Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Arifeen Yama | อารีฝีน ยามา
•
ติดตาม
6 มิ.ย. เวลา 09:39 • ข่าวรอบโลก
อัสตานา
เส้นทางสายไหมศตวรรษที่ 21: จีนกับโครงการ BRI ที่กำลังเปลี่ยนโฉมภูมิภาคเอเชียกลาง
เอเชียกลางเคยมีบทบาทสำคัญในฐานะเส้นทางการค้าและจุดแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมบนเส้นทางสายไหมในอดีต และในศตวรรษที่ 21 ภูมิภาคนี้ได้หวนกลับมาเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญอีกครั้ง ภายใต้โครงการ Belt and Road Initiative (BRI) ของจีน ซึ่งเปิดตัวในปี 2013 โดยมีเป้าหมายเพื่อเชื่อมโยงเอเชีย แอฟริกา และยุโรปผ่านเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ โดยเอเชียกลางมีบทบาทเป็นจุดศูนย์กลางของยุทธศาสตร์นี้อย่างชัดเจน
สาธารณรัฐในอดีตของสหภาพโซเวียตทั้งห้า ได้แก่ คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ทาจิกิสถาน เติร์กเมนิสถาน และอุซเบกิสถาน ต่างประสบปัญหาเชิงโครงสร้างจากลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ซึ่งส่งผลให้การเข้าถึงตลาดโลกมีข้อจำกัด การเข้ามาลงทุนของจีนในรูปแบบของโครงการ BRI ได้เปลี่ยนแปลงข้อจำกัดดังกล่าว โดยอัดฉีดเงินทุนจำนวนมหาศาลเพื่อพัฒนาเครือข่ายถนน ทางรถไฟ ท่อส่งพลังงาน และศูนย์โลจิสติกส์ในภูมิภาค ส่งผลให้ประเทศเหล่านี้ได้รับการเชื่อมโยงกลับเข้าสู่โครงข่ายการค้าโลกอีกครั้ง
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ Khorgos Gateway ซึ่งตั้งอยู่บนชายแดนคาซัคสถาน–จีน ปัจจุบันได้กลายเป็นท่าเรือบกที่มีบทบาทสำคัญในโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ โดยสามารถลำเลียงตู้คอนเทนเนอร์จากจีนไปยังยุโรปภายในระยะเวลาเพียง 15 วัน ซึ่งนับว่าเร็วกว่าการขนส่งทางเรือแบบดั้งเดิมอย่างมาก ทั้งในแง่ของระยะเวลาและประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ
สำหรับรัฐบาลในหลายประเทศของเอเชียกลาง โครงการ Belt and Road Initiative (BRI) มิได้เป็นเพียงโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเท่านั้น หากแต่มีสถานะเสมือนเส้นชีวิตทางเศรษฐกิจที่เปิดโอกาสให้ภูมิภาคสามารถฟื้นตัวจากข้อจำกัดเชิงโครงสร้างที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน โครงการนี้มาพร้อมคำมั่นเกี่ยวกับการสร้างงาน การกระจายความหลากหลายทางเศรษฐกิจ และการเพิ่มพูนการเชื่อมโยงในระดับภูมิภาค
ซึ่งล้วนมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงแนวทางการพัฒนาในภูมิภาคอย่างเป็นระบบ ความร่วมมือกับจีนในรูปแบบของเงินกู้และโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ได้ส่งผลให้ระบบการคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานได้รับการยกระดับอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ดี ผลประโยชน์เหล่านี้ยังมาพร้อมข้อถกเถียงและความกังวลจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะประเด็นเรื่องความเสี่ยงจากการพึ่งพาเงินทุนจีนมากเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาหนี้สินภายนอกในระยะยาว ตัวอย่างที่ชัดเจนได้แก่กรณีของคีร์กีซสถานและทาจิกิสถาน ที่จีนกลายเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ในระดับที่น่ากังวล สถานการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความยั่งยืนทางการคลัง และความเสี่ยงต่อการสูญเสียอธิปไตยทางเศรษฐกิจของรัฐในอนาคต
อย่างไรก็ดี โครงการ Belt and Road Initiative (BRI) มิได้จำกัดอยู่เพียงมิติทางเศรษฐกิจเท่านั้น หากยังทำหน้าที่เป็นเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลจีนใช้ในการขยายบทบาทและเสริมสร้างอิทธิพลในภูมิภาคเอเชียกลาง ซึ่งในอดีตเคยอยู่ภายใต้การครอบงำทางการเมืองและความมั่นคงของรัสเซียมาอย่างยาวนาน การขับเคลื่อน BRI ยังสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับเป้าหมายด้านความมั่นคงของจีน
โดยเฉพาะการรักษาเสถียรภาพในพื้นที่ชายแดนด้านตะวันตก เช่น มณฑลซินเจียง ซึ่งเป็นพื้นที่อ่อนไหวเชิงชาติพันธุ์และศาสนา อิทธิพลที่ขยายตัวของจีนในภูมิภาคนี้จึงส่งผลให้สมการภูมิรัฐศาสตร์ของเอเชียกลางเริ่มแปรเปลี่ยน
แม้ว่ารัสเซียจะยังคงรักษาบทบาทในด้านวัฒนธรรมและความมั่นคง แต่จีนกลับกลายเป็นผู้มีบทบาทนำในด้านเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ภูมิภาคเอเชียกลางจึงได้กลายเป็นเวทีแห่งการแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์ที่ดำเนินไปอย่างเงียบงัน ระหว่างมหาอำนาจทั้งสองซึ่งต่างพยายามขยายอิทธิพลของตนในบริบทใหม่ของศตวรรษที่ 21ทัศนคติของสาธารณชนในเอเชียกลางที่มีต่อโครงการ Belt and Road Initiative สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายของมุมมองในระดับพื้นที่ ขณะที่ประชาชนบางส่วนแสดง
ความยินดีต่อโอกาสในการพัฒนาและความทันสมัยที่โครงการนำมาให้ อีกหลายเสียงกลับแสดงความวิตกต่อผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม การเข้าครอบครองที่ดินโดยนักลงทุนต่างชาติ และความไม่โปร่งใสในเนื้อหาของข้อตกลงจำนวนไม่น้อย ข้อเรียกร้องจากกลุ่มประชาสังคมจึงมุ่งไปที่ความโปร่งใส ความรับผิดชอบ และการจัดสรรผลประโยชน์อย่างเป็นธรรมแก่ประชาชนในท้องถิ่น
ในบริบทนี้ ผู้นำของประเทศในเอเชียกลางจำเป็นต้องดำเนินนโยบายต่างประเทศด้วยความระมัดระวัง โดยแสวงหาการลงทุนจากจีนในลักษณะที่เป็นประโยชน์ ขณะเดียวกันก็ต้องรักษาความสมดุลในความสัมพันธ์กับมหาอำนาจอื่น ๆ เช่น สหภาพยุโรป ตุรกี และสหรัฐอเมริกา เพื่อปกป้องอธิปไตยทางยุทธศาสตร์และเพิ่มทางเลือกทางการทูตในระยะยาว
ท้ายที่สุดแล้ว โครงการ Belt and Road Initiative มิได้เป็นเพียงกลไกในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของเอเชียกลางเท่านั้น หากยังมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสถานะของภูมิภาคในระเบียบโลกศตวรรษที่ 21 จากพื้นที่ชายแดนที่เคยถูกมองข้ามในอดีต
บัดนี้เอเชียกลางกำลังก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางของเครือข่ายโลจิสติกส์และโครงข่ายทางรถไฟข้ามทวีปที่ได้รับการฟื้นฟูและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าหนทางข้างหน้ายังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนว่าการเติบโตดังกล่าวจะสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและครอบคลุมได้เพียงใด แต่สิ่งที่ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนคือ การฟื้นคืนของจิตวิญญาณแห่งเส้นทางสายไหม ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเส้นเลือดใหญ่ของการค้าระหว่างอารยธรรม และในวันนี้ได้กลับมาอีกครั้งในรูปของรางเหล็ก สายส่งพลังงาน และการลงทุนจากจีนในระดับมหภาค
ข่าวรอบโลก
ธุรกิจ
การลงทุน
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย