Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Arifeen Yama | อารีฝีน ยามา
•
ติดตาม
7 มิ.ย. เวลา 14:37 • ข่าวรอบโลก
พลวัตความร่วมมืออินเดีย–คาซัคสถาน: จากหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์สู่การเชื่อมโยงระดับภูมิภาค
ความสัมพันธ์ระหว่างอินเดียกับคาซัคสถานกำลังก้าวเข้าสู่ระยะใหม่ที่มีความลึกซึ้งและหลากหลายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2025 ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญของการยกระดับความร่วมมือผ่านการลงนามในแผนความร่วมมือระยะสามปี (2025–2027) ที่มุ่งเน้นการขยายขอบเขตของการค้า การลงทุน และการมีส่วนร่วมในเวทีพหุภาคีอย่างเป็นระบบ แผนความร่วมมือนี้สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาเชิงสถาบันที่มีจุดเริ่มต้นมาจากความเข้าใจทางการเมืองที่มั่นคงระหว่างสองประเทศ ซึ่งได้รับการสั่งสมมาตั้งแต่คาซัคสถานได้รับเอกราช
ความสัมพันธ์ดังกล่าวไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในระดับพิธีการทางการทูต หากแต่ได้รับแรงขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องผ่านการสนทนาเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศ ซึ่งได้ช่วยสร้างความไว้วางใจทางการเมืองและเปิดพื้นที่สำหรับความร่วมมือในมิติต่าง ๆ ที่สอดรับกับพลวัตของภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบัน
ในมิติทางเศรษฐกิจ อินเดียได้แสดงบทบาทในฐานะนักลงทุนรายสำคัญของคาซัคสถาน โดยมีบริษัทอินเดียกว่า 600 แห่งที่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศ ครอบคลุมภาคส่วนที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ เช่น อุตสาหกรรมยา การทำเหมืองแร่ และการแปรรูปอาหาร ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการบูรณาการทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างทั้งสองประเทศ
นอกจากนี้ แรงส่งจากการเติบโตของอุตสาหกรรมในคาซัคสถาน โดยเฉพาะจากการผลักดันโครงการพัฒนาใหม่กว่า 180 โครงการในปี 2024 ได้เปิดพื้นที่ใหม่สำหรับการลงทุนของภาคเอกชนอินเดีย โดยเฉพาะในสาขาที่มีศักยภาพสูงอย่างพลังงานทดแทน เทคโนโลยีดิจิทัล และระบบโลจิสติกส์ ซึ่งล้วนเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนและสอดรับกับแนวโน้มโลกในศตวรรษที่ 21
ขณะเดียวกัน โครงการทางเดินขนส่งระหว่างประเทศเหนือ–ใต้ (International North–South Transport Corridor: INSTC) ซึ่งเชื่อมโยงอินเดียเข้ากับภูมิภาคเอเชียกลางผ่านเครือข่ายท่าเรือของอิหร่าน กำลังก่อรูปขึ้นเป็นโครงข่ายยุทธศาสตร์หลักในการขับเคลื่อนการค้าระหว่างภูมิภาคอย่างมีประสิทธิภาพ ความคืบหน้าในโครงการดังกล่าวไม่เพียงช่วยลดต้นทุนด้านการขนส่งเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศ และส่งเสริมให้คาซัคสถานกลายเป็นศูนย์กลางการค้าทางบกระดับภูมิภาคอย่างมีนัยสำคัญ
ความร่วมมือในมิตินี้จึงไม่ใช่เพียงการเชื่อมต่อทางกายภาพ หากแต่เป็นการลงทุนร่วมในโครงสร้างพื้นฐานที่สะท้อนเป้าหมายระยะยาวในการวางรากฐานเศรษฐกิจที่มีความยั่งยืน เชื่อมโยง และสามารถรองรับความท้าทายของโลกาภิวัตน์ในบริบทยูเรเซียได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในด้านพลังงาน คาซัคสถานมีบทบาทสำคัญในฐานะประเทศผู้จัดหาทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์ อาทิ น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และยูเรเนียม ให้แก่อินเดีย ซึ่งเป็นผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่อันดับสามของโลก ความสัมพันธ์ในมิตินี้สะท้อนถึงการพึ่งพาอาศัยกันอย่างมีเสถียรภาพในระยะยาว โดยคาซัคสถานสามารถขยายตลาดส่งออกพลังงานของตน ขณะเดียวกันอินเดียก็สามารถกระจายแหล่งพลังงานเพื่อความมั่นคงของระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ
นอกจากนี้ ความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศยังขยายตัวไปสู่ภาคส่วนที่มีศักยภาพสูงในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีอวกาศ ดิจิทัล และนวัตกรรม ซึ่งได้รับการส่งเสริมผ่านนโยบายการลงทุนและการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลที่สอดคล้องกัน ความสอดประสานในเชิงนโยบายเช่นนี้ไม่เพียงสร้างพื้นที่ความร่วมมือใหม่ แต่ยังปูทางสู่การยกระดับศักยภาพทางเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมของทั้งสองประเทศในระยะยาว
แม้ความสัมพันธ์ระหว่างอินเดียกับคาซัคสถานจะมีพัฒนาการที่ก้าวหน้าในหลายมิติ แต่อุปสรรคเชิงโครงสร้างภายในยังคงเป็นประเด็นท้าทายที่ไม่อาจมองข้าม โดยเฉพาะระบบศุลกากรที่มีความซับซ้อนและโครงสร้างโลจิสติกส์ที่ยังขาดความบูรณาการภายในของอินเดีย ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ลดทอนประสิทธิภาพของการค้าและการเคลื่อนย้ายสินค้าระหว่างประเทศ
ขณะเดียวกัน ความไม่แน่นอนจากสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ระดับโลก เช่น ความขัดแย้งระหว่างรัฐและวิกฤตในภูมิภาคต่าง ๆ ก็มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อเสถียรภาพของเส้นทางการค้าในเอเชียกลางและเอเชียใต้
อย่างไรก็ดี การสร้างกลไกความร่วมมือที่มีลักษณะเชิงสถาบัน พร้อมด้วยความสามารถในการปรับตัวต่อบริบทที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างยืดหยุ่น ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงและความยั่งยืนให้กับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในระยะยาว
ถือได้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างอินเดียกับคาซัคสถานในบริบทของยุคแห่งการเชื่อมโยงกำลังพัฒนาไปในทิศทางที่สะท้อนศักยภาพเชิงยุทธศาสตร์อย่างชัดเจน ทั้งสองประเทศมีแนวโน้มจะก้าวขึ้นเป็นกลไกศูนย์กลางสำคัญของภูมิภาค ในการเชื่อมต่อระหว่างเอเชียใต้กับเอเชียกลาง ผ่านความร่วมมือที่ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง และความมั่นคง
การพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมและการเสริมสร้างบทบาทในระดับภูมิภาคนี้ ไม่เพียงช่วยยกระดับสถานะของทั้งสองประเทศในเวทีระหว่างประเทศ แต่ยังส่งเสริมการจัดวางโครงสร้างภูมิภาคยูเรเซียให้มีเสถียรภาพ เชื่อมโยง และมีความยืดหยุ่นต่อความเปลี่ยนแปลงในระยะยาว
ข่าวรอบโลก
ธุรกิจ
การลงทุน
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย