจากการตัดสินใจของคุณ เปลี่ยนอนาคตการใช้พลังงานไปร่วมกับเรา
𝗔𝗖𝗧 : 𝗔𝗱𝘃𝗮𝗻𝗰𝗲 𝗖𝗼𝗼𝗹 𝗧𝗲𝗰𝗵𝗻𝗼𝗹𝗼𝗴𝘆 ในฐานะบริษัทที่ได้รับการรับรอง ESCO (Energy Service Company) และมีความเชี่ยวชาญในการวัดและยืนยันประสิทธิภาพของระบบปรับอากาศ พร้อมด้วย ใบรับรอง PMVA
ดูข้อมูล CaaS เพิ่มเติม : https://www.advance-cool.com/servicedetail?ref=S0162
เราพร้อมช่วยให้คุณเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงวันนี้ ด้วยประสบการณ์มากกว่า 30 ปีในด้านปรับอากาศและทำความเย็น ทุกธุรกิจ ทั้งในและต่างประเทศ
ติดต่อเรา
Line id : @advancecool หรือคลิก https://lin.ee/Uv6td2a
#CoolingAsAService #CaaS #ACT #EnergyEfficiency #ลดต้นทุน #ประหยัดพลังงาน #Chiller #ชิลเลอร์ #HVAC #ESCO #PMVA #SmartCooling #MeasurementAndVerification #EnergyEfficiency #ChillerUpgrade
โฆษณา