Google Ads: รู้จัก In-Market Segments ตัวช่วยเจาะกลุ่มลูกค้า "พร้อมซื้อ"!
สำหรับนักการตลาดออนไลน์อย่างเราที่ใช้ Google Ads เป็นประจำ เคยสงสัยไหมว่าทำไมโฆษณาบางตัวถึงได้ผลดี๊ดีกว่าตัวอื่น ๆ บอกเลยว่าหนึ่งใน หัวใจสำคัญ คือการเข้าถึง กลุ่มเป้าหมายที่ใช่ และนี่แหละคือเหตุผลที่คุณควรรู้จัก In-Market Segments ให้มากขึ้น!
In-Market Segments คืออะไรนะ?
พูดง่ายๆ คือ In-Market Segments เป็นกลุ่มคนบน Google Ads ที่แสดงพฤติกรรมว่าพวกเขากำลัง ศึกษาข้อมูลหรือกำลังตัดสินใจซื้อสินค้า/บริการ บางอย่างอย่างจริงจัง!
Google จะวิเคราะห์จากพฤติกรรมออนไลน์และออฟไลน์ของคนกลุ่มนี้ ทำให้เรามั่นใจได้ว่ากำลังเข้าถึงคนที่ "พร้อม" ที่จะตัดสินใจซื้อในเร็วๆ นี้! เรียกได้ว่าเจอคนที่ใช่ ในเวลาที่ใช่สุดๆ
In-Market Segments ใช้กับแคมเปญไหนได้บ้าง?
บอกเลยว่า In-Market Segments นี่แหละคือตัวช่วยที่ใช้ได้กับแคมเปญ Google Ads เกือบทุกประเภทที่เราคุ้นเคยกันดีเลยล่ะ
- 1.แคมเปญ Search (ค้นหา): โฆษณาของคุณจะไปปรากฏให้เห็นเลยเมื่อผู้ใช้งานที่อยู่ในกลุ่ม In-Market นี้กำลังค้นหาสิ่งที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจคุณ
- 2.แคมเปญ Shopping (ช้อปปิ้ง): สินค้าของคุณจะไปโชว์หราให้คนที่กำลังสนใจสินค้าประเภทนั้นๆ เห็น แบบว่าพร้อมเปย์สุดๆ!
- 3.แคมเปญ Display (เครือข่ายดิสเพลย์): โฆษณาของคุณจะตามไปแสดงบนเว็บไซต์หรือแอปฯ ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความสนใจของพวกเขา
- 4.แคมเปญ Video (วิดีโอ): โฆษณาวิดีโอของคุณจะไปถึงผู้ที่กำลังพิจารณาสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้อง เหมือนเปิดประตูเข้าไปในใจลูกค้าเลย
ไม่มี In-Market Segment ตรงเป๊ะ? ไม่ต้องห่วง!
บางทีอาจจะไม่มีกลุ่ม In-Market Segment ที่ตรงกับธุรกิจของคุณแบบ 100% เป๊ะๆ ก็ไม่ต้องกังวลไปนะ มีทางออกที่คุณสามารถลองได้
- ●เลือกกลุ่มที่ใกล้เคียงที่สุด: ลองมองหา In-Market Segment ที่มีความเกี่ยวข้อง หรือมีพฤติกรรมที่ใกล้เคียงกับกลุ่มเป้าหมายของคุณมากที่สุด เช่น ถ้าคุณขายเครื่องชงกาแฟ อาจจะลองหากลุ่มคนที่สนใจ "อุปกรณ์ครัว" หรือ "ของใช้ในบ้าน" ที่มีราคาสูงขึ้นมาหน่อย
- ●ใช้ร่วมกับ Audience อื่นๆ: ลองใช้ In-Market Segment ควบคู่ไปกับกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ เช่น Demographic (อายุ, เพศ), Custom Segments (กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง), หรือ Remarketing เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
ข้อจำกัดเล็กๆ น้อยๆ ของ In-Market Segments
ถึงแม้จะทรงพลังแค่ไหน แต่ In-Market Segments ก็มีข้อจำกัดอยู่บ้างนะ คืออาจจะไม่เหมาะกับสินค้าหรือบริการที่ลูกค้าตัดสินใจซื้อเร็วมากๆ หรือมีช่วงเวลาพิจารณาที่สั้นสุดๆ (เช่น สินค้าอุปโภคบริโภคประจำวันบางชนิดที่คนซื้อโดยไม่คิดเยอะ)
ขั้นตอนการตั้งค่า In-Market Segments บน Google Ads (สำหรับแคมเปญทั่วไป)
จริงๆ แล้ว Google Ads มีหน้าตาอัปเดตอยู่เรื่อยๆ แต่หลักการก็คล้ายๆ เดิมครับ ลองทำตามขั้นตอนนี้ได้เลยนะ
1. เข้าสู่ระบบ Google Ads:
ล็อกอินเข้าสู่บัญชี Google Ads ของคุณเลย
2. เลือกแคมเปญที่คุณต้องการ:
ถ้าจะสร้างแคมเปญใหม่ ก็เริ่มสร้างแคมเปญใหม่ตามปกติ เลือกวัตถุประสงค์ (Sales, Leads, Website traffic ฯลฯ) และประเภทแคมเปญ (Search, Display, Shopping, Video, Demand Gen) ที่คุณต้องการ
ถ้าจะเพิ่มในแคมเปญเดิม ให้ไปที่เมนูด้านซ้ายมือ เลือก "แคมเปญ" (Campaigns) แล้วเลือกแคมเปญที่ต้องการ หรือจะเข้าไปที่ระดับ "กลุ่มโฆษณา" (Ad groups) ก็ได้เช่นกัน
3. ไปยังส่วน Audience (กลุ่มเป้าหมาย):
เมื่ออยู่ในแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาที่ต้องการแล้ว ให้มองหาเมนูด้านซ้ายมือที่ชื่อว่า "กลุ่มเป้าหมาย คีย์เวิร์ด และเนื้อหา" (Audiences, keywords, and content)
คลิกที่ "กลุ่มเป้าหมาย" (Audiences)
4. เพิ่มกลุ่มเป้าหมาย:
คุณจะเห็นตารางกลุ่มเป้าหมาย ถ้ายังไม่มีก็จะเป็นช่องว่างๆ
มองหาปุ่ม "แก้ไขกลุ่มเป้าหมาย" (Edit audience segments) หรือปุ่มเครื่องหมายบวก (+) เพื่อเพิ่มกลุ่มเป้าหมายใหม่
ระบบจะให้คุณเลือกว่าจะเพิ่มลงในแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาไหน (ถ้าคุณยังไม่ได้เลือกก่อนหน้านี้)
5. เลือกประเภท "In-Market":
เมื่อเข้ามาที่หน้าการเลือกกลุ่มเป้าหมาย คุณจะเห็นตัวเลือกหลายแบบ (เช่น Demographic, Affinity, Custom Segments, Your Data Segments)
ให้มองหาและเลือกไปที่แท็บ "เรียกดู" (Browse)
จากนั้นคุณจะเห็นหัวข้อต่างๆ ให้เลือก "ความสนใจและพฤติกรรมที่กำลังซื้อ" (What they're actively researching or planning) แล้วคลิกที่ "กลุ่มเป้าหมายที่มีแผนจะซื้อ" (In-market segments)
6. ค้นหาและเลือก In-Market Segments ที่เกี่ยวข้อง:
เมื่อคลิกเข้าไปใน In-Market Segments แล้ว คุณจะเห็นรายการกลุ่มเป้าหมายมากมาย แบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เช่น "ยานพาหนะ", "อสังหาริมทรัพย์", "บริการทางการเงิน", "เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ" เป็นต้น
คุณสามารถใช้ช่องค้นหาด้านบนเพื่อพิมพ์คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณได้ เช่น ถ้าขายเครื่องชงกาแฟ อาจลองค้นหาคำว่า "เครื่องใช้ในบ้าน" หรือ "อุปกรณ์ครัว"
สำคัญ: เลือกกลุ่ม In-Market Segments ที่คิดว่าลูกค้าของคุณกำลังสนใจหรือกำลังพิจารณาซื้อสินค้า/บริการประเภทนั้นจริงๆ คุณสามารถเลือกได้หลายกลุ่มก็ได้นะ
7. เลือกประเภทการกำหนดเป้าหมาย (Targeting Setting):
หลังจากเลือกกลุ่ม In-Market Segments ที่ต้องการแล้ว จะมีตัวเลือกให้คุณเลือกว่าจะใช้โหมดไหน:
Targeting (การกำหนดเป้าหมาย):
โฆษณาของคุณจะแสดงเฉพาะกับคนในกลุ่ม In-Market Segments ที่คุณเลือกเท่านั้น เหมาะกับการเจาะจงกลุ่มเป้าหมายมากๆ เพื่อให้แน่ใจว่าโฆษณาถึงคนที่ใช่จริงๆ
Observation (การสังเกตการณ์): โฆษณาของคุณจะยังแสดงกับกลุ่มเป้าหมายเดิมที่คุณตั้งค่าไว้ แต่ Google Ads จะเก็บข้อมูลว่าคนในกลุ่ม In-Market Segments นี้มีพฤติกรรมอย่างไรเมื่อเห็นโฆษณาของคุณ (เช่น มีคลิก, มี Conversion มากน้อยแค่ไหน) โหมดนี้เหมาะกับการวิเคราะห์และเรียนรู้ว่า In-Market Segment ไหนทำงานได้ดี ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นโหมด Targeting เต็มตัว
8. บันทึก (Save):
เมื่อเลือก In-Market Segments และประเภทการกำหนดเป้าหมายเรียบร้อยแล้ว ก็กดปุ่ม "บันทึก" (Save) ได้เลย!
คำแนะนำเพิ่มเติม:
- ●เริ่มต้นด้วย Observation ก่อน: ถ้ายังไม่แน่ใจว่า In-Market Segment ไหนจะเวิร์คกับธุรกิจ เริ่มด้วยโหมด Observation จะช่วยให้คุณเห็นข้อมูลเชิงลึกก่อนตัดสินใจใช้โหมด Targeting เต็มตัว ซึ่งจะช่วยประหยัดงบโฆษณาได้ด้วย
- ●ผสานกับการตั้งค่าอื่นๆ: In-Market Segments จะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับการตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายอื่นๆ
- ●ดูผลลัพธ์และปรับปรุง: หลังจากตั้งค่าแล้ว อย่าลืมเข้าไปดูรายงานประสิทธิภาพของแคมเปญอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในส่วนของ "กลุ่มเป้าหมาย" (Audiences)
สรุป: ทำไม In-Market Segments ถึงสำคัญกับนักการตลาด?
In-Market Segments คือ จุดเริ่มต้นที่ดีมากๆ ในการวาง กลยุทธ์กลุ่มเป้าหมาย ของคุณใน Google Ads เลยล่ะ! เพราะมันช่วยให้คุณเข้าถึงผู้ใช้งานที่อยู่ในช่วงที่ "พร้อมที่สุด" ที่จะตัดสินใจซื้อ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการ Convert (เปลี่ยนเป็นลูกค้า) ได้อย่างมีประสิทธิภาพสุดๆ
ดังนั้น ถ้าคุณกำลังมองหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาและอยากเจาะกลุ่มลูกค้าได้ตรงจุด ลองพิจารณาใช้ In-Market Segments ในแคมเปญ Google Ads ของคุณดูนะครับ! รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน!
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
