Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Introverted investor
•
ติดตาม
5 มิ.ย. เวลา 03:20 • หนังสือ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (The Stock Exchange of Thailand)
💰ใช้ชีวิตชิลๆ ด้วยเงินปันผล โดยไม่ต้องทำงาน ทำได้จริงหรือเปล่า?
💰ใช้ชีวิตชิลๆ ด้วยเงินปันผล โดยไม่ต้องทำงาน ทำได้จริงหรือเปล่า?🪙
🌟ในมุมมองของ ‘ประกิต สิริวัฒนเกตุ’ นั้น การลงทุนในหุ้นปันผลเพื่อสร้างอิสรภาพทางการเงิน ทั้งง่ายและยากอยู่ในที แต่ทั้งหมดทั้งมวลล้วนทำได้จริง ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน พิสูจน์แล้วผ่านกาลเวลา ผ่านนักลงทุนไทยที่ประสบความสำเร็จหลายรายรวมถึงตัวเขาเอง ‘Passive Income’ เป็นเพียงเรื่องโฆษณาชวนเชื่อไร้สาระสำหรับคนที่ไม่เข้าใจ ไม่ใส่ใจ และไม่ขวนขวายพยายาม หากแต่เป็นความฝันใฝ่สูงสุดที่ต้องไขว่คว้ามาให้ได้อย่างเป็นรูปธรรมสำหรับผู้คนที่มุ่งมั่น เข้าใจ และบากบั่นเอื้อมมือไขว่คว้า
เพราะการใช้หุ้นเป็นเครื่องมือเพื่อสร้างอิสรภาพทางการเงิน โดยเฉพาะการคาดหวังกระแสเงินสดหรือเงินปันผลสำหรับการหล่อเลี้ยงชีวิต เราไม่สามารถมองเพียงด้านเดียว แต่ยังมีประเด็นอีกมากมายทั้งตื้น ลึก หนา บาง ที่นักลงทุนจำเป็นต้องเข้าใจอย่างลึกซึ้งก่อนนำเงินออมที่เราเฝ้ารอมริบมาอย่างยากลำบากออกไปท่องโลกแห่งการลงทุนอันแสนกว้างใหญ่
🌿หนังสือเล่มนี้ไม่ได้บอกสูตรลับการลงทุน แต่เป็นแผนที่ชั้นดี ไม่ได้ละเอียดถึงขนาดจับมือเดิน แต่เปรียบเสมือนคนริมทางที่นักลงทุนจอดรถถามหาจุดหมาย และ ‘ประกิต’ คือคนริมทางดังกล่าวที่เจนจัดในพื้นที่ และชี้นิ้วบอกเราว่าควรจะเดินต่อไปอย่างไร สุดท้ายเราต้องเหยียบคันเร่งเพื่อตามหาจุดหมายนั้นที่แตกต่างกันออกไปของแต่ละปัจเจกบุคคล ด้วยตัวเราเอง
‘Passive Income’ เป็นประโยคที่เราได้ยินกันบ่อยครั้งจนเฝือในโลกการลงทุน มันไม่ใช่เรื่องของการนั่งอยู่เฉยๆแล้วมีเงินใช้ทันที “ต้องลงมือทำอดีตให้ดีก่อน จึงเกิดผลลัพธ์งอกงามในวันนี้” ต้องวางรากฐานให้มั่นคง เก็บออมเงินนำไปลงทุนในสินทรัพย์ที่เราเข้าใจ อดทนรอคอยเพื่อให้เงินลงทุนนั้นออกดอกผลกลับคืนมา ซึ่งไม่มีวิธีการตายตัว เป้าหมายคือต้องให้เงินเติบโตมาทำงานแทนเรา สำหรับการเริ่มต้นนั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่อง “ทัศนคติ และการวางแผน”
📌“อิสรภาพทางการเงิน” คือปลายทางของการลงทุน เราจะมีมันได้ก็ต่อเมื่อ “ดอกผล มากกว่า ค่าใช้จ่าย”
“การลงทุนในหุ้นปันผล” หากทำได้ดี ก็สามารถสร้าง ‘Passive Income’ ได้ไม่ยาก มีกระแสเงินสด (ดอกผล) เข้ากระเป๋าเรื่อยๆอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เมื่อจัดพอร์ตหุ้นปันผลให้กระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสมก็จะผันผวนต่ำ แถมยังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องหากหุ้นในพอร์ตมีคุณภาพสูง จะดียิ่งกว่านั้นเมื่อเรานำเงินปันผลหรือกระแสเงินสดที่ได้รับมาลงทุนซ้ำเข้าไปอีก (Re-Investment) อย่าเพิ่งรีบใช้เงิน ส่วนที่เหลือก็เพียงทำเช่นนี้ให้ได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว
📌“อย่าร้อนรนรีบใช้เงินปันผลที่ได้มา นำทั้งหมดกลับไปลงทุนซ้ำก่อน พอร์ตเราในระยะยาวจะเติบโตมหาศาล แล้วเรื่องอิสรภาพทางการเงิน การมีเงินใช้โดยไม่ต้องทำงาน หรือมีเงินดูแลตนเองและครอบครัวเมื่อไม่ได้ทำงานแล้วนั้นก็ไม่ไกลเกินใฝ่ฝัน มีสิทธิ์เกิดขึ้นจริงได้แน่นอน”
การลงทุนในหุ้นปันผล ไม่ใช่เพียงแค่เลือกลงทุนในหุ้นที่จ่ายเงินปันผลเยอะๆ แต่ต้องพินิจพิจารณาคุณภาพด้านอื่นๆประกอบด้วย หลักๆแล้วคือ เป็นบริษัทที่จ่ายเงินปันผลต่อเนื่อง สม่ำเสมอ ซึ่งเป็นผลจากกิจการมีคุณภาพดี งบการเงินแข็งแกร่ง แถมผู้บริหารยังใส่ใจผู้ถือหุ้นอีกด้วย
🟩สิ่งสำคัญที่สุดคือ “การวางแผน และคัดเลือกหุ้น”
✴️หลักการวิเคราะห์หุ้นปันผล 7 ประการ
1️⃣ ผู้บริหารบริษัทใส่ใจผู้ถือหุ้น อ่าน ดู ฟัง สิ่งที่ผู้บริหารสื่อสารบ่อยๆ (เช่นขยันหมั่นรับชม OppDay) ง่ายที่สุดคือหากผู้บริหารพูดถึงผู้ถือหุ้นบ่อยๆ ก็แสดงว่าเขาค่อนข้างใส่ใจ แค่นั้นยังไม่พอ ผู้บริหารต้องเก่ง ดี และมีคุณธรรม ไม่กั๊กกำไรเก็บเอาไว้ในบริษัท แต่นำเงินออกมาจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอ ไปจนถึงรักการเติบโต เพราะถ้าบริษัทมีกำไรเติบโต เงินปันผลที่เราได้รับก็จากเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว หากเจอผู้บริหารที่พูดจาซ้ำๆซากๆแบบขอไปที เบื่อๆเซ็งๆ เราควรหลีกเลี่ยงบริษัทแบบนี้ไปให้ไกลเลย
2️⃣ บริษัทมีหนี้สินน้อย (D/E < 1-2 เท่า) บริษัทที่มีหนี้สินล้นพ้นตัวนั้นเมื่อเจอสภาวะเศรษฐกิจขาลง จะสะดุดเร็ว และจ่ายเงินปันผลน้อยลง
3️⃣ บริษัทมีเงินสดเยอะ มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นบวก (CFO+) ยกเว้นหุ้นกลุ่มอสังหาฯ และการเงิน งบกระแสเงินสดบรรทัดสุดท้ายต้องเป็นบวก (CF+) หากติดลบหลายปีนานวันเข้าก็มีความเสี่ยงที่บริษัทจะเพิ่มทุน ตัวหารเงินปันผลเพิ่มขึ้น สุดท้ายเราได้เงินปันผลน้อยลง
4️⃣ บริษัทมีกำไรสะสมเยอะ ช่วยสร้างความมั่นใจและมั่นคงว่าเราจะได้รับเงินปันผลทุกปี แถมหากบริษัทมีกำไรสะสมเยอะจนล้นก็อาจมีลุ้นการประกาศจ่ายเงินปันผลพิเศษ
5️⃣ วิเคราะห์อนาคตว่าบริษัทมีแนวโน้มของรายได้-กำไรเติบโตด้วย เงินปันผลที่เราได้รับจะต่อเนื่อง และเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆทุกปี
6️⃣ บริษัททำธุรกิจที่สร้างกำไรงาม ผลตอบแทนต่อเงินลงทุนสูง (ROE >15%) อย่างแย่ๆไม่ควรต่ำกว่า 10%
7️⃣ บริษัทมีวินัย จ่ายเงินปันผลทุกปี จ่ายแบบนิ่งๆ เท่าๆ กันทุกปี ไม่เหวี่ยงขึ้นลงไปมามากเกินไป หรือจะให้ดีคือจ่ายเพิ่มมากขึ้นทุกปี (หายาก)
“หุ้นปันผลคุณภาพดี” หากเรายิ่งซื้อหุ้นราคาถูกได้ในช่วงวิกฤติ ยิ่งถือครองนาน ยิ่งได้รับเงินปันผลสูงปรี๊ด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหุ้นนั้นเป็นบริษัทคุณภาพดี จ่ายเงินปันผลต่อเนื่องสม่ำเสมอ และไม่ทำร้ายเราด้วยการขาดทุน (Capital Loss)
เราทราบกันดีว่าในเชิงสถิตินักลงทุนส่วนใหญ่มักทำผลตอบแทนแพ้ดัชนี แนวคิดที่ว่า “ซื้อหุ้นดีๆ เพื่อรับเงินปันผลไปเรื่อยๆ ก็สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับการลงทุนแล้วล่ะ” นี่คือสิ่งที่มันจะเป็นไปในระยะยาว เป็นทางออกและคำตอบของนักลงทุนที่อยากลงทุนระยะยาว หากคิดอะไรไม่ออก แค่เลือกลงทุนตามดัชนี ‘SETHD’ ซึ่งเป็นดัชนีรวมหุ้นไทยซึ่งมีคุณภาพพอสมควรและจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้ก็ได้รับเงินปันผลเฉลี่ย 4.4% ต่อปีแล้ว ดีกว่าฝากธนาคาร
ไม่ต้องเล่นท่ายาก “เป้าหมายของเราคือ อยากได้จำนวนหุ้นเพิ่ม” เติมเงินเข้าไป เอาเงินปันผลที่ได้รับกลับมาลงทุนซ้ำเข้าไปอีก ขายเอากำไรส่วนต่างเมื่อรู้สึกว่าหุ้นแพง (ประเมินมูลค่า) แล้วเอาเงินมาซื้อหุ้นที่น่าสนใจมากกว่า ทำอย่างไรก็ได้ให้จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เงินปันผลที่เราได้รับก็จะเพิ่มขึ้น หากเดินถูกทิศทางล่ะก็อิสรภาพทางการเงินอาจย่างกรายมาอย่างรวดเร็วกว่าที่คิด อย่าลืมกระจายความเสี่ยงให้ดี “เราต้องการเงินปันผล เราไม่ต้องการขาดทุน”
📌“อดทนรอเกษียณอย่างมีคุณภาพ ตายก่อนไม่กลัว กลัวยังไม่ตายแล้วไม่มีเงินใช้”
🟩ปันผลดีอย่างเดียวไม่พอ เราต้องรู้หลักการวิเคราะห์หุ้นที่คุณภาพดีด้วย เช่น “Five Forces Model”
📍แรงกดดันจากลูกค้า : ถ้าลูกค้ามีอำนาจเยอะ มีทางเลือก ไม่มีความภักดีต่อแบรนด์ บริษัทก็ต้องลดราคาสินค้า
📍แรงกดดันจากคู่ค้า : เป็นคนส่งวัตถุดิบให้บริษัทผลิตสินค้า เป็นตัวกำหนดต้นทุนกิจการ
🔹สองเรื่องด้านบนนี้เป็นตัวกำหนดอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) หากสูงกว่า 40% นี่สุดยอดเลย ถือว่าบริษัทมีประสิทธิภาพในการทำกำไรสูง มีแนวโน้มอยู่รอดปลอดภัยหากเกิดวิกฤติเศรษฐกิจในอนาคต
📍คู่แข่งรายใหม่ : เป็นเรื่องอุปสรรคในการเข้าสู่ตลาด ตรวจสอบดูว่าบริษัทที่เราสนใจนั้นมีข้อได้เปรียบอะไรบ้างอันเหนือกว่าคู่แข่ง เช่น เป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง ได้เปรียบเรื่องขนาดบริษัทที่ใหญ่กว่าทำให้มีต้นทุนในการผลิตต่ำ หรือลูกค้ามีความภักดีชื่นชอบสินค้าขอบบริษัท รวมถึงนโยบายรัฐต่างๆภายในอุตสาหกรรม
📍สินค้าทดแทน : ก็ตรงๆตัว สินค้าที่บริษัทผลิตหรือขายมีโอกาสถูกทดแทนด้วยสิ่งอื่นไหม ถ้าแทนได้ สินค้าเราก็ขายไม่ได้
🔹สองเรื่องด้านบนนี้ควบคุมยาก เป็นตัวชี้วัดความอยู่รอดของบริษัทในระยะยาว เลือกหุ้นต้องระวังสิ่งเหล่านี้
📌สรุปคือ เลือกหุ้นที่เป็นเบอร์หนึ่งของอุตสาหกรรมนั้นๆ บริษัทดี ปันผลดี ให้กำไรส่วนต่างราคาในวันที่ตัดสินใจขาย ถือครองหุ้นให้นานที่สุด เท่าที่เราได้ประโยชน์จากมัน จะขายก็ต่อเมื่อกิจการถดถอย กำไรไม่เติบโต ไม่จ่ายเงินปันผล อย่าขายเพียงเพราะเห็นว่ากำไรส่วนต่างราคาน่าสนใจกว่าเงินปันผลที่เราได้รับทุกปี “เลือกหุ้นที่ดีที่สุดตั้งแต่แรก ถือยาวๆ ไม่ต้องขายเลยยิ่งดี”
📌อย่าลืมว่าเป้าหมายของเราไม่ใช่ ‘หุ้นเติบโต (Growth Stock)’ เพราะว่ามันเสี่ยงเกินไป เราเลือกหุ้นใหญ่ มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูง แต่การเติบโตต่ำ (Cash Cows) เพราะมันผ่านมรสุมมาได้แล้วหลายครั้งหลายครา มันพิสูจน์ตัวเองแล้ว เราไม่ต้องการการเติบโตอะไรมากมาย เราต้องการเงินปันผล ขอแค่มันโตได้นิดๆหน่อยๆ และเดินทางต่อไปได้เรื่อยๆ
แต่ถ้าคุณเป็นนักลงทุนที่เก่งมากๆ จะลงทุนในหุ้นเติบโตก็ได้ ลงทุนในช่วงขาขึ้นของกิจการ กำไรโตระเบิด เงินปันผลก็จ่ายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ได้กำไรส่วนต่างราคา 2-3 เด้ง หรือ 10 เด้งก็มีให้เห็น “อิสรภาพทางการเงินก็เดินทางมาถึงเร็วกว่าเดิม”
🟩ปันผลดี บริษัทคุณภาพดี ยังไม่พอ ผู้บริหารต้องดีด้วย มาดู 6 ประเด็นสำหรับการวิเคราะห์ผู้บริหาร
1️⃣ ตรวจสอบประสบการณ์ ความรู้ ประวัติการทำงานและประวัติส่วนตัว ต้องโดดเด่นแบบจับต้องได้โดยเฉพาะความคิด ไม่มีประวัติการฉ้อโกงหรือการบริหารเงินของบริษัทอย่างไม่เหมาะสม
2️⃣ ตรวจสอบดูเรื่องเครือข่ายและความสัมพันธ์ อาจเป็นทั้งคุณและโทษ
3️⃣ ตรวจสอบความทุ่มเท สไตล์การทำงาน เป้าหมายในการบริหารงาน และเรื่องธรรมาภิบาล
4️⃣ ตรวจสอบพฤติกรรมการซื้อขายหุ้น ผู้บริหารที่ดีไม่ควรซื้อขายเก็งกำไรหุ้นของบริษัทที่ตัวเองเป็นเจ้าของ มันเป็นเรื่องการล่วงรู้ข้อมูลภายในของบริษัทก่อนคนอื่น
5️⃣ ตรวจสอบสัดส่วนการถือหุ้น ควรถือครองหุ้นบริษัทตัวเองเยอะๆ เขาจะยืนอยู่ฝั่งเดียวกับนักลงทุน
6️⃣ อายุ สุขภาพก็ควรตรวจสอบ เพราะนักลงทุนระยะยาวจำเป็นต้องคาดการณ์อนาคตไกลๆ
🟩ปันผลดี คุณภาพดี ผู้บริหารดี ยังไม่พอ ต้องดูเรื่องเชิงปริมาณด้วย งบการเงินต้องดี ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลัง 4-5 ปี
✴️งบแสดงฐานะการเงิน : ส่วนของผู้ถือหุ้นต้องเติบโต ถ้าไม่โตก็มีอยู่สองเหตุผลคือ ธุรกิจแย่ หรือไม่ก็ผู้บริหารเน้นขยายกิจการมากกว่าการจ่ายเงินปันผล หนี้น้อยๆ กำไรสะสมเยอะๆ หนี้สินหมุนเวียนเมื่อเทียบกับหนี้สินรวมควรน้อยกว่า 40% “หลักๆคือ เงินสดเยอะ หนี้น้อย ทำธุรกิจมีกระแสเงินสดเป็นบวกทุกปี”
✴️งบกำไร-ขาดทุน : กำไรสุทธิเติบโต ดอกเบี้ยจ่ายต่อ ‘EBIT’ ต่ำ ไม่ควรเกิน 50% ถ้ามากกว่านี้มีโอกาสพังในช่วงเศรษฐกิจแย่ มีแนวโน้มขาดทุนแน่ๆ
✴️งบกระแสเงินสด : ธุรกิจจะไปต่อได้ต้องมีสภาพคล่อง / กระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นบวก (CFO+) ธุรกิจที่ดีต้องสร้างเงินเข้ามากกว่าเงินจ่ายในช่วงเวลานั้นๆ / กระแสเงินสดจากการลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นลบ (CFI-) มีการขยายกิจการ และอนาคตจะมีเงินเข้ามากกว่าที่ลงทุนไป / กระแสเงินสดจากการจัดหาเงินเป็นลบ (CFF-) มีการจ่ายคืนเงินกู้และจ่ายเงินปันผล
🟩“Checklist : การคัดเลือกหุ้นปันผล”
🖋️บริษัทคุณภาพดี มีศักยภาพ เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมของตนเอง
🖋️จ่ายเงินปันผลต่อเนื่องสม่ำเสมอ มากกว่า 3-5% ต่อปี
🖋️ROE สูงมากกว่า 15% แสดงถึงความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจ
🖋️มูลค่าตลาด (Market Cap.) มากกว่า 10,000 ล้านบาทขึ้นไป เพราะค่อนข้างมั่นคง แข็งแกร่ง ราคาหุ้นไม่ผันผวนเกินไป
🖋️งบแสดงฐานะการเงินแข็งแกร่ง กำไรสะสมเยอะ หนี้สินน้อย
🖋️รายได้เสถียร กำไรเติบโต ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี
🖋️งบกระแสเงินสดดี มีสภาพคล่อง
🖋️จังหวะเข้าซื้อหุ้นปันผลที่ดีที่สุดคือ ซื้อก่อนขึ้นเครื่องหมาย ‘XD’ 2 เดือน (ธันวาคม-กุมภาพันธ์)
พูดเหมือนง่าย แต่เส้นทางนี้ไม่ง่ายเสียทีเดียว ไม่มีเงินที่ได้มาง่ายๆหรอก “แต่ทั้งหมดที่กล่าวมาคือแผนการที่ดีและจับต้องได้” เหลือเพียงแค่คุณลงมือทำ เดินต่อไปด้วยความระมัดระวัง หัวใจของการลงทุนคือ “ได้ทั้งกำไรและเงินปันผล” กิจการของเราเติบโตไปได้เรื่อยๆ และเงินปันผลก็เติบโตได้เรื่อยๆเช่นกัน
ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวันนะครับ 😊
🙏ขอขอบคุณบางส่วนจากหนังสือ “ใช้ชีวิตชิลๆ ด้วยเงินปันผล : หลักการสร้างพอร์ตที่จะมีเงินปันผลมากพอสำหรับใช้ชีวิตได้ในแบบที่ต้องการ”
✏️ผู้เขียน : ประกิต สิริวัฒนเกตุ
🏠สำนักพิมพ์ : พราว, 2024
การลงทุน
หุ้น
การเงิน
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย