Thunder Express หุ้นของอลิซ หวัง: นั่งเฉย ๆ ก็รวยขึ้น 5,000 ล้านบาท!!!!?
⚠️คำเตือน มีการสปอยล์เนื้อเรื่อง!
เมื่อซีรีส์ไทยสุดเดือด สงครามส่งด่วน (Mad Unicorn) พุ่งติดชาร์ต Netflix ชนิดที่แม้แต่กล่องพัสดุก็ยังอยากมีบทพูด หนึ่งในตัวละครที่ทำให้ใครหลายคนตั้งคำถามไม่แพ้พระเอกคือ "อลิซ หวัง" (ตัวละครสมมติ) นักลงทุนหญิงสุดแกร่งที่เข้ามาพาบริษัทขนส่งด่วนก้าวสู่สังเวียนแรกให้กลายเป็นยูนิคอร์นหมื่นล้านแบบสะเทือนฟ้า
สงคราม ส่งด่วน (Mad Unicorn) : NETFLIX
ในตอนก่อตั้งนั้นการถือหุ้นของ Thunder Express นั้นประกอบด้วย สันติ 65% รุ่นเจี๋ย 30% และเสี่ยวหยู 5%
จากนั้นบริษัท SR Express (ย่อมาจาก สันติ รุ่ยเจี๋ย ชื่อแรกที่ตั้งบริษัท) ก็เริ่มพยายามหานักลทุน ก็ได้โอกาสเสนอขอเงินลงทุนจากนักลงทุนหญิงไฮโซอย่าง อลิซ หวัง ด้วยเงินลงทุน 15 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ495 ล้านบาท ณ อัตราแลกเปลี่ยน 1:33) แลกกับหุ้น 15% นั่นหมายความว่าSR Express ตีมูลค่าตัวเองอยู่ที่ 100ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,300 ล้านบาท) ด้วยกลยุทธ์ Door to Door ที่ ณ เวลานั้นยังไม่มีใครทำ เป็นกลยุทธ์ที่โดนใจอลิซ หวังอยู่ไม่น้อย
"Risky but sexy" คำชมของ อลิซ หวัง
อลิซ หวัง พูดต่อด้วยข้อต่อรองที่ทำให้สันติต้องคิดหนัก คือการขอแลกหุ้นที่ 30% เสี่ยวหยูมองว่านี่อาจจะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่ควรคว้าไว้ เพราะไม่มีนักลงทุนอื่นแล้ว
"30% พ่อ-ึงสิ" คำตะโกนด่าตามหลังมาของรุ่ยเจี๋ย เพราะกิตติศักดิ์ที่จีนของอลิซ หวัง น่าจะไม่ค่อยดีต่อเหล่าผู้ที่ทำสตาร์ทอัพเท่าไหร่
ด้านหนึ่งจะได้เงินสดที่มากพอมาเริ่มงานเพราะไม่มีนักลงทุนอื่นเหลือให้ไปคุยอีกแล้ว กับอีกด้านหนึ่งคือสิทธิความเป็นเจ้าของที่จะน้อยลงไปและเสี่ยงที่จะโดนฮุบบริษัทในตอนท้ายได้
สันติยืนยันที่15% เท่านั้น แต่ไม่รู้ด้วยเหตุผลใด ท้ายที่สุดอลิซ หวัง ตอบตกลงยอมรับที่ข้อเสนอของสันติจบดีลที่ 15% แต่มีข้อแม้เดียว ต้องเปลี่ยนชื่อบริษัท จึงเปลี่ยนมาเป็นThunder Expressโอเคมาสรุปหุ้นใหม่กันหน่อย โครงสร้างหุ้นของ Thunder Express หลังได้มีการออกหุ้นใหม่ 15% จึงจะทำให้หุ้นเก่าของสามคนแรกจะถูกเจือจางลงDilution [จะคำนวณด้วย %ถือหุ้นใหม่ = %ถือหุ้นเก่า*(1-%หุ้นที่ออกใหม่)*100)] จึงเป็นดังนี้
สันติ 65%*(85%)*100=55.25%
รุ่ยเจี๋ย 30%*(85%)*100=25.5%
เสี่ยวหยู 5%*(85%)*100=4.25%
อลิซ หวัง = 15%
มูลค่าบริษัท คือ 3,300 ล้านบาท
แต่ละหว่างทางเสี่ยวหยูตัดสินใจขายหุ้นของตัวเองให้กับอลิซ หวัง เพื่อช่วยบริษัทด้วยเงิน 34 ล้านบาท จึงทำให้สัดส่วนหุ้นของอลิซเปลี่ยนเป็น 15%+4.25%=19.25% สรุปได้ว่า อลิซ หวังลงเงินในบริษัทนี้ประมาณ 495+34=529 ล้านบาท
☑️ สิ่งที่อยากชวนคิดต่อคือ ณ วันที่ บริษัทระดมเงินทุนรุ่น ซีรี่ส์E ดันมูลค่าบริษัทไปที่ 30,000 ล้านบาท หากในชีวิตจริงมูลค่าหุ้นของอลิซ หวัง จะเป็นกี่บาท?
ถ้าเทียบกับข้อมูลเท่าที่เปิดเผยทั้งในตัวซีรี่ส์และข่าวที่เกี่ยวกับบริษัท Flash Express เราไม่ทราบว่าการระดมทุนเงินทุนในรุ่น ซีรี่ส์ B C D (ในที่นี้จะนับการระดมเงินทุนจากอลิซคือซีรี่ส์A) มีการระดมเงินเท่าไหร่ และแลกหุ้นกี่% ผู้เขียนจึงใช้ข้อสันนิฐานว่ามีการแลกหุ้นที่15% ทุกรุ่นโดยยังไม่จำเป็นต้องสนเงินทุนในซีรี่ส์ B C D
โครงสร้างหุ้น Thunder Express ณ จบดีล ซีรี่ส์ B
สันติ 55.25%*85%≈47%
รุ่นเจี๋ย 25.5%*85%≈21.7%
อลิซ หวัง 19.25%*85%≈16.4%
ผู้ถือหุ้นซีรี่ส์ B = 15%
โครงสร้างหุ้น Thunder Express ณ จบดีล ซีรี่ส์ C
สันติ 47%*85%≈40%
รุ่นเจี๋ย 21.7%*85%≈18.4%
อลิซ หวัง 16.4%*85%≈13.9%
ผู้ถือหุ้นซีรี่ส์ B 15%*85%≈12.8%
ผู้ถือหุ้นซีรี่ส์ C = 15%
โครงสร้างหุ้น Thunder Express ณ จบดีล ซีรี่ส์ D
สันติ 34%*85%≈28.9%
รุ่นเจี๋ย 15.6%*85%≈13.3%
อลิซ หวัง 13.9%*85%≈11.8%
ผู้ถือหุ้นซีรี่ส์ B 12.8%*85%≈10.9%
ผู้ถือหุ้นซีรี่ส์ C 15%*85%≈12.8%
ผู้ถือหุ้นซีรี่ส์ D = 15%
และ ณ วันที่มูลค่าของบริษัทแตะมูลค่า 30,000 ล้านบาท ซึ่งในโลกความเป็นจริง บริษัท Flash Express ระดมเงินทุนมาได้ 4,700 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีมูลค่าเป็น 33,000ล้านบาท นั่นหมายความว่าสัดส่วนหุ้นในซีรี่ส์E คือ 4,700/33,000=0.142 หรือประมาณ 14.2% (ซึ่งเปอร์เซ็นใกล้เคียงกับการเพิ่มทุนแต่ละรอบ) ดังนั้น
โครงสร้างหุ้น Thunder Express ณ จบดีล ซีรี่ส์ E
สันติ 28.9%*(85.8%)≈24.8%
รุ่ยเจี๋ย 13.3%*(85.8%)≈11.4%
อลิซ หวัง 11.8%*(85.8%)≈10.1%
ผู้ถือหุ้นซีรี่ส์ B 10.9%*(85.8%)≈9.35%
ผู้ถือหุ้นซีรี่ส์ C 12.8%*(85.8%)≈11%
ผู้ถือหุ้นซีรี่ส์ D 15%*(85.8%)≈12.9%
ผู้ถือหุ้นซีรี่ส์ E 14.2%
มูลค่าบริษัท ณ จบดีล ซีรี่ส์ คือ 30,000 ล้านบาท
โดยที่สัดส่วนหุ้นของอลิซ หวัง จะเหลือ ≈10.1%
ดังนั้นมูลค่าหุ้นของอลิซ หวังที่ถือครองอยู่ก็คือ 30,000ล้านบาท*10.1%=3,030 ล้านบาท โดยประมาณ
เติบโตขึ้น (3,030ล้านบาท-529ล้านบาท)/529ล้านบาท=4.727 เท่า หรือ 472.7% !!
จุดนี้คิดตามต่ออีกนิดถ้านำไปเทียบกับไทม์จริงของ Flash Express ก่อตั้งในปี2017 และบริษัทมีมูลค่ากว่า33,000ล้านบาทในปี2021 ซึ่งใช้เวลา4ปี
ถ้านำไปเทียบในกรอบเวลาเดียวกัน Thunder Express จะสร้างผลตอบแทนเติบโตแบบทบต้น (CAGR)อยู่ที่
[(ค่าสุดท้าย/ค่าเริ่มต้น)^(1/จำนวนปี) - 1] * 100
[(3030/529)^(1/4)-1]*100=54.7%ต่อ!!!!
⬆️ แต่ก็ยังไม่ถึง 5,000 ล้านบาท ฉะนั้นชวนคิดต่อไปอีกหน่อย
ในโลกความเป็นจริงบริษัท Flash Express ระดมทุนต่อเนื่องใน Series B, C, D, D+, E
และล่าสุด Series F ในปี 2023 บริษัทปิดการระดมทุนเงินไปได้อีก 15,000 ล้านบาท ทำให้มูลค่าบริษัทพุ่งขึ้นไปอีกเป็น70,000ล้านบาท!!!
ซึ่งเจ้าสัวคณิน(ในซีรี่ส์)ได้ถามสันติว่า "จบซีรี่ส์E แล้วจะทำอะไรต่อ" สรุปก็คือ ไปซีรี่ส์F ต่อนั่นเอง
ถ้าคิดอย่างเร็วเลยในซีรี่ส์F นี้ สัดส่วนหุ้นของอลิซ หวังจะเหลืออยู่ประมาณ 7.94% โดยประมาณ หรือคิดเป็นมูลค่า 70,000ล้านบาท*7.94% = 5,558 ล้านบาท
จาก 19.25% ค่อย ๆ ลดเหลือ 8.38% ในปี 2023 สัดส่วนลดลง แต่มูลค่าเติบโตทะลุเพดาน
📈 บริษัทโต = หุ้นก็โต (แม้สัดส่วนจะน้อยลง)
ปี 2023 บริษัทมีมูลค่ารวม (Post-money Valuation) = 70,000 ล้านบาท
อลิซถืออยู่ 7.94% = มูลค่าหุ้นของเธอคือ 5,558 ล้านบาท
จากต้นทุนประมาณ 529 ล้านบาท → 5,558 ล้านบาท = โตเกือบ 10.5 เท่า
เธอไม่ได้ทำการตลาด ไม่ได้วิ่งรถส่งของ แต่กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่แบบโคตรคุ้ม
🔍 บทเรียนจากอลิซ หวัง
การถือหุ้นคือการมี "สิทธิ์บนโต๊ะเจรจา" แม้คุณจะไม่บริหารเอง
การลงทุนที่ดีไม่จำเป็นต้องควบคุมกิจการ แต่อย่าปล่อยให้โอกาสผ่านไป
กลยุทธ์ไม่ใช่แค่ฉลาดตอนซื้อ แต่คือ รู้ว่าจะไม่ขายเมื่อไหร่
🔫 ซุนวูพูดไว้ว่า...
"ผู้ชนะย่อมวางแผนชัยชนะไว้ตั้งแต่ก่อนรบ ผู้แพ้ย่อมออกรบก่อนแล้วค่อยหาทางชนะ"
นี่คือหัวใจกลยุทธ์ของอลิซ หวัง — เธอไม่ได้สุ่มลงทุน แต่เลือกสนามรบที่มีโอกาสชนะสูงที่สุด วางกลยุทธ์ให้ตัวเองอยู่ในจุดที่ไม่ต้องรบซ้ำซาก แต่สามารถกินผลของชัยชนะในระยะยาว
"รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง"
อลิซไม่ได้เข้าไปนั่งในห้องประชุมกับสันติทุกวัน แต่เธอรู้จักคนที่ใช่ พื้นที่ที่กำลังโต และรู้ว่าควรอยู่ห่างแค่ไหนให้ยังได้ผลประโยชน์สูงสุด นี่คือ "ชัยชนะโดยไม่ต้องรบ" ซึ่งเป็นหัวใจของศาสตร์ซุนวูที่แท้จริง
อลิซ หวัง = ว่าที่ไอดอลผู้หญิงยุคใหม่ของแทร้!
เธอไม่ใช่นางฟ้าในแบบโลกสวย แต่เธอคือผู้หญิงที่เข้าใจโลกทุนนิยม และใช้เกมหุ้นให้เป็นพลังของตัวเอง
สุดท้ายนี้... ถ้าคุณมีโอกาสเป็นอลิซในชีวิตจริง จะกล้า "นั่งเฉย ๆ" บนหุ้นที่ใช่ แล้วดูเงินวิ่งเข้ามาเป็นพันล้านหรือเปล่า?
แม้ตัวอลิซ หวัง อาจจะไม่ได้มีตัวตนจริง แต่ความสำเร็จที่เธอได้รับก็ไม่น่าจะเกินจริง
แม้จะไม่ได้มีบทบาทในซีรี่ส์มากมาย แต่ก็ให้แง่คิดแก่ผู้ชมเยอะมากเช่นกัน
Risky but sexy
อลิซ หวัง
ทิ้งท้ายให้คิดตามต่อ อีกตัวละครหนึ่งที่น่าสนใจนั่นคือ เสี่ยวหยู ถ้าเธอไม่ขายหุ้นให้อลิซ หวัง ในวันนั้นแต่มีวิธีอื่นที่ทำให้บริษัทรอดพ้นวิกฤตตอนนั้นมาได้ สัดส่วนหุ้นของเสี่ยวหยูจะมีมูลค่าเท่าไหร่กัน?
หมายถึง อ่านเพื่ออรรถรสเท่านั้น อย่าไปถือเป็นจริงเป็นจังกันนะ
#สงคราม #ยูนิคอร์น #สันติ #คมสันต์ #Thunder #Flash
หนังสือแนะนำ
- 7
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
