9 มิ.ย. เวลา 07:10 • ความคิดเห็น
1. เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา มีเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชาในพื้นที่พิพาทที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดนชัดเจน การปะทะครั้งนี้เริ่มจาก "ทหารกัมพูชาขุดคูยาว 650 เมตร เพื่อตั้งจุดตรึงกำลัง" ซึ่งไทยมองว่า "ละเมิดข้อตกลง MOU'43" แต่การเจรจาสามารถยุติเหตุการณ์ได้ใน 10 นาทีโดยไม่มีผู้บาดเจ็บ เรื่องมันควรจะจบแค่นี้
2. แต่สื่อไทยตีข่าวต่อไปอีกว่า แม้กระนั้นเหตุการณ์นี้ก็ยังคงสะท้อนว่า ช่องบกยังคงเป็นจุดเปราะบางที่พร้อมปะทุได้ทุกเมื่อ ที่สำคัญที่สุดคือ ช่องบกเคยเป็นสมรภูมิรบระหว่างทหารไทยและทหารเวียดนาม ที่เข้าไปยึดครองกัมพูชา ชัยชนะเป็นของไทย แต่แลกมาด้วยศพทหารไทย 109 นาย ทหารกัมพูชาจะยังไม่หยุดแค่นี้หรือไม่
3. จากนั้น อินฟลูและชาวเน็ต ทั้งฝั่งไทยและกัมพูชา พร้อมใจกันเรียกยอดวิวยอดไลก์ทุกช่องทางสื่อโซเชียลมีเดีย กระแหนะกระแหนกันไปมา ผ่านการเหยียดหรือ "bullying" ด้วยความตลกขบขัน และการสร้างสรรค์ IO ตลอดจนการสร้างวาทะกรรมของฝ่ายการเมืองต่างๆ ที่ประสงค์แสวงผลผ่านสถานการณ์ "ได้ทีขี่แพะไล่" บนความอ่อนด้อยประสบการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ และการตอบคำถามสื่อ ของนายกฯไทยวัย 38 ปี
หากไทยและกัมพูชาทำสงครามปะทะกันจริงจัง
ใคร หรือประเทศใดกัน ที่จะได้ประโยชน์สูงสุด?
ใคร ที่จะได้รับผลพลอยได้จากสงคราม?
..........................
ที่รู้แน่ๆ คือสงครามครั้งนี้
จะไม่ใช่แค่เรื่องระหว่างสองประเทศ
โฆษณา