Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หนูนิ
•
ติดตาม
9 มิ.ย. เวลา 13:13 • นิยาย เรื่องสั้น
รักย้อนอดีตภาค 5 ภัยร้ายจากดาวหางฮัลเลย์
.
บทที่ 39 การแสดงสัญญาณ
.
หลังอาหารเย็นและพักผ่อน ในที่สุดหลังอาทิตย์ตกราว2ชั่วโมงทวาลาก็ส่งคนมาเชิญให้ไปร่วมพิธีการเต้นรำของหญิงสาว ซึ่งงานฉลองกำลังจะเริ่ม
.
พื้นที่ว่างอันกว้างขวางหน้าหมู่บ้านของทวาลามีสภาพแตกต่างจากเมื่อเย็นวานนี้ ในพื้นที่อันน่าเกรงขามของหมู่นักรบกลับเป็นกลุ่มเรียงรายกันไปของหญิงสาวชาวอีกัวน่า
.
ไม่ได้สวมเครื่องแต่งกายอะไรมากจนเกินไป แด่ทุกคนสวมมาลัยดอกไม้บนศีรษะ มือข้างหนึ่งถือใบปาล์ม และถือดอกลิลลี่สีขาวด้วยมืออีกข้าง
.
ตรงกลางของที่ว่างกลางแสงจันทร์นั่งอยู่ด้วยทวาลาโดยมีแม่มดกาก้านั่งแทบเท้า พรั่งพร้อมด้วยอินฟาดูสและทหารคุ้มกันอีก12คน มีหัวหน้าทหารอยู่ด้วยหลายคน พวกเขาก็คือสหายที่พบหน้าเมื่อคืน
.
แม้ทวาลาจะต้อนรับอย่างจริงใจแต่ดวงตาของเขาก็จับจ้องอัมโบโปอย่างประสงค์ร้าย "ยินดีต้อนรับท่านผู้วิเศษ" เขากล่าว "นี่เป็นงานพิธีต่างไปจากที่ท่านได้เห็น
จากแสงจันทร์เมื่อคืนนี้
ท่านต้องการภรรยาจากคนของเราบ้างไหม เลือกได้เลยคนที่สวยที่สุดและมากเท่าที่ท่านต้องการ"
.
แล้วเขาก็หยุดรอคำตอบ ซึ่งลุงเป็นผู้ตอบคำถามนี้ "ขอขอบคุณท่าน ราชัน เรามีครอบครัวแล้ว ประเพณีของเรายึดถือผ้วเดียว-เมียเดียว
แต่หากต้องการมีมากกว่า 1 คนต้องให้ภรรยาคนที่ 1 อนุญาตก่อน" (ลุงแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆทั้งที่ไม่เคยมีคู่กับใครเขา)
.
ทวาลาอ้าปากหวอ "ท่านเสียโอกาสของความเป็นชายไปอย่างน่าเสียดาย การมีภรรยามากทำให้มีลูกมาก ไม่ต้องง้อแรงงานต่างด้าว ไม่ต้องให้สวัสดิการใดๆ
เพียงแต่เวลาที่เราจะลงโทษลูกที่ทำความผิด เราจำไมได้ดอกว่ามันชื่ออะไร และเกิดจากเมียคนไหน"
.
เสียงหัวเราะดังขึ้นเบาๆจากผู้มาเยือนแล้วลุงถามยิ้มๆ "จริงหรือไม่ที่ท่านมึภรรยาตั้ง 1 พันคน แล้วท่านจำชื่อจำหน้าแต่ละคนได้อย่างไร"
.
ทวาลา "บอกท่านตามตรง เราจำไม่ได้ดอก เป็นหน้าที่ของมเหสีเอกที่ต้องเป็นผู้จัดคิว ที่เราให้เป็นเอกเพราะนี่คือหน้าที่ของมเหสีเอกนั่นเอง เอาละ ตอนนี้เริ่มพิธีได้"
.
ในทันใดหญิงสาวสวมมาลัยดอกไม้เคลื่อนไปข้างหน้าพร้อมกันทั้งหมู่ ร้องเพลงหวานไพเราะพร้อมทั้งโบกใบปาล์มบอบบางและดอกลิลลี่ พวกเธอเต้นรำไปดูมี
มนต์ขลังท่ามกลางแสงกระจ่างของดวงจันทร์
.
บางครั้งทำท่าเหมือนต่อสู้กันทำให้เกิดความสับสนสนุกสนานกับผู้ชม ในที่สุดพวกเธอก็หยุดนิ่งสาวน้อยสวยงามนางหนึ่งโผล่ออกมาจากแถว เต้นหมุนต้วอยู่ตรงหน้าแขกผู้มาเยือน อ่อนช้อยนิ่มนวลจนทำให้สาวนักเต้นอื่นต้องได้อาย
.
เมื่อเธอเต้นจนเหนื่อยสาวงามอื่นจึงเข้ามาเต้นแทน และเข้ามาเต้นแทนต่อกันไปเรื่อยๆ แต่ไม่มีสักคนที่เต้นได้สวยงามและหน้าตาสวยตรึงใจเท่าคนแรก
.
เมื่อสาวงามที่คัดเลือกต้วไว้เต้นหมดทุกคนแล้ว ทวาลาจึงหันมาถามลุง "ท่านว่าคนไหนสวยที่สุด"
.
"คนแรก" ลุงตอบโดยไม่ทันคิด แล้วก็รู้สึกสำนึกเสียใจที่นึกขึ้นได้ว่าผู้หญิงที่สวยที่สุดจะถูกนำไปสังเวย ทวาลาแสยะยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม "ใจข้าตรงกับท่าน หล่อนสวยที่สุด และต้องเสียใจกับหล่อนด้วย เพราะหล่อนต้องตาย"
.
"ใช่ ต้องตาย" หวีดเสียงแหลมจากกาก้า พร้อมกับเหลือบดวงตาอันชั่วร้ายไปยังสาวน้อยที่น่าสงสารผู้ซึ่งไม่รู้ชะตากรรมที่เลวร้ายของตัวเองเลย
.
ลุง "เธอเต้นได้ดีมากทั้งให้ความบันเทิงกับผู้ดู ทำไมจึงได้รับการตอบแทนด้วยความตายเล่าราชัน"
.
ทวาลาหัวเราะ "มันเป็นประเพณีของเรา และร่างที่นั่งแข็งอยู่ที่โน่น" เขาชี้มือไปที่ภูเขา3แม่มด "ต้องได้รับเครื่องสังเวย เพราะมีคำทำนายว่า
ถ้าราชันไม่สังเวยด้วยสาวงามที่สุดในพิธีเต้นแด่ท่านผู้เฒ่าที่จ้องมองมา เขาจะถึงแก่กาลวินาศพร้อมครอบครัว
.
พี่ชายของข้าไม่ยอมเซ่นสังเวยเพราะใจอ่อนกับน้ำตาของหญิง แล้วเขาก็พินาศไปทั้งครอบครัว ข้าจึงขึ้นครองราชย์แทน แต่เรื่องนี้มันจบไปแล้ว และเธอแม่สาวงามที่สุดของคืนนี้ต้องตาย"
.
แล้วทวาลาก็หันไปทางทหารยาม "ไปเอาตัวเธอมาที่นี่ และเตรียมหอกคมกริบให้ข้าด้วย" ชาย2คนก้าวออกไปข้างหน้า ในขณะที่หญิงสาวเพิ่งรู้ถึงชะตากรรมของตัวเองจึงหวีดร้องและวิ่งหนี
.
แต่แขนอันแข็งแกร่งคว้าตัวเธอไว้แล้วลากมาโยนตรงหน้าทวาลา ซึ่งถามอย่างอ่อนโยนทั้งที่มือของมันเตรียมพุ่งหอก "เจ้าชื่ออะไรหรือสาวน้อย พูดมาไม่ต้อง
กลัว"
.
"ฟูลาต้าเจ้าค่ะองค์ราชัน นี่ข้าทำอะไรผิดหรือคะ"
.
"ทำตัวตามสบาย" นางเฒ่ากล่าวด้วยเสียงเย้ยหยัน "เจ้าไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแค่สวยเกินไปจึงต้องเป็นเครื่องเซ่นสังเวยแด่ผู้เฒ่าซึ่งนั่งมองอยู่ที่ภูเขาโน่น
.
การได้นอนหลับไปตลอดกาลไม่ต้องตื่นขึ้นมาทำงานในตอนกลางวันน่ะโชคดีแค่ไหน แล้วเจ้ายังได้ตายด้วยน้ำมือของผู้เป็นราชันซึ่งถือเป็นเกียรติสูงสุด"
.
ฟูลาต้า "ข้าไม่ต้องการเกียรติสูงสุดแบบนี้เจ้าค่ะ ข้าอายุยังน้อยและต้องการมีชีวิตอยู่ต่อไป ข้าต้องการมีคนรักที่มองจ้องตากัน และให้กำเนิดลูกน้อยหลายคนแก่เขา ข้าอยากเห็นลูกโต เป็นความสุขที่หญิงคนหนึ่งพึงมี"
.
ประหลาดแท้ที่คำอ้อนวอนของหญิงสาวไม่สามารถสร้างความเห็นใจให้คนที่อำมหิตได้ ในขณะที่คนอื่นๆแม้แต่ทหารคุ้มกันของทวาลาต่างสงสารในตัวของสาวน้อยผู้โชคร้าย
.
ลุงก้าวออกไปยืนเบื้องหน้าของเธอทันที "ทวาลาเมื่อคืนนี้ท่านรับปากที่จะให้ของขวัญแก่เรา 1 ชิ้น บัดนี้เราได้เลือกเธอผู้นี้เป็นของขวัญ ท่านจะว่าอย่างไร"
.
ทวาลาลุกขึ้นจากที่นั่งอย่างโกรธจัดและน่ากลัว "จะทำอย่างนี้ไม่ได้เจ้าพวกสุนัข มาเห่าราชสีห์ถึงในถ้ำ ปกป้องตัวเองให้ได้ก่อนเถอะ ค่อยคิดปกป้องคนอื่น ทหารจับพวกมันไว้"
.
สิ้นเสียงทหารพร้อมอาวุธวิ่งออกมาอย่างรวดเร็วจากข้างหลังกระท่อม พัน แสนสุริยา และ อัมโบโปต่างมายืนกับลุงพร้อมด้วยอาวุธในมือเตรียมพร้อมเต็มที่
.
"หยุด" ลุงตวาดอย่างกล้าหาญทั้งที่หัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม "ถ้าพวกเจ้าเข้ามาใกล้อีกเพียงก้าวเดียว ข้าจะดับดวงจันทร์เสีย แล้วปล่อยให้ผืนแผ่นดินตกอยู่ในความมืด จะลองดูมนต์วิเศษของเราไหมล่ะ"
.
คำขู่ของลุงได้ผล ทหารต่างหยุดนิ่งแม่แต่ทวาลาเอง คงมีแต่เสียงที่หวีดแหลมจากกาก้า "ไอ้คนโกหก มันบอกว่าจะดับแสงจันทร์ให้เหมือนดับตะเกียง ให้มันทำ ถ้าทำได้จะปล่อยผู้หญิง หรือทำไม่ได้ก็ตายพร้อมผู้หญิงและพวกมันทั้งหมด"
.
ตลอดเวลาลุงเหลือบตามองดวงจันทร์ด้วยความสิ้นหวัง ไม่มีครั้งใดเลยที่จันทราจะแจ่มกระจ่างเหมือนคืนนี้
ลุงเหลือบตาขึ้นมองดวงจันทร์อีกครั้งทั้งนึกแช่งด่าปฏิทินร้อยปีที่ดันมาพลาดเอาตอนนี้
.
แล้วลุงก็ยิ้มอย่างโล่งใจ ปฏิทินร้อยปีไม่พลาดจริงๆเพราะขณะนี้บริเวณขอบวงกลมใหญ่มีเงาวงกลมจางๆทาบอยู่ ขณะเดียวกันก็ปรากฎสีเทาเหมือนควันรวมตัวกันอยู่บนผิวหน้าอันกระจ่างของจันทรา
.
ลุงยกมือขึ้นอย่างขึงขังไปยังท้องฟ้าอีก3คนจึงรีบทำตาม แล้วลุงก็ท่องบทสวดมนต์บูชาพระพุทธ-พระธรรม-พระสงฆ์ในทำนองเสนาะเสียงเยือกเย็น
.
เงาสลัวเกิดขึ้นช้าๆ เงาดำคืบคลานไปบนผิวอันกระจ่างของดวงจันทร์ แล้วเสียงอุทานอย่างตกใจกลัวก็มาจากฝูงชนที่รายรอบ ลุงชี้ไปที่ดวงจันทร์แล้วร้องขึ้น
.
"จงดูราชัน จงดูกาก้า จงดูบรรดาหัวหน้าและผู้หญิง ดูว่าพวกเราที่เป็นผู้วิเศษทำได้ตามคำพูดหรือไม่ หรือเป็นคนโกหกหลอกลวงตามที่กาก้าใส่ความ"
.
เสียงครางอย่างหวาดกลัวมาจากฝูงชนที่เฝ้ามอง ลุงจึงแอ็คชั่นต่อด้วยท่าทีที่เหมือนกำลังพากษ์หนังกลางแปลง "ดวงจันทร์ดับมืดลงต่อสายตาของเจ้าแล้ว ในไม่ช้ามันจะมืดสนิทจนเหมือนหายไป โอจันทราจงมืดลง"
.
"มันจะผ่านไป" กาก้าหวีดเสียงแหลม "ข้าเคยเห็นแบบนี้มาก่อนแล้ว ไม่มีใครดับแสงจันทร์ได้ อย่าเสียขวัญนั่งนิ่งๆ ประเดี๋ยวเงาดำจะผ่านไป"
.
ลุงได้ยินดังนั้นจึงแอ็คชั่นต่อด้วยท่าทีที่เหมือนกำลังเป็นผู้ควบคุมวงดนตรีที่เรียกว่า "วาทยกร" ทั้งร้องทั้งทำท่าประกอบในเพลงเงาไม้โดยพันและแสนสุริยาต่างร่วมร้องด้วย
.
"แสงจันทร์วันนี้นวลใคร่ชวนให้น้องเที่ยว จะให้เหลียวไปแห่งไหน ชลใสดูในน้ำเงาดำนั้นเงาใด อ๋อไม้ริมฝั่งชล สวยแจ่ม(ฮัม)แสงเดือน(ฮัม) หมู่ปลาเกลื่อนดูเป็นทิว หันลม(ฮัม) ลมริ้ว(ฮัม) จอดเรืออาศัยเงาไม้....ฝั่งชล"
.
เพลงไพเราะจนฝูงชนต่างพากันเงียบกริบ และถอนใจเฮือกด้วยความเสียดายเมื่อเพลงจบลง ในระหว่างนั้นเงาดำยังคงคืบต่อไป ไป ไปเรื่อยๆจนมองไม่เห็นหน้าคน
ที่อยู่ใกล้ๆ
.
ไม่มีศัพท์สำเนียงใดจากฝูงชนแล้วทวาลาก็ตะโกนขึ้น "พระจันทร์กำลังจะตาย พวกผู้วิเศษสังหารพระจันทร์แล้ว"
เท่านั้นแหละกลุ่มพวกผู้หญิงแตกกระจายไปด้วยความชุลมุล วิ่งร้องกรี๊ดกลับไปบ้านใครบ้านม้น
.
แม้แต่ทวาลาและทหารคุ้มกัน หรือ นางแม่มดเฒ่ากาก้าก็โกยแน่บหนีหายเข้าไปในกระท่อม เอ๊ะ...กาก้าไม่ต้องคลานแล้วหรือ? นี่แสดงว่าที่ผ่านมามันเสแสร้งเพื่อความขลังกระนั้นหรือ
.
แล้ว...ก็เหลือไว้เพียงคณะของผู้วิเศษ อินฟาดูส นายทหารทั้งหมดที่สนทนากันเมื่อคืนและสาวน้อยฟูลาต้า
ลุงหันไปกล่าวกับหัวหน้าทหาร "เราได้แสดงสัญญาณให้ท่านเห็นแล้ว มนต์วิเศษจะยังไม่หยุดในตอนนี้ จะแสดงอิทธิฤทธิ์ไปอีกชั่วโมงครึ่ง"
.
อินฟาดูส "มาเถอะ พวกเราก็ถือโอกาสไปเสียตอนนี้เลย"
.
แล้วทั้งหมดต่างต่างจับมือกันไว้เดินสะเปะสะปะไปในความมืด โดยลุงช่วยประคองสาวน้อยฟูลาต้าที่ยังคงตัวสั่นขวัญหาย ด้วยความเมตตาต่อชะตากรรมของเธอ
.
จบบทที่ 39
ภาพปกจากSwissasap.com
คืนวันที่ 10 มิ.ย. นี้ ใครอยู่สวิตเซอร์แลนด์ เตรียมตัว observe Strawberry Moon พร้อมวิวสวย ๆ ของเทือกเขาแอลป์หรือหมู่บ้านกลางหุบเขาได้เลย
.
เวลาประมาณ 21:00 น.(เวลาท้องถิ่นสวิตเซอร์แลนด์) พระจันทร์เต็มดวงจะโผล่ขึ้นจากขอบฟ้าซึ่งในปีนี้พิเศษมากเพราะStrawberry Moon ปี 2025 เป็นพระจันทร์เต็มดวงที่ต่ำที่สุดในรอบ 18.6 ปี
.
ทำให้เรามองเห็นพระจันทร์ดวงโตติดขอบฟ้า และอาจเห็นเป็นสีส้มทองหรืออมชมพูอ่อน ๆ เพราะแสงกระเจิงจากชั้นบรรยากาศ
พระจันทร์จะอยู่ใกล้กับดาวAntares (ดาวแดงในกลุ่มดาวแมงป่อง)ด้วย Creditภาพ: Michael Engel Flickr
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย