10 มิ.ย. เวลา 06:35 • บันเทิง

ประวัติฟ่าน ปิงปิง (Fan Bingbing)

สวัสดีครับทุกคน! ยินดีต้อนรับเข้าสู่ช่อง letsgettoknowher วันนี้เราจะพามารู้จักกับนักแสดงสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ เธอคือนักแสดงสาวที่มีชื่อเสียงจากซีรีส์ย้อนยุค และพุ่งสู่ราชินีพรมแดง ก่อนที่ชื่อเสียงของเธอจะทิ้งดิ่ง แต่เธอก็ยังกลับมาได้กับเธอคนนี้ ฟ่าน ปิงปิง
กำเนิดซูเปอร์สตาร์
ฟ่าน ปิงปิง เกิดเมื่อวันที่ 16 กันยายน 1981 ที่เมืองชิงเต่า มณฑลซานตง ประเทศจีน เธอเติบโตในครอบครัวศิลปิน คุณพ่อเป็นนักร้อง ส่วนคุณแม่เป็นนักเต้น ทำให้ฟ่านปิงปิงคุ้นเคยกับแสงสีของเวทีมาตั้งแต่เด็ก
เธอเรียนด้านศิลปะโดยตรงตั้งแต่มัธยม และสำเร็จการศึกษาจากสถาบันสอนการแสดงเซี่ยจิ้นเหิงทง ในนครเซี่ยงไฮ้ และเริ่มต้นเส้นทางการแสดงระดับอาชีพเป็นครั้งแรกในปี 1996 ด้วยซีรีส์ที่ฉายในจีนเรื่อง Powerful Woman ซึ่งในเวลานั้นหลายคนอาจจะไม่คุ้นหน้าเธอเท่าไร ผลงานที่ทำให้เธอแจ้งเกิด คือซีรีส์ระดับตำนาน "องค์หญิงกำมะลอ" หรือ "My Fair Princess" ในบท จินซั่ว สาวใช้คู่ใจของเสี่ยวเยียนจื่อ ที่แม้จะเป็นบทสมทบ แต่กลายเป็นที่จดจำอย่างมากทั่วเอเชีย
การเติบโต โดดเด่น โกอินเตอร์
จากจุดเล็ก ๆ ฟ่าน ปิงปิง ค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้นเป็นนางเอกแถวหน้าในวงการบันเทิงจีน เธอเลือกบทที่ท้าทาย ไม่ยึดติดกับความสวยหวาน แต่กล้าเล่นบทดราม่า แรง ลึก และซับซ้อน รวมถือการทำตัวให้โด่นเด่นในสังคม เริ่มตั้งแต่
ในปี 2003 เธอได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง Cell Phone (2003) ภาพยนตร์ดังกล่าวเป็นหนึ่งในผลงานที่โดดเด่น จนทำให้เธอได้รับรางวัลนักแสดงหญิงสมทบยอดเยี่ยมจาก Golden Horse Awards
ปี 2007 เธอได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง Lost in Beijing (2007) ซึ่งเรื่องนี้เธอได้รับเสนอชื่อเข้าชิงในสาขานักแสดงนำหญิงจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน แม้ภาพยนตร์ดังกล่าวจะประสบความสำเร็จแต่ก็ถูกแบนในจีน และปีนี้เอง เธอก็ก่อตั้งบริษัท ฟ่าน ปิงปิง Studio และเริ่มรับงานอย่างบ้าคลั่ง เธอมีภาพยนตร์เข้าฉายในจีนแผ่นดินใหญ่ถึง 8 เรื่อง หลังจากนั้นเธอก็มีภาพยนตร์ออกมาปีละหลายเรื่องติดต่อกัน ซึ่งทำให้เธอได้ร่วมงานกับผู้กำกับ, นักแสดงชื่อดัง รวมถึงทีมงานคุณภาพมากมาย
ปี 2010 เธอถูกวิจารณ์อย่างหนัก หลังจากที่เธอไปเดินพรมแดงในเทศกาลหนังเมืองคานส์ ในชุดของดีไซเนอร์ชื่อ Laurence Xu (ลอเรนซ์ ซู) ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากชุดฮ่องเต้ จนเธอได้ฉายา ‘องค์ชายฟ่าน’
ชุดดังกล่าวเธอโดนวิจารณ์จากคนในวงการ และประชาชนอย่างหนัก แต่เธอก็ไม่สนใจ แถมยังตอกกลับคนที่วิจารณ์อย่างเจ็บแสบด้วยว่า “ถ้ามีใครสักคนคิดอย่างนั้น ฉันว่าน่าจะเป็นตัวเธอเองมากกว่า เพราะฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลยสักนิด ฟ่าน ปิงปิง เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่งที่อยากจะถ่ายทอดวัฒนธรรมบ้านเกิดของตัวเองผ่านการแต่งกายเท่านั้น”
ปี 2011 เธอได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง Buddha Mountain (2011) และมีชื่อเข้าชิงในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตเกียว ซึ่งเธอก็ได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม
ในปี 2013 เธอได้ก้าวขึ้นสู่วงการฮอลลีวูด ด้วยการปรากฎตัวในภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่ Iron Man 3 แต่เวอร์ชั่นที่เข้าฉายเฉพาะในประเทศจีน และในปี 2014 เธอได้มีบทเป็นนักแสดงเต็มตัวในภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่เหนือมนุษย์ เรื่อง X-Men: Days of Future Past โดยแสดงเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ที่ชื่อ บลิงค์
เท่านั้นยังไม่พอ ในปีเดียวกันนี้เองเธอก็รับบทนำในซีรีส์ฟอร์มยักษ์อย่าง "The Empress of China" โดยรับบท "บูเช็กเทียน" บทบาทนี้ทำให้เธอกลายเป็น “ราชินีเรตติ้ง” และ “ราชินีคอสตูม” เพราะชุดในเรื่องนั้นอลังการสุดๆ ความสง่างามจาก บูเช็กเทียน ยังถูกส่งต่อมาถึงในปี 2015 ด้วยการที่เธอได้รับบท หยางกุ้ยเฟย 1 ใน 4 หญิงงามจากประวัติศาสตร์จีน ในภาพยนตร์เรื่อง Lady of the Dynasty ภาพยนตร์ดังกล่าวได้รับกระแสวิจารณ์เป็นอย่างมาก จากฉากเลิฟซีนบนหลังม้าสุดเร้าร้อนจนต้องถูกตัดทิ้ง
ชีวิตช่วงนี้ของเธอ เธอดังเป็นพุแตก กลายเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์แฟชั่นระดับโลก เช่น Louis Vuitton, L’Oreal, และ ถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 4 ของนักแสดงที่ทำรายได้สูงสุดในโลก อีกทั้งยังได้รับการจัดอันดับเป็น “หนึ่งในผู้หญิงทรงอิทธิพลของจีน” จาก Forbes อีกด้วย
จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่
ดอกไม้ที่เมื่อเบ่งบานแล้วย่อมต้องมีวันร่วงโรย ในเดือนกันยายน ปี 2018 เธอโดนมรสุมชีวิตลูกใหญ่ ด้วยการถูกเปิดโปงจากนายชุย หย่งหยวน พิธีกรชื่อดังฝีปากกล้า ว่าเธอได้ทำสัญญายืดหยุ่น หรือที่เรียกว่า “Yin-Yang Contracts” เพื่อใช้เลี่ยงภาษี
ส่งผลให้ฟ่าน ปิงปิง หายตัวไปอย่างลึกลับนาน 3 เดือน จนถูกเจ้าหน้าที่ของทางการจีนจับกุม และถูกตั้งข้อหาว่า จงใจหลีกเลี่ยงภาษีจากทางการจีน เธอออกขอโทษแฟนคลับทุกคน และยอมรับผิดกับเรื่องดังกล่าว เธอยอมถูกปรับเป็นเงินรวมกว่า 883 ล้านหยวน หรือประมาณ 4 พันล้านบาท! ก่อนที่เธอหายจากวงการไปซักระยะ
การกลับมาอีกครั้ง
หลังเงียบหายไปนาน เธอก็ค่อย ๆ กลับมาอีกครั้ง ด้วยภาพลักษณ์ที่ถ่อมตัว สุภาพ แต่ยังคงความสวยสง่างาม แม้จะยังไม่ได้รับโอกาสมากในประเทศจีน แต่เธอก็พยายามมีผลงานในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องแทน โดยเริ่มรับงานแสดงในต่างประเทศ เช่น ได้แสดงซีรีส์เกาหลีและภาพยนตร์เกาหลี เรื่อง Green Night ออกฉายปี 2023
ได้ร่วมเดินพรมแดงที่เมืองคานส์ มีงานถ่ายแบบให้ Vogue และแบรนด์แฟชั่นชั้นนำรวมถึงเปิดแบรนด์ความงามของตัวเองและในปี 2024 เธอก็มาปรากฏตัวในขบวนพาเหรดเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ยิ่งใหญ่ ในประเทศไทย โดยแต่งชุดไทยจัดเต็ม และเธอยังพูดในหลายเวทีว่า “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราต้องลุกขึ้นใหม่อีกครั้ง”
เรื่องความรัก
ในด้านความรัก เธอเคยคบหากับนักแสดงหนุ่ม “หลี่เฉิน” (Li Chen) ทั้งคู่หมั้นกันในปี 2017 แต่สุดท้ายก็แยกทางกันในปี 2019 โดยทั้งสองออกมาโพสต์ข้อความบอกเลิกกันด้วยความเคารพ ซึ่งระบุว่า "เราไม่ใช่คู่รักอีกต่อไป แต่จะยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดต่อกัน"
เป็นอย่างไรบ้างครับกับประวัติของเธอคนนี้ ฟ่าน ปิงปิง ผู้หญิงที่หลายคนมองว่าเธอนั้นทยอยทะยาน ตลอดเส้นทางชีวิตของเธอ เธอใช้พรสวรรค์และความมุ่งมั่นสร้างชื่อเสียงในวงการบันเทิงระดับโลก แม้เธอจะเคยก้าวพลาด แต่เธอก็ยืนหยัดกลับมาอย่างสง่างาม และยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคนว่า "ชีวิตอาจสะดุดได้ แต่เราสามารถลุกขึ้นใหม่ได้เสมอ" ซึ่งถ้าใครอยากจะติดตามชีวิตของเธอมากขึ้น ก็สามารถไปติดตามได้ตามวาปที่ขึ้นอยู่นี้ IG : bingbing_fan
สุดท้ายนี้หากท่านชอบชมเรื่องราวของ สาวๆ และคนดังอีกมากมายสามารถเข้าไปรับชมไปที่ช่อง youtube : @letsgettoknowher เพื่อเป็นกำลังใจให้เราได้นำเสนอสิ่งดีๆแบบนี้ต่อไป......ขอบคุณครับ
โฆษณา