10 มิ.ย. เวลา 04:44 • ธุรกิจ
1. หนี้ครัวเรือนไทยสูงแตะเกือบ 90% ของ GDP แปลเป็นภาษาบ้านๆได้ว่า ส่วนหนึ่งของตัวเลข GDP หรือรายได้ของประเทศทุกๆ 100 บาท ที่เกิดการจับจ่ายใช้สอยขึ้นภายในประเทศ จะเกิดจากการสร้างหนี้ครัวเรือนมาใช้จ่ายมากถึง 90 บาท!!!!
นายไทยแท้ มีรายได้ 100 บาท
แต่ในร้อยบาทที่ได้มา นายไทยแท้ไปกู้มา "ใช้จ่าย 90 บาท"
แทนที่นายไทยแท้จะกู้มาเพื่อ "ลงทุนให้มากกว่า!!"
หากนายไทยแท้ คุยโม้สาวๆไปทั่วว่าตัวรวย
ก็คือโกหกทั้งเพ!!
1
ที่สำคัญกว่านั้น ตัวเลขหนี้ภาคครัวเรือนเป็นตัวเลข "หนี้ในระบบ" และหนี้ในระบบก็คือ ลูกหนี้ที่มีเจ้าหนี้เป็นสถาบันการเงินในระบบนั่นเอง, ลองจินตนาการดูว่า "มันยังไม่ได้รวมหนี้นอกระบบอีกจำนวนเท่าใด???"
เราลองมาคลี่ "หนี้ครัวเรือน" กันสักหน่อย สำหรับคนทั่วไปอย่างนายไทยแท้ คงไม่พ้นการกู้มากินมาช้อป กู้ไปเที่ยวตปท. ผ่อนบัตรเครดิต ผ่อนบัตรกดเงินสดทั้งหลาย กู้ซื้อรถ คนไทยรวยหนี้กระหน่ำ ด้วยยอดจองซื้อรถในงานมอเตอร์โชว์ที่เพิ่มขึ้นทุกปี กู้ซื้อบ้านดีขึ้นมาอีกหน่อย เพราะอย่างน้อยก็ทำให้ศก.ภาคอสังหาตื่นตัว แต่ดอกเบี้ยก็บานตะไท กินกันยาวๆ ไปจนถึง 20-30 ปี จนกว่าคนกู้จะตายกันไปข้างหนึ่ง แต่หนี้ที่กู้มาเพื่อประกอบหรือหมุนเวียนในธุรกิจ มีสัดส่วนเพียง 18% จากยอดหนี้ครัวเรือนทั้งหมด!!!
นอกจากนายไทยแท้ จะมีสัดส่วนหนี้ถึง
90 บาทต่อรายได้ 100 แล้ว
ที่ซ้ำร้ายกว่านั้น ก็คือ นายไทยแท้
เอามาลงทุนเพียง 20% ของหนี้ทั้งหมด
............................
นี่คือที่มาของคำว่า เบี้ยหัวแตก! หนี้หัวโต!
1
2. เด็กจบใหม่ตกงาน ประเด็นนี้ ต้องไล่ตั้งแต่รากของปัญหา นั่นคือ อุดมศึกษากับภาคเอกชน หรือรัฐไม่คุยกันในการสร้างเด็กรองรับงาน ประการต่อมาคือ เด็กจบใหม่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ สำออยโน่นนี่ ซ้ำยังท่องคำว่า "อยากได้งานที่ตรงกับวุฒิที่เรียนมา" และคำว่า "จบป.ตรีต้องได้ 15,000" หารู้ไม่ว่า มันเป็นเพียงแคมเปญหาเสียงของอดีตนายกฯหญิง ซึ่งเป็นอดีตน้องสาวอดีตนายกฯนักโทษ และคุณอานายกฯหญิงคนปัจจุบัน ที่ให้ยังไงก็ไม่สามารถทำได้จริง เพราะรัฐจะไปบังคับภาคเอกชนไม่ได้ เพราะต้นทุนแต่ละผู้ประกอบการไม่เท่ากัน
เด็กจบใหม่ควรตระหนักว่า
วัยยังน้อยอย่าเลือกงาน เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ
ต่อให้จบมหิดล จุฬา ธรรมศาสตร์ 7-11 ก็ทำไปก่อนได้
เพียงรอเวลาบ่มเพาะประสบการณ์
และอย่าคิดเพียงเป็นลูกจ้าง ต้องได้งานบริษัทใหญ่
กล้าลงทุนทำธุรกิจน้ำเต้าหู้ หมูปิ้งก็ยังได้
1
3. ทั้ง 1 และ 2 สะท้อน "ความสุร่ยสุร่าย" และความเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ อย่าเอาแต่โทษรัฐเลย ก็เลี้ยงลูกกันมาแบบนี้ ก็ใช้จ่ายกันแบบนี้ ก็ปลูกฝังทัศนะ มีรถ มีบ้าน เข้าคณะดังกันแบบนี้ คณะดัง คนก็แย่ง มหาลัยดัง คนก็แย่ง งานดัง คนก็แย่ง บริษัทดัง คนก็แย่ง ไปแออัดกันอยู่อย่างนั้น....คิดใหม่ไม่เป็น
1
SME จึงไม่คิดจะจ้างเด็กจบตรีเลยสักนิด
ในขณะที่เด็กจบปวช, ปวส. หนักเอาเบาสู้กว่าเป็นไหนๆ
ที่สำคัญเด็กพวกนี้ เก่ง Excel มาก ช่วยพวกเขาได้มาก
พวกเขาทุนน้อย AI อะไรนั่น อย่าเอามาขู่ ไม่เคยคิด
พวกเขาอยากได้คน คนที่อดทน หนักเอาเบาสู้
(อันนี้เราไม่ได้พูดเอง เราคุยกับพวกเขาแล้วเอามาบอกต่อค่ะ)
1
คำถามสุดท้าย แก้ยังไง.......นั่นสิ มันจะแก้ยังไ??? ปมมันใหญ่ขนาดนี้ คนไทยก็เอาแต่ร้องตะโกน "ว่ารายได้ไม่พอค่าใช้จ่าย"....อืม...มันคงไม่ใช่ทั้งหมดม้างง?
โฆษณา