8 มิ.ย. เวลา 23:26 • ความคิดเห็น
คำถามอ่านดูเหมือนจะง่าย แต่คำตอบมันเป็นไปได้ทั้ง 2 อย่างเลยครับ ถ้าหากเราคิดดีๆแล้วนะ ผมลองคิดไปทั้ง 2 ทาง แล้วมันก็เป็นไปได้ในตรรกะของมันครับ
ไม่รู้ว่าคุณจะเข้าใจความคิดเห็นของผมไหม คือมันประมาณว่า
คิดยังไงไม่รู้ แต่ถ้าอยากรู้ก็ต้องคิด
เราคิดเพื่อที่จะหยุดคิด
เราเรียนรู้ทุกสิ่ง
แต่ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ทุกอย่างเสมอไป
เพื่อที่สักวันเราจะไม่จำเป็นต้องรู้อีกแล้ว
1
อ่านแล้วอาจจะดูงงๆหน่อยนะครับ มันเป็นการพิจารณาโยนิโสมนสิการครับ
จำพุทธประวัติของเจ้าชายสิทธัตถะในวัยเด็กได้ไหมครับที่นั่งสมาธิในวันทำพิธีแรกนาขวัญ คือในครั้งนั้นเจ้าชายสิทธัตถะ ได้ประทับนั่งขัดสมาธิอยู่ใต้ต้นชมพูพฤกษ์ หรือต้นหว้า อยู่ลำพังพระองค์เดียว เพราะมหาดเล็กพี่เลี้ยงไปชมพระราชพิธีแรกนากันหมด เจ้าชายสิทธัตถะได้สมาธิถึงขั้นแรก “ปฐมฌาน” มีความสงบอย่างยิ่ง แต่ตอนนั้นแม้จะมีความสงบสักแค่ไหนเจ้าชายสิทธัตถะยังไม่เข้าใจครับ มันก็เปรียบเหมือนความสงบที่ยังไม่รู้อะไรเป็นอะไร จนกว่าจะเรียนรู้กระบวนการคิดฝึกฝนทุกสิ่งเพื่อที่จะไม่ต้องรู้อะไรอีกแล้ว และเป็นสัพพัญญู
1
หากเราเปรียบกับพระสาวกที่เป็นพระอรหันต์ ถามว่าท่านรู้ทุกสิ่งเหมือนกับพระพุทธเจ้าไหม คำตอบคือไม่
หมายความว่าเราไม่จำเป็นต้องรู้ทุกสิ่งเสมอไป แต่ก็จำเป็นต้องรู้บางสิ่ง มันเป็นความแยบยลครับเหมือนกับว่าไม่มีอะไรใหม่ที่จะต้องแสวงหาอีกแล้ว เพราะใจมันหยุดแล้ว มันไม่มีตัณหาที่จะแสวงหาอีกแล้ว หยุดแล้วพอแล้ว สงบแล้ว
ความคิดเห็นผมอาจจะดูงงๆ คุณพอจะเข้าใจผมไหมครับ
1
โฆษณา