5 มิ.ย. เวลา 14:19 • นิยาย เรื่องสั้น

รักย้อนอดีตภาค 5 ภัยร้ายจากดาวหางฮัลเลย์

.
บทที่ 36 พิธีล่าแม่มด
.
ช่วงที่เหลือของวันนั้นพวกเขาทั้ง4ต่างพักผ่อนอย่างสงบ พูดคุยกันถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ในที่สุดดวงอาทิตย์ก็ตกลับหายไปคบไฟนับพันจุดสว่างขึ้น
.
ดังมาจากความมืดเสียงดังจากการย่ำเท้าของคนจำนวนมาก เสียงใบหอกนับพันกระทบกันขณะที่กองทหารเดินสวนสนามผ่านไปยังสถานที่เตรียมไว้จัดงานฉลองครั้งใหญ่
 
.
ครั้นแล้วจันทร์เพ็ญขึ้นมาทอแสงสวยงาม อินฟาดูสก็มาถึงแต่งกายด้วยชุดออกศึกพร้อมกับทหารคุ้มกัน20คนนำคนทั้ง4ไปยังลานเต้นรำ
กระท่อมใหญ่ที่ซึ่งพบทวาลาเมื่อเช้าบัดนี้เนืองแน่นไปด้วยคนจำนวน 2 หมื่น จัดเป็นแถวรายล้อมเป็นวงกลมแบบทหาร ซึ่งอินฟาดูสบอกว่านี่เป็นส่วนใหญ่ของจำนวนทหารทั้งหมด
.
กองทหารทั้งหมดแบ่งเป็นกลุ่ม แต่ละกลุ่มมีทางเดินเว้นว่างไว้เพื่อให้พวกดมกลิ่นแม่มดเดินเข้าออก ไม่มีภาพอะไรที่ดูเป็นสง่าเหมือนหมู่นักรบจำนวนมากที่ยืนตรงเป็นระเบียบเช่นนั้น
.
ท่ามกลางแสงจันทร์ที่สาดส่องบนใบหอกที่พวกเขาถือชูอยู่ กลายเป็นรูปทรงอันงดงามของคลื่นขนนก อินฟาดูสแอบกระซิบ "กองทหารทั้งหมดที่นี่มี 2 หมื่นคน
แต่คืนนี้จะลดไปอย่างน้อย 100 คน"
.
ลุง "ผิดปกติมากที่คนเป็นหมื่นกลับเงียบได้ขนาดนี้"
.
อินฟาดูส "ผู้ที่มีเงาแห่งความตายบินว่อนอยู่เหนือหัวย่อมนิ่งเงียบ ข้อสำคัญท่านอย่าแสดงให้เห็นว่ากลัวเป็นอันขาด มิเช่นนั้นความเกรงใจของพวกเขาที่มีต่อท่าน
จะเสียไป"
.
พวกเขาเดินอย่างมั่นคงไปยังที่ว่างที่อยู่ศูนย์กลางซึ่งมีม้านั่งวางอยู่หลายตัว ขณะที่คนอีกกลุ่มเดินมาจากทางที่พักของราชัน อินฟาดูสกล่าวแนะนำบุคคลเหล่านี้เบาๆ
.
"นอกจากทวาลาและแม่มดกาก้าแล้ว ชายร่างใหญ่หน้าตาโหดเหี้ยมทั้ง12คนคือเพชฌฆาตที่จะเป็นผู้สังหารคนที่ถูกดมกลิ่นว่าเป็นแม่มด มือสังหารแต่ละคนมือหนึ่งถือหอกอีกมือหนึ่งถือกระบองหนัก"
.
ทวาลานั่งลงบนม้านั่งตรงกลาง กาก้าหมอบอยู่แทบเท้า เพชฌฆาตทั้ง12คนยืน
อยู่เบื้องหลัง แล้วทวาลาก็ร้องขึ้น "สวัสดี ท่านผู้มาเยือน โปรดนั่ง ราตรีนี้แสนสั้น
นักอย่าเสียเวลาอันมีค่า ท่านจะได้เห็นการแสดงพิเศษที่สวรรค์ที่ท่านจากมาไม่มีแน่นอน"
.
ด้วยดวงตาอำมหิตที่กวาดมองทหารทีละกอง "พวกมันทั้งหมดที่มีปีศาจร้ายสิงอยู่
ในใจต้องถูกพิพากษาจากสวรรค์เบื้องบน ก่อนที่ปีศาจร้ายในใจของมันจะออกมา"
.
"เริ่มได้..." เสียงหวีดแหลมของกาก้าดังขึ้น ขณะที่ทวาลาชูหอกของเขาขึ้น หอก
อีก2หมื่นคนก็ชูขึ้นอย่างพร้อมเพรียงแล้วกระแทกลงกับพื้น 3 ครั้งซ้อนเป็นผลให้แผ่นดินสั่นสะท้าน
.
มีเสียงร้องคร่ำครวญจากกาก้าซ้ำซากประโยคเดียว "ชะตากรรมของชายที่ถือกำเนิดมาคืออย่างใด"
.
เสียงคำรามก้องตอบกลับมาจากเหล่าทหาร "ความตาย"
.
ทีละน้อยเสียงเพลงดังขึ้นจากทหารทีละกอง จนในที่สุดทั้งหมดก็ร้องเพลงออกมาพร้อมๆกัน ท่วงทำนองของเพลงกล่าวถึงกิเลสของมุษย์ ความสุข ความกลัว ความรัก ลงท้ายด้วยความเศร้าโศก และ ความตาย
.
ความเงียบสงัดกลับมายังสถานที่แห่งนั้นอีกครั้ง ทันทีที่ทวาลาชูมือขึ้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งตั้กๆ จากเบื้องนอกของกลุ่มน้กรบ ปรากฏร่างประหลาดน่ากลัวของหญิงสูงอายุผมหงอกขาว 10 คน
.
ประดับกายด้วยกระเพาะปลาชิ้นเล็กๆปลิวเป็นทางไปข้างหลัง ใบหน้าพวกมันระบายสีเป็นแถบขาวและเหลือง ห่มไว้ข้างหลังด้วยหนังงู รอบเอวแขวนด้วยกระดูกมนุษย์เสียงดังกรอกแกรก แต่ละคนถือไม้ง่ามเล็กๆเป็นไม้กายสิทธิ์ด้วยมือที่เหี่ยวแห้ง
.
"แม่ แม่เฒ่า เรามาแล้ว" พวกมันร้องบอกกาก้า
.
"ดี ดี ดี เสียงตอบจากนางเฒ่าชั่วร้าย "นัยน์ตาพวกเจ้ากระจ่างดีหรือยัง เจ้ามองเห็นในความมืดแล้วใช่ไหม"
.
"แม่พวกเราเห็นกระจ่างแล้ว"
.
นางเฒ่าชั่วร้าย "ดี ดี ดี หูของพวกเจ้าเปิดดีหรือยังเจ้าหมอมด พวกเจ้าได้ยินเสียงที่ไม่ได้ออกจากลิ้นแล้วใช่ไหม"
.
"แม่หูพวกเราเปิดกว้างแล้ว"
.
นางเฒ่าชั่วร้าย "ดี ดี ดี พวกเจ้าจงดมกลิ่นเลือด หาคนชั่วร้ายที่ชักนำปีศาจร้ายมาทำร้ายราชันและทำร้ายเพื่อนบ้านของมัน จงผดุงความยุติธรรมเพื่อสวรรค์ พวกเจ้า
ที่ได้รับการสั่งสอนไปจากข้า และ ได้ดื่มน้ำศักดิ์ของข้า"
.
"แม่พวกเราทำได้"
.
นางเฒ่าชั่วร้าย "ไปได้ และเจ้าพวกผู้มาเยือน นี่คือพวกนักฆ่า" นางชี้มือไปที่เพชฌฆาตทั้ง 12 คนยืนอยู่เบื้องหลัง "พวกมันลับหอกเตรียมไว้แล้ว ข้ารู้ว่าพวกเจ้าเองก็กระหายที่จะได้ดู"
.
เสียงโห่ร้องป่าเถื่อนของข้ารับใช้กาก้าดังระงม แล้วร่างประหลาดน่ากลัวของหญิงสูงอายุผมหงอกขาว 10 คนก็แตกกระจายไปทุกทิศทางเหมือนกระสุนปืนใหญ่
.
กระดูกมนุษย์แห้งที่แขวนไว้รอบเอวส่งเสียงดังกรอกแกรกขณะที่วิ่งไป มุ่งหน้าไปตามที่ต่างๆของกลุ่มคนที่อัดแน่นเป็นวงซึ่งเปิดทางให้มันวิ่งเข้าไป
.
เมื่อมันเข้าใกล้นักรบคนใดในระยะ 2-3 ก้าว มันหยุดแล้วเต้นอย่างบ้าคลั่ง หมุนตัวอย่างรวดเร็วแทบไม่น่าเชื่อ หวีดเสียงออกมาเป็นถ้อยคำ "ข้าได้กลิ่นมัน เจ้าปีศาจชั่วร้าย ข้าได้ยินความคิดของมันที่คิดร้ายต่อราชัน"
.
มันเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆจนดูบ้าคลั่ง น้ำลายเป็นฟองกระเซ็น และพร้อมกับเสียงหวีดร้องมันสัมผัสนักรบคนหนึ่งด้วยไม้ง่ามของมัน ในทันทีเพื่อนทหาร 2 คนที่ยืนข้างๆก็จับแขนของเขาคนละข้างพาไปยังเบื้องหน้าของทวาลา
.
ทหารเคราะห์ร้ายไม่ขัดขืนมีอาการเหมือนคนที่ตายแล้ว แม้แต่หอกที่เป็นอาวุธคู่กายหลุดร่วงไปเมื่อใดก็ไม่อาจทราบได้ เพชฌฆาตชั่วร้าย 2 คนก้าวออกมา ทวาลาออกคำสั่ง "ฆ่ามัน" ตามด้วยเสียงแหลมบาดหูของกาก้า "ฆ่ามัน"
.
ยังไม่ทันสิ้นเสียงสั่งทหารผู้นั้นก็สิ้นชีพไปแล้วด้วยคมหอกของเพชฌฆาตชั่วร้ายคนที่่1 คนที่2ซ้ำด้วยกระบองใหญ่จนหัวแบะ ทวาลานั่งนับอย่างสบายใจ "1" แล้วตามมาติดๆด้วย2-3-4....จนครบ 100
.
คนสุดท้ายมิได้เป็นทหารแต่อย่างใด เขาเป็นคหบดีที่ร่ำรวยมากที่สุดของนครลู ทั้งยังเป็นที่รักใคร่ของประชาชน เพราะเป็นเศรษฐีใจบุญช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก ทวาลาจึงเชิญมาเป็นแขกเพื่อหาเรื่องฆ่า
.
ครั้งหนึ่งแขกผู้มาเยือนต่างลุกขึ้นเพื่อทัดทานแต่ทวาลาระงับไว้อย่างเหี้ยมเกรียม "ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎ"
.
ในที่สุดหญิงประหลาดและเหล่าเพชฌฆาตต่างก็เหนื่อยอ่อนจากการฆ่าจึงต้องหยุดพัก ในขณะที่กาก้าเดินด้วยการคลานทั้งมือและเท้าตรงมาแตะไหล่ของอัมโบโป
"ข้าได้กลิ่นของมัน เจ้าคนต่างถิ่น โอราชันจงฆ่ามันก่อนที่เลือดจะนองแผ่นดินเพราะมัน"
.
คนทั้ง4ผุดลุกขึ้นทันทียกเว้นลุงที่ไม่มีอาวุธ อีก3คนคือพันและแสนสุริยาถือดาบเลเซอร์ อัมโบโปกระชับหอกในมือ ครั้งนี้พันเป็นฝ่ายท้วงติง
.
"ทวาลาเราขอเตือน ท่านไม่มีสิทธิ์ทำกับพวกเราซึ่งเป็นแขกของท่าน หากท่านแตะต้องเพื่อนของเรา นางแม่มดคนนี้จะต้องถูกเราจัดการก่อนเป็นคนแรก"
.
"จับมัน" ทวาลาร้องสั่งพวกเพชฌฆาตที่ตัวแดงเถือกไปด้วยเลือดของเหยื่อ พวกมันทั้ง 12 คนพร้อมอาวุธในมือเดินตรงเข้ามาหาคนทั้ง4อย่างประสงค์ร้าย
.
จบบทที่ 36 ภาพปกจากเตือนภัยพิบัติโลก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการเผยแพร่ภาพถ่ายที่ชัดเจนของมด นี่คือภาพของแมลงที่เดินเพ่นพ่านอยู่ในบ้าน
สวน และทุกที่
.
ช่างภาพได้ถ่ายภาพมดแบบใกล้ชิด ซึ่งภาพนี้ถูกขยาย 5 เท่า ภายใต้กล้องจุลทรรศน์ ได้รับรางวัลจากการแข่งขัน Nikon Small World Photomicrography ประจำปี 2022
โฆษณา