8 มิ.ย. เวลา 07:42 • หุ้น & เศรษฐกิจ

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส เปิดโผ 5 ธีมหุ้นเด่น กำไรสุทธิปี 68 พุ่ง

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส เปิดลิสต์ธีมลงทุนหุ้นต้อนรับเดือนมิ.ย.68 ชูจุดแข็ง พื้นฐานแกร่ง-ปันผลจูงใจ-กำไรปี 68 โตแรง ADVANC-CPALL-KTB-PR9-STECON ติดโผ
ธีมดิจิตอล : ADVANC
โดยกำไรสุทธิ ไตรมาส 1/68โตแกร่ง 25% เทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน 14% จากไตรมาสก่อน หนุนโดยรายได้ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ และ FBB ที่เพิ่มขึ้น, ARPU สูงขึ้น จากการแข่งขันในธุรกิจที่ผ่อนคลายลง EBITDA เติบโต 7.4% เทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน 3.8% จากไตรมาสก่อน
ทั้งนี้ แนวโน้ม 2568 ยังมีการเติบโตดีเมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน หนุนโดยรายได้ที่เติบโต และการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้มีประสิทธิภาพ การแข่งขันในธุรกิจลดลงหลังมีการควบรวมกิจการ และมี Economy of scale
คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2568 - 2569 ขยายตัว 7% และ 11% ตามลำดับ หนุนโดยธุรกิจสมาร์ทโฟนและ FBB ส่วนการเติบโตระยะยาว จะมาจากธุรกิจบริการคลาวด์ และดาต้าเซ็นเตอร์ คงคำแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐานไว้ที่ 315 บาท (DCF) บริษัทมี SET ESG ratings : AA, CG report : 5 ดาว
ธีมท่องเที่ยว : CPALL
โดยยอดายต่อสาขาเดิม (SSSG) ของธุรกิจร้านสะดวกซื้อเป็นบวก 3% ในไตรมาส 1/2568 และคาดว่าจะเป็นบวกต่อในไตรมาส 2/2568 ซึ่งดีกว่าบริษัทในกลุ่มค้าปลีกส่วนใหญ่ที่ SSSG ติดลบ ได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย และท่องเที่ยวในประเทศ "เที่ยวไทยคนละครึ่ง" ที่จะออกมาในเดือนมิ.ย.นี้
คาดการณ์กำไรปกติปี 2568 ขยายตัว 14% โดยคาด SSSG ของธุรกิจ CVS เติบโต 3% เทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน และขยายสาขาเพิ่มต่อเนื่อง ส่วน CPAXT คาดรายได้เติบโต 4.5% เทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน และ GPM เพิ่ม 25bps
บริษัทมีโครงการซื้อหุ้นคืน วงเงินไม่เกิน 7.5 พันล้านบาท ไม่เกิน 150 ล้านหุ้น (หรือไม่เกิน 1.67% ของจำนวนหุ้นเรียกชำระแล้ว) ระยะเวลาซื้อคืน 16 พ.ค.-14 พ.ย. 2568 ณ ราคาปัจจุบันมี P/E ต่ำ ที่ Mean-1.5SD แนะซื้อลงทุน โดยให้ราคาพื้นฐาน 69 บาท (DCF) บริษัทมี SET ESG Ratings : AAA และ CG Report:5 ดาว
ธีม Valuation จูงใจ ปันผลสูง : KTB
ธนาคารมีฐานลูกค้ารายย่อยแข็งแกร่ง และมีความเสี่ยงต่ำกว่าธนาคารพาณิชย์ใหญ่รายอื่น เนื่องจากลูกค้ารายย่อยที่เป็นข้าราชการและพนักงานรัฐสาหกิจผูกบัญชีเงินเดือนไว้กับธนาคาร สินเชื่อเกี่ยวกับโครงการภาครัฐยังไปได้ดี ตามโครงการลงทุนภาครัฐที่เดินหน้าต่อเนื่องตามการเบิกจ่ายงบประมาณ
อีกทั้งยังบริหารจัดการ NPL ได้ดี โดย NPL ratio สิ้นไตรมาส 1/2568 อยู่ที่ 2.97% ต่ำกว่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 3.17% และมี Coverage ratio สูงที่ 188% ในสิ้น ไตรมาส 1/2568 (เฉลี่ยของกลุ่มอยู่ที่ 175%) เงินกองทุนแข็งแกร่ง สิ้นไตรมาส 1/2568 มี CAR 21.1% โดยเป็น Teir 1 ratio 19.1% เทียบกับขั้นต่ำที่ธปท.กำหนดที่ 12% และ 9.5% ตามลำดับ
นอกจากนี้ Valuation ไม่แพง และจ่ายปันผลสูง โดยหุ้นมี P/BV ต่ำที่ 0.7 เท่า และคาดการณ์ DY ปี 2568 ไว้ที่ 7% (จ่ายปีละ 1 ครั้ง) แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 25.50 บาท ธนาคารมี SET ESG ratings : AAA, CG report : 5 ดาว
ธีมธุรกิจ Defensive : PR9
ธุรกิจ Defensive เนื่องจากเกี่ยวกับสุขภาพ ซึ่งมีความจำเป็นในการรักษาพยาบาลเมื่อมีการเจ็บป่วย PR9 คงอัตราค่ารักษาไว้ในระดับต่ำกว่าร.พ.พรีเมียมราว 20-30% ในแง่ของรายได้คนไข้ตะวันออกกลางปี 2568 เติบโตจากฐานต่ำในครึ่งปีแรก 2567
ทั้งนี้ ร.พ.ทำการตลาดและมีคนไข้ภูมิภาคเข้ามาเพิ่มตั้งแต่ไตรมาส 3/67 ทางฝ่ายคาดการณ์กำไรหลักปี 2568 เติบโต +13% เป็น 803 ล้านบาท จากการขยายเตียงผู้ป่วย รายได้คนไข้ต่างชาติเพิ่มขึ้น มาร์จิ้นดีขึ้น จากรายได้ศูนย์รักษาเฉพาะทางและสัดส่วนคนไข้ต่างชาติสูงขึ้น ประสิทธิภาพดีขึ้น
ตลอดจนการลดต้นทุนฐานะการเงินแข็งแกร่ง เป็นเงินสดสุทธิ โดยแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 30 บาท (DCF)ร.พ.ไม่มี SET ESG Ratings, มี CG Report : 5 ดาว
ธีมกำไรปี 68 ฟื้นตัว : STECON
บริษัทมี Backlog สูง ทำให้การรับรู้รายได้มีความมั่นคงไปใน 3 ปีข้างหน้า โดยสิ้นมี.ค.2568 มีมูลค่างานในมือที่ 1.25 แสนล้านบาท อีกทั้งปี 2568 จะรับรู้ผลขาดทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง-ชมพู (ที่ถือ 15%) ลดลงเป็น 210 ล้านบาท (จาก 500-600 ล้านบาทต่อปีในช่วงก่อนหน้า)
และรับรู้เป็นศูนย์ในปี 2569 เนื่องจากเปลี่ยนวิธีบันทึกบัญชี นอกเหนือจากนี้ ยังมีการทำโครงการซื้อหุ้นคืน ระยะเวลาซื้อคืน 18 มี.ค.-17 ก.ย.68 โดยคาดปี 2568 พลิกเป็นกำไรสุทธิจากรายได้เติบโต มาร์จิ้นดีขึ้น ขาดทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง-ชมพูลดล และคาดว่าจะมีรายได้เคลมประกันซ่อมอุโมงค์หนองบอนด้วย
แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 9.30 บาท อิง P/BV ปีนี้ที่ 0.7เท่า บริษัทมี SET ESG Ratings : AA และ CG Report : 5 ดาว
โฆษณา