Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ลงทุนแมน
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
8 มิ.ย. เวลา 04:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
เส้นทางชีวิต เจ้าชาย Al Waleed รวยด้วยการลงทุน ฉายา บัฟเฟตต์ แห่งซาอุดีอาระเบีย
พูดถึงประเทศซาอุดีอาระเบีย หลายคนคงจะนึกถึงบ่อน้ำมัน ไปจนถึงอุตสาหกรรมน้ำมันดิบ
และคงไม่แปลกถ้าหากจะมองว่า มหาเศรษฐีชาวซาอุดีอาระเบียนั้น ร่ำรวยจากอุตสาหกรรมน้ำมันเป็นหลัก
แต่มีเจ้าชายองค์หนึ่งของซาอุดีอาระเบีย ที่สร้างความมั่งคั่งจากการลงทุน จนมีทรัพย์สินรวมกว่า 570,000 ล้านบาท จากเงินลงทุนตั้งต้น 1 ล้านบาท
ที่สำคัญเจ้าชายองค์นี้ ได้เข้าซื้อหุ้น Apple ในปี 1997 หรือก่อนที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ จะเข้าซื้อในอีก 19 ปีต่อมา
เจ้าชายองค์นั้น ก็คือ Al Waleed bin Talal ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น วอร์เรน บัฟเฟตต์ แห่งซาอุดีอาระเบีย..
เจ้าชาย Al Waleed คือใคร ?
และมีกลยุทธ์การลงทุน ในการสร้างความมั่งคั่งอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เจ้าชาย Al Waleed bin Talal ปัจจุบันอายุ 70 ปี เป็นหนึ่งในสมาชิกของราชวงศ์ซะอูด ที่ปกครองประเทศซาอุดีอาระเบียอยู่ในปัจจุบัน โดยเป็นหลานปู่ของสมเด็จพระราชาธิบดี Abdulaziz กษัตริย์องค์แรก และผู้ก่อตั้งประเทศซาอุดีอาระเบีย
หลังจากที่สำเร็จการศึกษาจาก Syracuse University ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 1985 เจ้าชาย Al Waleed ก็ได้เดินทางกลับซาอุดีอาระเบีย และเริ่มต้นเส้นทางชีวิตการลงทุน
โดยมีทุนตั้งต้น เป็นเงินที่ได้เป็นของขวัญจากผู้เป็นบิดา มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท ซึ่งเจ้าชาย Al Waleed ได้นำไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
เจ้าชาย Al Waleed ได้เคยเปิดเผยว่า สามารถทำเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐก้อนแรก หรือ 32 ล้านบาท ได้จากการขายที่ดินและเป็นนายหน้าให้กับบริษัทต่างชาติ ที่ต้องการเข้ามาลงทุนในซาอุดีอาระเบีย
ในปี 1980 เจ้าชาย Al Waleed ได้ก่อตั้งบริษัทขึ้น ภายใต้ชื่อ Kingdom Establishment for Commerce and Trade ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อมาเป็น “Kingdom Holding Company” ในปี 1996
2
Kingdom Holding Company เป็นบริษัทที่มีการลงทุนในบริษัทอื่น คล้ายกับ Berkshire Hathaway ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ แต่เพิ่มเติมคือ มีการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ด้วย เพราะเจ้าชาย Al Waleed เชี่ยวชาญเรื่องนี้อยู่แล้ว
1
ในช่วงแรก Kingdom Holding Company เน้นลงทุนเฉพาะในโครงการอสังหาริมทรัพย์ ในกรุงริยาด
ก่อนที่ในปี 1988 ได้เข้าซื้อกิจการธนาคาร United Saudi Commercial Bank (USCB) ซึ่งกำลังประสบปัญหา และทำการเปลี่ยนแปลงบอร์ดบริหารใหม่
1 ปีหลังการเข้าซื้อกิจการ USCB กลายเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีกำไรมากที่สุดในซาอุดีอาระเบีย ส่งผลให้ราคาหุ้นของ USCB พุ่งขึ้นถึง 20 เท่า สร้างผลตอบแทนให้แก่ Kingdom Holding Company จำนวนมหาศาล
เจ้าชาย Al Waleed เป็นที่รู้จักในวงการนักลงทุนทั่วโลก
ภายหลังจาก Kingdom Holding Company ใช้เงินกว่า 19,000 ล้านบาท เข้าลงทุนใน Citicorp เจ้าของธนาคารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง Citibank ที่กำลังประสบปัญหาจากหนี้เสียในปี 1991
ก่อนที่จะมีการลงทุนเพิ่มในภายหลัง ตามคำร้องขอของ John S. Reed อดีตซีอีโอของ Citicorp และทำให้ Kingdom Holding Company มีมูลค่าเงินลงทุนใน Citicorp รวมกว่า 26,000 ล้านบาท
หลังจากที่ Citicorp สามารถพลิกฟื้นกิจการได้ ก็ได้สร้างผลตอบแทนที่งดงามให้แก่ Kingdom Holding Company รวมถึงเจ้าชาย Al Waleed
ในปี 1997 เจ้าชาย Al Waleed ได้ใช้เงินกว่า 3,800 ล้านบาท เข้าซื้อหุ้นกว่า 5% ของบริษัท Apple ที่กำลังประสบปัญหา ซึ่งเป็นปีเดียวกันกับที่สตีฟ จอบส์ หวนคืนสู่บริษัท Apple
ในตอนนั้น เจ้าชายได้ให้เหตุผลว่าบริษัท Apple ยังคงมี “ศักยภาพ” ที่สูงมาก ในการสร้างผลตอบแทนมหาศาลให้แก่ผู้ถือหุ้น
ซึ่งหลายคนก็คงจะรู้อยู่แล้วว่า หลังจากนั้น Apple ได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด และกลายมาเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ในเวลาต่อมา
หลักการในการเลือกหุ้นที่จะลงทุนของเจ้าชาย Al Waleed และ Kingdom Holding Company นั้น มีความเรียบง่าย คล้ายคลึงกับของวอร์เรน บัฟเฟตต์ หลายข้อ
โดยหลัก ๆ จะมองหาบริษัท ที่มีคุณสมบัติ..
- มีศักยภาพสูง ที่จะเติบโตไปเป็นบริษัทระดับโลก
- มีความแข็งแกร่ง ที่ไม่มีใครสามารถมาแทนที่ได้ง่าย ๆ
- ถูกประเมินมูลค่าบริษัท ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น
ซึ่งข้อสุดท้าย ถือเป็นท่าประจำของนักลงทุนแบบเน้นคุณค่า (VI) นั่นเอง
นอกจากนี้ เจ้าชายยังให้ความสำคัญกับผู้บริหารของบริษัทที่จะไปลงทุนอีกด้วย
แล้วผลประกอบการของ Kingdom Holding Company เป็นอย่างไร ?
- ปี 2021
รายได้ 13,172 ล้านบาท
กำไร 8,885 ล้านบาท
- ปี 2022
รายได้ 21,763 ล้านบาท
กำไร 60,760 ล้านบาท (กำไรที่สูงเป็นพิเศษ มาจากการขายเงินลงทุน ซึ่งเป็นรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว)
- ปี 2023
รายได้ 23,607 ล้านบาท
กำไร 8,848 ล้านบาท
- ปี 2024
รายได้ 20,876 ล้านบาท
กำไร 10,802 ล้านบาท
ซึ่งผลตอบแทนที่สะสมมาตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท Kingdom Holding Company เป็นกำลังสำคัญ ที่สร้างความมั่งคั่งให้แก่เจ้าชาย Al Waleed
ปัจจุบัน Kingdom Holding Company มีผู้ถือหุ้นใหญ่สุดคือ เจ้าชาย Al Waleed ที่ถือหุ้นในสัดส่วนกว่า 78%
รองลงมาคือ กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติซาอุดีอาระเบีย ที่ถือหุ้นในสัดส่วน 17%
ตลอดเส้นทางชีวิตของเจ้าชาย Al Waleed ที่โลดแล่นในโลกการลงทุน กว่า 40 ปี ซึ่งคงได้ผ่านร้อนผ่านหนาว และประสบการณ์ มานับไม่ถ้วน
แต่ในขณะเดียวกัน ก็สร้างความมั่งคั่งทวีคูณแบบทบต้น ให้กับเจ้าชายด้วยเช่นกัน
โดยจากการจัดอันดับของ Bloomberg Billionaires Index พบว่า เจ้าชาย Al Waleed มีทรัพย์สินรวมอยู่ที่ ประมาณ 570,000 ล้านบาท ถือเป็นมหาเศรษฐีที่รวยเป็นอันดับ 129 ของโลก
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ..
ที่ผ่านมา Kingdom Holding Company ได้ขายหุ้น Apple ออกไปแล้ว แต่ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า ได้กำไรจากหุ้นตัวนี้เท่าไร
แต่ถ้าสมมติว่า Kingdom Holding Company ยังคงถือหุ้น Apple ในสัดส่วน 5% อยู่
เงินลงทุนใน Apple มูลค่า 3,800 ล้านบาทในปี 1997 นั้น จะมีมูลค่าสูงถึง 4,800,000 ล้านบาท ในวันนี้..
References
-
https://www.morningstar.in/posts/43602/prince-alwaleed-became-billionaire.aspx
-
https://www.bloomberg.com/billionaires/profiles/alwaleed-b-al-saud/
-
https://www.bloomberg.com/news/articles/2017-11-09/how-the-warren-buffett-of-arabia-built-his-fortune
-
https://kingdom.com.sa/investors
-
https://finchat.io/company/SASE-4280/financials/
-
https://www.investopedia.com/articles/investing/030916/alwaleed-bin-talal-saudi-arabias-warren-buffett.asp
-Fx Rate : USD/THB = 32.52
หุ้น
การลงทุน
10 บันทึก
30
10
10
30
10
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย