19 ส.ค. เวลา 03:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

The Most Important Thing โดย Howard Marks

​หากพูดถึงเรื่อง ความเสี่ยง และ ความผันผวนในการลงทุน หนึ่งในนักคิดที่อธิบายได้อย่างลึกซึ้งและเข้าใจง่ายที่สุดคือ Howard Marks นักลงทุนระดับตำนานและผู้ร่วมก่อตั้ง Oaktree Capital Management เขาได้ถ่ายทอดมุมมองที่สั่งสมมาจากประสบการณ์จริงไว้ในหนังสือ The Most Important Thing ซึ่งเน้นย้ำว่า ความสำเร็จในการลงทุนไม่ได้เกิดจากการ “ตามหาผลตอบแทนสูงสุด” แต่เกิดจากการ คิดให้ลึกกว่าคนอื่น และ จัดการความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ
Howard Marks สอนเราว่า การสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืน ต้องมาจากการวิเคราะห์รอบด้าน การรู้จักควบคุมอารมณ์ และการมีวินัยในกระบวนการตัดสินใจ
  • ​คิดให้ลึก : Second-Level Thinking
การลงทุนไม่ได้จบแค่การคิดแบบผิวเผินหรือ First-Level Thinking เช่น “หุ้นดีต้องซื้อ” หรือ “เศรษฐกิจดี หุ้นต้องขึ้น” แต่ Second-Level Thinking คือการถามต่อไปอีกว่า
  • ​ราคาหุ้นวันนี้ สะท้อนข่าวดีหรือข่าวร้ายไปแล้วหรือยัง?
  • ​นักลงทุนส่วนใหญ่คิดเหมือนเรา หรือกำลังคิดตรงข้าม?
  • ​ถ้าคนส่วนใหญ่เห็นว่าหุ้นดี ราคานั้นอาจจะถูกดันขึ้นจนไม่เหลือความคุ้มค่าแล้ว
การคิดลึกในระดับที่สองทำให้นักลงทุนเข้าใจ “โอกาสจริง” มากกว่าภาพลวงตา และช่วยให้หลีกเลี่ยงการตัดสินใจตามฝูงชน ซึ่งมักจะนำไปสู่การซื้อแพงและขายถูก
  • ​เข้าใจและควบคุมความเสี่ยง
Marks ย้ำเสมอว่า “การป้องกันความสูญเสียสำคัญกว่าการวิ่งหากำไรสูงสุด” เพราะผลตอบแทนที่ยั่งยืนจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเราควบคุมความเสี่ยงได้ดี
นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ ไม่จำเป็นต้องทายตลาดได้ถูกเสมอ แต่คือคนที่สามารถจัดการพอร์ตให้ ไม่พังในวันที่ตลาดแย่ การรู้จักกระจายความเสี่ยง มีวินัยในการถือเงินสดเมื่อโอกาสไม่เหมาะสม และไม่ปล่อยให้ความโลภนำทาง คือหัวใจของการอยู่รอดในระยะยาว
1
  • ​อย่าไหลไปตามกระแสวัฏจักรตลาด
ตลาดการเงินเต็มไปด้วย วัฏจักร — ทั้งรอบเศรษฐกิจ รอบดอกเบี้ย และรอบอารมณ์นักลงทุน มีทั้งช่วงขึ้นและลงสลับกันตลอดเวลา
สิ่งที่สำคัญคือการประเมินว่า ตอนนี้เราอยู่ตรงจุดไหนของวัฏจักร
  • ​ถ้าตลาดกำลังร้อนแรง ทุกคนกำลังโลภ นั่นคือเวลาที่เราต้องระมัดระวัง
  • ​ถ้าตลาดซบเซา ทุกคนกำลังกลัว นั่นคือเวลาที่โอกาสอาจซ่อนอยู่
Howard Marks มักพูดถึงประโยคอมตะของ Warren Buffett ว่า “Be fearful when others are greedy, and be greedy when others are fearful” และชี้ว่า การเข้าใจวัฏจักรคือทักษะสำคัญของนักลงทุนที่อยู่รอด
  • ​การลงทุนแบบสวนกระแส ( Contrarian Investing)
โอกาสที่ดีที่สุดมักจะอยู่ในช่วงที่ ตลาดกำลังสิ้นหวัง หรือ ไม่มีใครสนใจ การลงทุนแบบสวนกระแสไม่ใช่การค้านกระแสทุกครั้ง แต่คือการมองต่างอย่างมีเหตุผล โดยมีข้อมูลและการวิเคราะห์รองรับ
เช่น ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ หุ้นจำนวนมากถูกขายทิ้งจนราคาต่ำกว่ามูลค่าแท้จริง นักลงทุนที่กล้ามองต่างและเลือกอย่างระมัดระวัง จะสามารถซื้อของดีในราคาถูกได้ ในขณะที่คนส่วนใหญ่ยังถูกความกลัวครอบงำ
  • ​ส่วนเผื่อแห่งความปลอดภัย ( Margin of Safety)
ไม่มีใครสามารถทำนายอนาคตได้แม่นยำเสมอ ดังนั้นการลงทุนทุกครั้งจึงควรเผื่อ “กันชน” เอาไว้
Howard Marks ย้ำว่า นักลงทุนควรซื้อหุ้นหรือสินทรัพย์ในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง เพื่อป้องกันความผิดพลาดจากการคาดการณ์ ตัวอย่างเช่น หากประเมินว่าหุ้นหนึ่งมีมูลค่าแท้จริง 100 บาท ควรซื้อเมื่อราคาอยู่ที่ 70–80 บาท เพื่อให้มี ส่วนเผื่อความปลอดภัย เผื่อว่าอนาคตไม่เป็นไปตามคาดการณ์
  • ​วินัย สำคัญกว่าความเก่ง
ความเก่งอาจพาให้เราชนะในบางครั้ง แต่สิ่งที่ทำให้เราชนะในระยะยาวคือ วินัย
นักลงทุนที่ดีต้อง:
  • ​ยึดมั่นในกระบวนการลงทุนที่พิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ผล
  • ​รู้จักรออย่างอดทน เมื่อยังไม่เจอโอกาสที่เหมาะสม
  • ​ไม่ปล่อยให้อารมณ์ของตลาดมาบงการการตัดสินใจ
การมีวินัยทำให้นักลงทุนไม่ไขว้เขว และสามารถผ่านช่วงเวลายากลำบากไปได้
สุดท้ายแล้ว…ไม่มีสิ่งที่สำคัญที่สุดเพียงอย่างเดียว
The most important thing is... there is no one most important thing.
Howard Marks
ความสำเร็จในการลงทุนไม่ใช่เรื่องของการทำถูกครั้งเดียว แต่เกิดจากการผสมผสานปัจจัยหลายอย่างเข้าด้วยกัน ทั้งการคิดให้ลึก การควบคุมความเสี่ยง การเข้าใจวัฏจักรตลาด การมองต่างอย่างมีเหตุผล การลงทุนด้วยส่วนเผื่อความปลอดภัย และการมีวินัย
เมื่อนักลงทุนสามารถนำทุกสิ่งเหล่านี้มาประกอบกันได้อย่างสมดุล นั่นแหละคือหนทางสู่ความมั่นคงและยั่งยืนในโลกการลงทุน
โฆษณา