Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หนูนิ
•
ติดตาม
7 มิ.ย. เวลา 00:15 • นิยาย เรื่องสั้น
รักย้อนอดีตภาค 5 ภัยร้ายจากดาวหางฮัลเลย์
.
บทที่ 37 สังหาร และ สังหารพวกล่าแม่มด
.
พันสั่งให้แสนสุริยาและอัมโบโปคอยคุ้มกันลุง เพชฌฆาตเหล่านี้เธอคนเดียวจัดการได้สบายมาก แล้วพันก็เหวี่ยงร่างของกาก้าใส่พวกเพชฌฆาตทั้งส่งเสียงตวาด"ถอยไปไอ้พวกสุนัขขี้เรื้อน ถ้าพวกเจ้าต้องการเห็นแสงตะวันอีก"
.
เหล่าเพชฌฆาตต่างพากันหัวเราะเพราะเห็นพันเหมือนคนแคระซึ่งไม่น่ามีพิษสงอะไร ต่างพากันล้อมพันจนเป็นวงรัศมีราว 5 เมตร
บางคน ก็ทำทียกหอกเหมือนจะพุ่งใส่ บางคนก็ทำท่าเหมือนจะทุบด้วยกระบองหนักที่อยู่ในมือ ต่างคนต่างแสดงท่าทีที่คิดว่าข่มขวัญ่คู่ต่อสู้ที่มีเพียง 1 เดียวให้ผวา
.
พันยืนนิ่งดาบเลเซอร์ที่อยู่ในมือเตรียมพร้อมที่จะส่งเพชฌฆาตจอมโหดทั้ง 12 ตัวลงนรกให้สมกับความผิดที่มันฆ่าผู้บริสุทธิ์มานับไม่ถ้วนนับตั้งแต่ทวาลาเป็นราชัน
.
ทวาลาเองก็จับตาดูการต่อสู้ระหว่าง 1 ต่อ 12 ด้วยความตื่นเต้น มันเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าหนูจะเอาชนะชายร่างมหึมาทั้ง 12 คน แค่เอาชีวิตให้รอดก็มองไม่เห็นหนทางแล้ว
.
แสนสุริยาและอัมโบโปทั้งที่รู้ฝีมือของพันก็ยังอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ ลุงยิ่งไม่ต้องพูดถึงพึมพัมขอให้พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ ทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกอย่างที่นึกได้ แม้แต่ลัทธิวูดูช่วยคุ้มครองพัน
.
ในขณะที่หมู่นักรบจำนวนมากที่ยืนตรงเป็นระเบียบทั้งที่ผ่านการฆ่าเพื่อนร่วมอาชีพมาแท้ๆยังคงยืนแถวอย่างมั่นคง
แต่ในทันทีที่พวกเพชฌฆาตจอมโหดทั้ง 12 ตัวเริ่มขยับ หมู่นักรบก็เริ่มเรรวนแม้แต่
ผู้นำหมู่คนอื่นๆที่รอดชีวิตต่างก็มองการสู้รบครั้งนี้อย่างตื่นเต้น
.
เพชฌฆาตคนหนึ่งที่อยู่ทางด้านหลังยกหอกพุ่งใส่พันจนสุดแรงเพื่อหมายชีวิต แต่พันเหมือนมีตาหลังในสายตาของทุกคน เธอกระโดดลอยตัวกางขาเหยียดตรง180 องศาข้ามไปได้อย่างสบาย
ส่วนหอกเล่มนั้นก็ไปปักตรึงร่างของเพื่อนมันที่อยู่ตรงข้ามตายสนิท ตายอย่างไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
.
"1" ลุงนับอย่างสบายใจในขณะที่ทวาลาสะดุ้งจนเห็นได้ชัด มีเสียงฮือฮาเบาๆมาจากหมู่นักรบ เพชฌฆาตอีกคนหนึ่งที่อยู่ทางด้านหลังของพันเช่นกันเหวี่ยงกระ
บองหนักที่อยู่ในมือใส่
.
กระบองหนักลอยเข้าใส่พันอย่างน่ากลัว ทว่าพันหมุนตัวกลับกระโดดเตะกระบองหนักนั้นให้ลอยกลับไปกระแทกหัวเจ้าของ หัวแบะตายสนิทท่ามกลางความดีใจของลุง "2" ลุงนับดังๆ
.
ทวาลาหน้าตาบูดบึ้งโกรธจนตัวสั่น "ไอ้พวกโง่ ตายเสียได้ก็ดี ยังไม่รีบจัดการอีก"
.
เพชฌฆาตอีก 10 คนที่เหลือเริ่มเรรวน เพราะนี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เป็นเพชฌฆาตที่เจอหมูเขี้ยวตัน ที่ผ่านมาพวกมันแค่มีหน้าที่ฆ่าโดยเหยื่อไม่ขัดขืนมันจึงสู้ไม่เป็น
.
ขณะที่กำลังลังเลว่าจะทำไงต่อดี พันก็มายืนตรงหน้าของเจ้าคนหนึ่งโดยมีดาบแทงทะลุอกของมัน พันถอนดาบด้วยการใช้เท้าถีบร่างกระเด็นไป
แล้วหันมาเล่นงานคนที่อยู่ใกล้ที่สุดซึ่งเป็นศพที่ 4 ด้วยการพุ่งทะยานไปข้างหน้า
ใช้ดาบแทงทะลุกะโหลกศีรษะ
.
มาถึงตอนนี้เพชฌฆาตที่เหลืออีก 8 คนจึงได้สติร่วมกันใช้หอกแทงใส่พันที่ยกดาบขึ้นรับ ดาบของพันเป็นเหมือนแม่เหล็ก เพราะทันทีที่ส่วนของใบหอกที่เป็นโลหะกระทบโดนก็ไม่สามารถที่จะถอนอาวุธออกมาได้
.
เพชฌฆาตทั้ง 8 ที่ตอนนี้มีสภาพเหมือนโดนไฟดูดทำได้เพียงใช้กระบองหนักที่อยู่ในมืออีกข้างฟาดลงมา แล้วก็ซ้ำรอยเดิมอีกนั่นคือการที่ไม่สามารถถอนอาวุธออกมาได้
.
พันใช้แรงดันเพียงเบาๆเพชฌฆาตทั้ง8ก็กระเด็นกระดอนกันไปคนละทาง แล้วพันก็กลิ้งตัวไปจัดการแต่ละคนด้วยการใช้ดาบทั้งฟันทั้งแทง เพียงครู่เดียวเพชฌฆาตทั้ง8ก็นอนตายเกลื่อนเป็นวงกลม โดยที่สีหน้าของพันสงบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
.
บรรยากาศโดยรอบก็เงียบสงบโดยมีแต่กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง มีเสียงลุงโวยวายขึ้นมาว่า "นับไม่ทันเลยวุ้ย"
ตามด้วยเสียงร้องคร่ำครวญจากกาก้า "โอราชัน หากท่านไม่ฆ่ามันเดี๋ยวนี้ ท่านจักไม่มีโอกาสอีกแล้ว"
.
ทวาลา "เจ้าไม่เห็นหรือกากาว่าเจ้าตัวเล็กไม่ใช่คน"
.
กากา "ไม่ใช่เจ้าตัวเล็ก แต่เป็น...." แล้วกาก้าก็เตรียมชี้มือไปที่...แต่ก็ถูกขัดจังหวะด้วยร่างประหลาดน่ากลัวของหญิงสูงอายุผมหงอกขาว 10 คน
"แม่ แม่เฒ่า เรามาแล้ว มาตามคำเรียกร้อง" พวกมันร้องบอกกาก้า
.
"ดี ดี ดี" เสียงตอบจากนางเฒ่าชั่วร้าย "จงจัดการกับนางหญิงชุดดำคนนั้น"
.
"แม่พวกเราจะจัดการมันเดี๋ยวนี้"
.
นางเฒ่าชั่วร้าย "ดี ดี ดี พวกเจ้าลงมือ"
.
เสียงโห่ร้องป่าเถื่อนของข้ารับใช้กาก้าดังระงม แล้วร่างประหลาดน่ากลัวของหญิงสูงอายุผมหงอกขาว 10 คนก็ตรงเข้าล้อมพันเป็นวงกลมแล้วเต้นอย่างบ้าคลั่ง
หมุนตัวอย่างรวดเร็วแทบไม่น่าเชื่อ หวีดเสียงออกมาเป็นถ้อยคำ "ข้าได้กลิ่นมัน เจ้าปีศาจชั่วร้าย"
.
มันเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆทั้ง10คนจนดูบ้าคลั่ง น้ำลายเป็นฟองกระเซ็น และพร้อมกับเสียงหวีดร้องมันยื่นมือมาสัมผัสพันด้วยไม้ง่ามของมัน
ในทันทีนั้นดาบของพันก็ตวัดฉับเป็นวง รวดเร็วจนสายตามนุษย์จับไม่ทัน ตัดห้วของข้ารับใช้กาก้าทันที 9 ห้ว ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน
.
นางคนสุดท้ายที่รอดจากคมดาบอย่างปาฏิหารย์หันกลับและวิ่งหนี กระดูกมนุษย์แห้งที่แขวนไว้รอบเอวส่งเสียงดังกรอกแกรก
มันมุ่งหน้าไปตามที่ต่างๆของกลุ่มคนที่อัดแน่นเป็นวงซึ่งเปิดทางให้มันวิ่งเข้าไปในระหว่างแถว
.
พันหาตัวมันได้ไม่ยากจากเสียงดังกรอกแกรกของกระดูกมนุษย์แห้งที่แขวนไว้รอบเอว ด้วยความเร็วที่เหนือกว่าทำให้พันสามารถถึงตัวร่างประหลาดน่ากลัวของหญิงสูงอายุ
.
พันกระชากผมของหญิงนั้นขณะที่ตวัดดาบ แล้วชูศีรษะสุดท้ายที่น่าสยดสยองให้ทุกคนได้เห็นขณะที่เดินตรงไปหานางเฒ่าชั่วร้าย
พลางโยนหัวสาวกคนสุดท้ายใส่ "คราวนี้ถึงทีของแกเสียที กาก้า แกจะได้รู้ว่าความตายมันเจ็บปวดรวดร้าวแค่ไหน เฉพาะแกฉันจะไม่รีบฆ่า จะทำให้ตายอย่างทรมาน"
.
แล้วทวาลาก็ลุกขึ้นและพูดว่า "ถูกของพวกเจ้า ข้าไม่ควรทำกับแขกแบบนี้ ข้ายอมปล่อยเพื่อนของเจ้าไปโดยสันติ มิใช่เพราะกลัวเจ้าฆ่าข้าดอกนะ"
.
"อย่างนั้นน่ะดีแล้ว" พันตอบอย่างไม่แยแส "ข้าก็เบื่อฆ่าคนแล้ว อยากนอนเต็มที งานจบแล้วใช่ไหม เสียใจด้วยที่ปีหน้าท่านต้องหาทีมงานใหม่ เพราะชุดเดิมข้าจัดการหมดแล้ว"
.
"มันจบแล้ว" ทวาลาตอบอย่างขุ่นเคือง หันไปสั่งทหารแผนกเก็บศพ(ทวาลาเรียกพวกนี้ว่าแผนกเก็บสัมภาระ)ด้วยเสียงเกรี้ยวกราดชี้มือไปที่แถวอันยาวของซากศพ "เอาซากไอ้พวกสุนัขไปโยนทิ้งให้หมาป่ากับแร้ง"
.
และทันทีที่ทวาลายกหอกขึ้น กองทหารที่รอดตายในคืนนี้ต่างพากันเดินจากไปอย่างเงียบเชียบ บรรดาพวกแขกต่างก็ลุกขึ้นโค้งคารวะราชันที่รับการคารวะอย่าง
ไม่เต็มใจ
.
จบบทที่ 37 ภาพปกจากสรรหามาให้ดู พีดมอนต์(Piedmont)แห่งอิตาลี ชื่อนี้แปลว่า ที่เชิงเขา หมายถึงดินแดนที่ถูกล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอลป์ทั้งสามด้าน
1 บันทึก
1
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย