4 มิ.ย. เวลา 05:55 • ข่าวรอบโลก

อี แจ-มย็อง ชนะเลือกตั้งเกาหลีใต้ รับไม้ต่อยุควิกฤตการค้าโลก

  • อี แจ-มย็อง จากพรรคประชาธิปไตยเกาหลี (DPK) ได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ครั้งที่ 21 เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน
  • เกาหลีใต้ซึ่งมีประชากร 51 ล้านคน ขณะนี้กำลังเป็น “สังคมสูงวัยระดับสุดยอด” และมีอัตราการเกิดต่ำที่สุดในโลก ประเทศกำลังเผชิญกับการปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจ
  • อี แจ-มย็อง ปรับภาพลักษณ์เป็นผู้สนับสนุนพันธมิตร โดยกล่าวว่าความสัมพันธ์นี้คือรากฐานของการทูตเกาหลีใต้
ท่ามกลางความหวังครั้งใหม่ของชาวเกาหลีใต้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 79% ออกมาใช้สิทธิอย่างคึกคักในวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ “อี แจ-มย็อง” จากพรรคประชาธิปไตยเกาหลี (DPK) คว้าชัยชนะอย่างถล่มทลายด้วยคะแนนเสียง 49.42% ก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีเกาหลีใต้ คนที่ 14 ของประเทศ พร้อมเสียงข้างมากในสภา ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นในยุคของผู้นำก่อนหน้า
การเลือกตั้งครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังประเทศเผชิญวิกฤตการเมืองและรัฐธรรมนูญต่อเนื่องนาน 6 เดือน จากการประกาศกฎอัยการศึกช่วงสั้น ๆ โดยอดีตประธานาธิบดี “ยุนซอกยอล” ซึ่งนำไปสู่การถอดถอน ส่งผลให้เกิดการเลือกตั้งฉุกเฉินโดยไม่มีช่วงเวลาถ่ายโอนอำนาจ อี แจ-มย็อง จึงต้องรับมือกับสารพัดปัญหาทั้งในประเทศและต่างประเทศทันทีที่เข้ารับตำแหน่งในวันที่ 4 มิถุนายน
  • ต่อไปนี้คือความท้าทายที่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนล่าสุดจะต้องเจอ
ฟื้นเศรษฐกิจ -เจรจาการค้า -รับมือวิกฤตภูมิรัฐศาสตร์
เกาหลีใต้ในยุคของ อี แจ-มย็อง เผชิญบริบทที่แตกต่างจากวิกฤตก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง เศรษฐกิจโลกขาดปัจจัยบวกแบบในปี 2004 หรือ 2017 ที่จีนและอุตสาหกรรมชิปช่วยพยุงสถานการณ์ ขณะที่วันนี้เกาหลีใต้กำลังเผชิญอัตราการเกิดต่ำที่สุดในโลก เข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ และถูกหางเลขจากสงครามการค้า ท่ามกลางแรงกดดันจากสงครามในยูเครนและกาซา การควบคุมการส่งออกของจีน และความสัมพันธ์รัสเซีย–เกาหลีเหนือ
ล่าสุด ธนาคารกลางเกาหลีลดคาดการณ์ GDP ปี 2025 ลงเกือบครึ่ง เหลือเพียง 0.8% เป็นครั้งที่ 4 ตั้งแต่ปี 1987 ที่เศรษฐกิจถูกประเมินต่ำกว่า 1% ขณะที่ยอดส่งออกลดลงทั้งโลก -1.3% รถยนต์ -4.4% และเฉพาะตลาดสหรัฐฯ กับจีนลดลงถึง -8% โดยเฉพาะรถยนต์ไปยังสหรัฐฯ ร่วงกว่า -30% เมื่อเทียบรายปี
เหลือเวลาไม่ถึง 40 วัน เจรจาภาษีกับทรัมป์
รัฐบาลเฉพาะกาลก่อนหน้าไม่สามารถคลี่คลายภาษีทรัมป์ได้ ไม่ว่าจะเป็นภาษีพื้นฐาน 10%, รถยนต์ 25%, ชิ้นส่วนรถยนต์ 25%, สินค้านำเข้าจากเม็กซิโก 25%, หรือภาษีอลูมิเนียม–เหล็กกล้า 50% นักเจรจาไม่สามารถขอยกเว้นภาษีได้ ขณะที่กำหนดส่งข้อเสนอของแต่ละประเทศตรงกับวันที่ 4 มิถุนายนนี้ และมาตรการหยุดเก็บภาษี 90 วันจะสิ้นสุด 8 กรกฎาคม ทำให้อีแจมยองต้องเร่งปิดดีลภายในระยะเวลาจำกัด
ความสัมพันธ์เกาหลี–สหรัฐ รอยร้าวที่ต้องเร่งเยียวยา
ความมั่นคงระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ อยู่ในภาวะตึงเครียด รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ “พีท เฮกเซธ” เมินเกาหลีใต้ทั้งสองครั้งที่เยือนภูมิภาค และรัฐมนตรีต่างประเทศ “มาร์โก รูบิโอ” ยังไม่เคยเยือนเอเชียเลย นโยบาย “ยืดหยุ่นเชิงยุทธศาสตร์” และความเป็นไปได้ของการถอนทหารบางส่วนออกจากคาบสมุทร ยิ่งสะท้อนรอยร้าวที่อี แจ-มย็อง ต้องเร่งฟื้นฟู
  • นโยบายต่างประเทศ เดินสายกลางแต่พร้อมเผชิญแรงต้าน
สหรัฐฯ
อี แจ-มย็อง ยืนยันจุดยืนสนับสนุนพันธมิตรเกาหลี - สหรัฐ และอาจพบกับทรัมป์ครั้งแรกในการประชุม G-7 ที่แคนาดา สิ้นเดือนนี้
ญี่ปุ่น
ย้ำจุดยืนไม่ย้อนกลับนโยบายสมานฉันท์ของยุน สนับสนุนความร่วมมือ 3 ฝ่ายกับญี่ปุ่นและสหรัฐ
จีน
เสนอแนวทาง “สมดุลและบริหารจัดการได้” ย้ำบทบาทจีนทั้งด้านภูมิศาสตร์และเศรษฐกิจ แต่เสี่ยงขัดแย้งกับแนวทางกีดกันจีนของทรัมป์
เกาหลีเหนือ
เรียกร้องเจรจาและความร่วมมือ แม้ยังไม่พร้อมเปิดประชุมสุดยอด แต่พร้อมฟื้นข้อตกลงปี 2018 เปิดสายด่วน และยุติการปล่อยใบปลิว
โฆษณา