Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
nothing but movie
•
ติดตาม
6 มิ.ย. เวลา 01:34 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Invincible Swordsman (2025) หรือเดชคัมภีร์เทวดา ฉบับหวังจิงสร้าง
Invincible Swordsman (2025) หรือเดชคัมภีร์เทวดาฉบับล่าสุดนั้น ออกฉายในช่วงเทศกาลตรุษจีนต้นปีที่ผ่านมาในฮ่องกง และอีกหลายประเทศ ส่วนในประเทศจีนนั้นหนังส่งตรงเข้าสตรีมมิ่งทันที ไม่แน่ใจว่าทำไมไม่ได้เข้าโรงฉาย อาจจะไม่ได้โควต้าเข้าโรงตามปกติ หรืออาจจะมีข้อตกลงกับบริษัทสตรีมมิ่งไว้ก่อน แต่พื้นฐานที่เป็นหนังฉายโรงก็ทำให้มีมาตรฐานสูงกว่าหนังสตรีมมิ่งทั่วไปมาก
ว่าไปแล้ว Invincible Swordsman (2025) เหมือนเป็นการนำเอา Swordsman 2 ของฉีเคอะ/เฉินเสี่ยวตงมารีเมกใหม่ แล้วดัดแปลงบางอย่าง จนแม้กระทั่งกิมย้งที่มองดูหนังเรื่องนี้อยู่บนสวรรค์ก็คงอดคิดไม่ได้ว่า "นี่มันหนังจากนิยายของตูเหรอ" เพราะโดยรวมแล้วมันเหมือนงานหนังแฟนตาซี ผสมผสานกับเกมแนว RPG เสียเหลือเกิน
ตัวภาพยนตร์อัดแน่นด้วย CGI ราวกับต้องการให้ทุกฉากดู “เท่” กลับกลายเป็นว่ายุทธภพที่เคยเต็มไปด้วยฝุ่น ลมหายใจ และแววตาของความลังเล พลังฝีมือที่วัดกันด้วยกระบี่หรือฝ่ามือ กลับกลายเป็นดินแดนแฟนตาซีที่ผู้กล้าตะลุยเข้าไปแล้วออกมาพร้อมค่าประสบการณ์แบบเรากำลังเล่นเกมกันอยู่
Invincible Swordsman (2025) คือการคืนชีพเดชคัมภีร์เทวดา โดยอาศัยแรงบันดาลใจจากหนัง Swordsman 2 เป็นหลัก ไม่ใช่จากบทประพันธ์อมตะของกิมย้ง แม้จะยังคงโครงเรื่องของ เหล็งฮู้ชง จอมยุทธ์อิสระผู้เร่ร่อนระหว่างธรรมะกับอธรรมเอาไว้ แต่ความสัมพันธ์กับตงฟางปุ๊ป้าย ผู้นำพรรคสุริยันจันทราอันลึกลับนั้น ไม่ใช่สิ่งที่กิมย้งรจนาเอาไว้ มันเกิดจากฉีเคอะที่ต้องการตีความตัวละครนี้เสียใหม่
ในนิยายของกิมย้งนั้น ตงฟางปุ๊ป้ายเป็นชายที่ฝึกวิชาจากคัมภีร์ทานตะวัน ที่มีเคล็ดวิชาให้ต้องตัดขาดจากความเป็นชาย จึงจะฝึกสำเร็จกลายเป็นยอดฝีมือไร้ผู้ต่อต้าน จนค่อย ๆ มีท่าทางและบุคลิกเหมือนหญิง แต่ไม่ได้บอกชัดว่า “เป็นหญิง” หรือ “มีความรักแบบหญิงชาย” แต่อย่างใด กิมย้งเองก็ไม่เคยเน้นเรื่องเพศของตัวละครนี้มากนัก แต่กลับเน้นที่พลัง ความเด็ดขาด และการควบคุมพรรคสุริยันจันทรา
1
จริงๆ แล้วตงฟางปุ๊ป้าย แทบไม่ปรากฏตัวโดยตรงบนโครงเรื่องเลย เขาเป็นเหมือนถูกเล่าผ่านคำบอกกล่าวเสียมากกว่า มีชื่อเสียงว่าเป็นจอมมารผู้ยึดพรรคสุริยันจันทรามาจากเยิ่นหวอสิง และตงฟางปุ๊ป้ายไม่ได้มีบทสนทนากับเหล็งฮู้ชงอย่างลึกซึ้งเลย ยิ่งไม่่มีความสัมพันธ์เชิงสเน่หาแต่อย่างใด โดยปรากฏตัวจริง ๆ เพียงช่วงท้ายของเรื่อง และถูกเหล็งฮู้ชงกับเยิ่นอิงอิงร่วมกันโค่นลงในเวลาไม่กี่หน้าหนังสือ
แต่เวอร์ชันหลินชิงเสียในปี 1992 ได้สร้าง “แม่แบบ” ใหม่ให้ตงฟางปุ๊ป้ายกลายเป็น หญิงงามผู้แฝงด้วยอำนาจ ความลึกลับ และโศกนาฏกรรม จนกลายเป็นบุคคลในดวงใจของเหล็งฮู้ชง และมีบทสัมพันธ์เชิงชู้สาว เล่นเอากิมย้งแทบกระอักโลหิต โกรธฉีเคอะหาว่าทำลายวรรกรรมของแก ถึงกับบอกว่าจะไม่ยอมให้สิทธิ์นิยายแก่ฉีเคอะอีกแล้ว
พูดง่ายๆ ว่าหากไม่มีเวอร์ชั่นหลินชิงเสียในปี 1992 “ตงฟางปุ๊ป้าย” อาจยังเป็นเพียงตัวละครลึกลับในเงามืด แต่เมื่อหลินชิงเสียแสดง บทนี้กลับกลายเป็นตำนาน และหนังเรื่องอื่น ๆ หลังจากนั้นก็ล้วน “ตามรอย” การตีความนี้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
ส่วนผลงานเวอร์ชั่นล่าสุดชิ้นนี้อยู่ภายใต้การกำกับของหลัวอี้เว่ย และอำนวยการสร้างโดยหวังจิง โดยมี หวงซีเหยียน(แสดงในหนังห้องสิน) รับบทเป็น เหล็งฮู้ชง กับ จางอวี่ฉี(นางเอก CJ7 และ Mermaid ของโจวชิงฉือ) รับบท ตงฟางปุ๊ป้าย
นี่คือความพยายามอย่างตั้งใจที่จะรื้อฟื้นตำนานกลับมาใหม่ให้คนรุ่นหลังได้รู้จัก แต่เมื่อพิจารณาให้ลึกลงไป กลับพบว่าหลายสิ่งได้ถูกแทนที่ด้วยเปลือกอันวาววับ เพราะว่าเวอร์ชันนี้คือการตีความที่เน้นภาพลักษณ์แฟนตาซีมากกว่าการเน้นบรรยากาศยุทธจักรในแบบกำลังภายในต้นตำรับ โลกของ Invincible Swordsman เวอร์ชันนี้เต็มไปด้วยฉากเวทมนตร์ เอฟเฟกต์ตระการตา และจังหวะเร็วราวเกมออนไลน์ ทำให้สิ่งที่ควรเป็น “กลิ่นอายแห่งยุทธภพ” กลับจางหายไป
ที่สำคัญกว่านั้นคือการแสดงของนักแสดงนำ หวงซีเหยียนในบทเหล็งฮู้ชงนั้น แม้หน้าตาหล่อเหลา ดูดีราวนายแบบที่ก้าวออกมาจากนิตยสารแฟชั่น แต่กลับไร้ซึ่งเสน่ห์แบบ “เด็กหนุ่มเจ้าสำราญ ขี้เล่น เจ้าสำบัดสำนวน” ซึ่งเป็นหัวใจของตัวละครเหล็งฮู้ชงที่แท้จริง เขาเป็นเหมือน “รูปหล่อไร้ชีวิต” มากกว่าจะเป็น “จอมยุทธ์เจ้าสำราญผู้รักเสรี”
ต่างจากครั้งอดีตที่ แซม ฮุย เคยรับบทเหล็งฮู้ชงได้อย่างเปี่ยมชีวิตชีวา ขี้เล่น ขี้เหล้า เจ้าอารมณ์ จนผู้ชมรู้สึกเหมือนตัวละครก้าวออกมาจากหน้ากระดาษโดยแท้ หรือแม้แต่หลี่เหลียนเจี๋ย อาจจะไม่ขี้เล่น มีเสน่ห์เท่าแซม ฮุย แต่เขาก็ทำให้เหล็งฮู้ชงให้กลายเป็นชายหนุ่มผู้เย้ยยุทธจักรด้วยสายตาที่ทั้งอ่อนโยนและเหยียดหยามต่ออำนาจเก่าได้อย่างน่าเชื่อถือ
ส่วนบทบาทของจางอวี่ฉีในฐานะตงฟางปุ๊ป้ายนั้น ถูกแปลงไปอีกขั้นจากเดิม คือชายกลายเป็นหญิง แต่ฉบับนี้ตงฟางปุ๊ป้ายของจางอวี่ฉีไม่เคยเป็นชายมาก่อน เธอเกิดมาก็เป็นหญิงอยู่แล้ว แต่การฝึกวิชาจากคัมภีร์ทานตะวันได้เปลี่ยนให้เธอกลายอื่นที่ไม่ใช่มนุษย์แต่คงรูปลักษณ์สตรีเอาไว้ แม้จางอวี่ฉีจะพยายามมากแค่ไหนก็ไม่อาจหลุดพ้นจากเงาของ “หลินชิงเสีย” ได้ ทั้งชุด เสื้อผ้า การแต่งการ การออกอาวุธ มันคือหลินชิงเสียชัดๆ แต่ทว่าน้ำเสียง ท่วงท่า และแววตากลับแข็งกระด้างเกินไป ความน่าพิศวง ความลื่นไหล
และความเป็น “ชายที่กลายเป็นหญิง” ที่หลินชิงเสียเคยถ่ายทอดไว้อย่างชวนหลงใหลนั้น ไม่มีปรากฏให้เห็นแม้เพียงเศษเสี้ยว จางอวี่ฉีดูราวกับพยายาม “เป็นหลินชิงเสีย” อย่างไม่ลดละ และนั่นเองที่ทำให้เธอขาดความเป็นตัวของตัวเองไป
หนังเวอร์ชันนี้เหมือนหนังที่สร้างจากความพยายาม “เลียนแบบตำนาน” แทนที่จะสร้างสิ่งใหม่ให้กลายเป็นตำนานของตัวเอง เนื้อเรื่องถูกเร่งรัด บทสนทนาขาดเสน่ห์ ดนตรีประกอบแม้จะอลังการแต่กลับไม่สื่ออารมณ์ “เหงา เศร้า สง่า” ที่เป็นหัวใจของเดชคัมภีร์เทวดา ที่ยิ่งน่าหดหู่คือ การระบุเพศของตงฟางปุ๊ป้ายว่าเป็น “หญิงเต็มตัว”
ซึ่งขัดแย้งกับความลี้ลับของต้นฉบับ และละเลยความกำกวมทางเพศอันเป็นสัญลักษณ์ของตงฟางปุ๊ป้าย และการละทิ้งตัวตนในแบบฉบับนิยายของกิมย้ง การตีความแบบนี้จึงไม่เพียงแต่ทำลายเสน่ห์ของตัวละคร แต่ยังทำให้เวอร์ชันใหม่นี้กลายเป็นเงาที่ไร้วิญญาณของสิ่งที่เคยเรืองรองมาก่อน
กล่าวให้ถึงที่สุด แม้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะตั้งใจอุทิศตนเป็น “การฟื้นคืนชีพตำนาน” แต่สิ่งที่ได้รับกลับมา คือภาพฝันที่ถูกแต่งแต้มด้วย CGI และนักแสดงหน้าตาดีไร้อารมณ์ในเสื้อผ้าเลิศหรู โดยไม่มีหัวใจของยุทธจักรอยู่เลย เหล็งฮู้ชงที่เคยยิ้มเย้ยฟ้า ตงฟางปุ๊ป้ายที่เคยแย้มยิ้มลี้ลับ เหล่านี้ล้วนไม่ปรากฏอีกแล้วในผลงานชิ้นใหม่
แต่ที่ปรากฏในหนังคือมีหงจินเป่ามาร่วมแจมรับเชิญด้วย ในบทปรมาจารย์ยอดฝีมือหัวซานฝ่ายกระบี่ที่สอนเก้ากระบี่เดียวดายให้กับเหล็งฮู้ชง
ส่วนหวังจิงก็ยังเป็นหวังจิงคนเดิมแม่จะถอยออกมาเป็นโปรดิวเซอร์ แต่ก็คาดหวังอะไรกับหนังของแกมากไม่ได้ แกน่าจะเป็นคนเดียวในยุคนี้ที่พยายามนำเอานิยายของกิมย้งมาทำเป็นหนังอย่างไม่ลดละ
หนังไม่ถึงกับดูไม่ได้หรือเสียดายเวลา เพียงแต่ว่ามันน่าจะทำได้ดีกว่านี้และส่วนที่ชอบที่สุดในหนังคือโลเคชั่นที่ใช้ถ่ายกันแม้จะอุดมไปด้วย CGI แต่ฉากโลเคชั่นจริงที่สรรหามาถ่ายมันสวยจริงๆเห็นแล้วอยากไปเที่ยวเลย
6/10
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย