การเปลี่ยนแปลงจากการโจมตีแบบแมนนวลไปสู่การโจมตีที่ทำงานเองและปรับตัวได้อย่างอัตโนมัตินี้ แสดงให้เห็นถึงความเร่งด่วนที่องค์กรต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ใช้ AI ขั้นสูงเพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
สัญญาณเตือนที่ไม่ควรเมินเฉย
ในสภาพการณ์ปัจจุบัน มีสัญญาณเตือนหลายประการที่องค์กรควรให้ความสำคัญ เพราะ AI สามารถสร้างตัวตนปลอมทั้งภาพและโปรไฟล์เพื่อเข้ามาทำ Social Engineering แบบแนบเนียน พร้อมแพลตฟอร์ม AI สำหรับโจมตีมีการพัฒนาให้ใช้งานง่ายขึ้น ความเร็วและความชาญฉลาดของ AI ทำให้การโจมตีเกิดขึ้นและสำเร็จได้ในเวลาไม่กี่วินาที
ความจริงที่เราต้องยอมรับคือ เราไม่สามารถหยุดยั้งการพัฒนา AI ได้ แต่เราสามารถเลือกว่าจะอยู่ฝั่งไหนของสงครามทางไซเบอร์ เพราะในโลกที่ AI คือทั้งดาบและโล่ การไม่พร้อมเท่ากับการยืนตัวเปล่าท่ามกลางสมรภูมิ
ดังนั้น องค์กรที่ยังใช้ระบบความปลอดภัยแบบเดิมไม่ใช่แค่ "ตามไม่ทัน" แต่กำลัง "เดินไปเปิดประตูให้ผู้โจมตีเข้ามาเอง" การลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยที่ใช้ AI จึงไม่ใช่ตัวเลือก แต่เป็นความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับการอยู่รอดในยุคดิจิทัล
สงครามไซเบอร์ในยุค AI ได้เริ่มขึ้นแล้ว คำถามคือ องค์กรของคุณพร้อมรับมือหรือยัง