# ไอซ์แลนด์ตะลุยทัวร์นาเมนต์ใหญ่
# ประเทศไอซ์แลนด์ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของยุโรป โดยภูมิศาสตร์ของประเทศมีลักษณะเป็นเกาะซึ่งตั้งอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ขณะที่ในส่วนของประชากรกลับมีเพียงแค่ราวๆ 300,000 กว่าคนเท่านั้น
# แม้ว่าจะเป็นประเทศเล็กๆที่มีประชากรค่อนข้างน้อย แต่ถึงกระนั้นทีมฟุตบอลของไอซ์แลนด์ก็เคยสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกและฟุตบอลยูโรมาแล้วอย่างละ 1 สมัย
# ฟุตบอลยูโร 2016 คือทัวร์นาเมนต์แรกที่ทีมชาติไอซ์แลนด์ได้มีส่วนร่วมซึ่งก่อนหน้านั้นพวกเขาจัดว่าเป็นทีมระดับสมันน้อยของทวีปยุโรปและมักจะตกรอบคัดเลือกอยู่เป็นประจำ
# จนกระทั่งการเข้ามาของ ลาร์ส ลาเกอร์บัค อดีตกุนซือทีมชาติสวีเดนก็เริ่มทำให้ไอซ์แลนด์มีพัฒนาการที่ดีขึ้น โดยที่ลาเกอร์บัคเองก็ไม่ใช่กุนซือชาวต่างชาติรายแรก เพราะก่อนหน้านั้นไอซ์แลนด์ก็เคยใช้บริการของกุนซือต่างชาติทั้งจากอังกฤษ เยอรมัน สวีเดน สกอตแลนด์ ออสเตรียไปจนถึงสหภาพโซเวียต แต่ก็ไม่มีใครที่จะพาไอซ์แลนด์ได้ไปเล่นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ได้เลยสักคนเดียว
# ในปี 2013 สมาคมฟุตบอลของไอซ์แลนด์ได้ทำการแต่งตั้ง ไฮเมียร์ ฮัลล์กริมสัน ซึ่งเป็นผู้ช่วยโค้ชของลาเกอร์บัคให้มาเป็นกุนซือของทีมชาติร่วมกับลาเกอร์บัคซึ่งก็ได้ตัวอย่างมาจากทีมชาติสวีเดนซึ่งครั้งหนึ่งเคยใช้กุนซือคู่ทำงานร่วมกันซึ่งก็คือ ลาเกอร์บัคกับ ทอมมีโซเดนเบิร์ก
# การใช้กุนซือคู่ทำงานร่วมกันของทีมชาติไอซ์แลนด์ถือว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จและมีความลงตัวอย่างมากทั้งจากประสบการณ์ของลาเกอร์บัคบวกกับความเป็นคนท้องถิ่นและคุ้นเคยกับผู้เล่นของฮัลล์กริมสัน ทำให้ไอซ์แลนด์มีผลงานการเล่นที่พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
# ศึกยูโร 2016 ที่ประเทศฝรั่งเศสเป็นครั้งแรกของทัวร์นาเมนต์ยูโรที่เพิ่มทีมจาก 16 เป็น 24 ทีมซึ่งก็ทำให้ไอซ์แลนด์ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลทัวร์นาเมนต์รายการใหญ่ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
# โดยก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ก็ได้มีการเรียกนักเตะทั้ง 23 คนมาติดทีมชาติซึ่งรายชื่อผู้เล่นส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยเป็นที่คุ้นหูมากนัก แต่กลับมีรายชื่อของ ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น อดีตกองหน้าชื่อดังแห่งยุค 2000s มาติดทีมชาติ
# โดยถึงแม้ตัวของกุ๊ดยอห์นเซ่นจะอยู่ในวัยร่วงโรย แต่การเรียกเขามาติดทีมชุดยูโร 2016 ก็เหมือนเป็นการมอบโอกาสให้เขาได้สัมผัสกับทัวร์นาเมนต์รายการใหญ่ในระดับชาติเป็นครั้งแรกก่อนที่จะอำลาทีมชาติอย่างเป็นทางการ
# ในศึกยูโร 2016 ไอซ์แลนด์ถูกจับฉลากมาอยู่ในกลุ่มเอฟ โดยมีเพื่อนร่วมกลุ่มอย่าง โปรตุเกส / ฮังการี และ ออสเตรีย แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยมีประสบการณ์ในทัวร์นาเมนต์ระดับชาติมาก่อน แต่ไอซ์แลนด์กลับสร้างเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ด้วยการเก็บได้ 5 คะแนนพร้อมกับผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์
# รอบ 16 ทีมสุดท้ายพวกเขาเข้าไปเจอกับกระดูกชิ้นโตอย่าง ทีมชาติอังกฤษ แม้ว่าชื่อชั้นและศักยภาพจะเป็นรองแต่ไอซ์แลนด์กลับสร้างเซอร์ไพรส์อีกครั้งด้วยการพลิกล็อคชนะอังกฤษ 2-1 พร้อมกับกรุยทางผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย
# แม้ว่าในรอบ 8 สุดท้ายพวกเขาจะแพ้ต่อทีมเจ้าภาพอย่างฝรั่งเศส แต่ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมกับการเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายทั้งที่เพิ่งได้เล่นทัวร์นาเมนต์ระดับชาติเป็นครั้งแรกก็ทำให้ทีมชาติไอซ์แลนด์ได้รับคำชื่นชมและสดุดีมากพอสมควร
# หลังจบฟุตบอลยูโร 2016 ไฮเมียร์ ฮัลล์กริมสัน กลายมาเป็นกุนซือใหญ่เพียงคนเดียวของทีมชาติ หลังจากที่ลาเกอร์บัคออกไปคุมทีมชาตินอร์เวย์ โดยเป้าหมายของทีมก็คือ การไปเล่นฟุตบอลโลก 2018 ให้ได้ซึ่งถ้าหากทำได้ก็จะเป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกของทีมชาติไอซ์แลนด์ด้วยเช่นกัน
# ในเกมรอบคัดเลือก พวกเขาถูกจับมาอยู่ในกลุ่มที่แข็งพอสมควร เพราะมีทั้ง โครเอเชีย / ยูเครน / ตุรกี ที่ศักยภาพเหนือกว่าพวกเขา นอกจากนั้นยังมี ฟินแลนด์ และ โคโซโว โดยในรอบคัดเลือกครั้งนี้ก็เป็นงานที่ยากไม่น้อย เพราะจะเอาแค่ทีมแชมป์กลุ่มเท่านั้นที่จะได้ไปเล่นฟุตบอลโลกโดยอัตโนมัติ ส่วนอันดับ 2 ต้องไปลุ้นต่อในรอบเพลย์ออฟ
# แม้หลายคนจะมองว่าไอซ์แลนด์น่าจะไม่ผ่านรอบคัดเลือกในครั้งนี้ไปได้ แต่การคาดการณ์ดังกล่าวก็ผิดถนัด หลังจากที่ขุนพลนักเตะไอซ์แลนด์โชว์ฟอร์มได้อย่างสวยหรูด้วยการเปิดบ้านชนะทั้ง ตุรกี โครเอเชียและยูเครน ทำให้พวกเขามี 22 แต้มจากการเล่น 10 นัดจนสามารถคว้าแชมป์กลุ่มพร้อมกับตีตั๋วไปเล่นฟุตบอลโลก 2018 ได้อย่างสุดเซอร์ไพรส์
# ฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซียกลายเป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกของทีมชาติไอซ์แลนด์ โดยในทัวร์นาเมนต์นี้พวกเขาอยู่ในกลุ่มดีซึ่งมีเพื่อนร่วมกลุ่มทั้ง อาร์เจนตินา / ไนจีเรีย และทีมที่คุ้นเคยกันดีอย่างโครเอเชีย
# เกมนัดแรกไอซ์แลนด์ก็ทำให้หลายคนต้องประหลาดใจ เมื่อพวกเขาเสมอกับหนึ่งในทีมเต็งแชมป์อย่างอาร์เจนตินา แต่ในนัดที่ 2 และ 3 พวกเขากลับแพ้รวด ทำให้ไอซ์แลนด์ต้องจบเส้นทางในฟุตบอลโลก 2018 เพียงแค่รอบแบ่งกลุ่ม
# โดยหลังจากจบทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก 2018 ฮัลล์กริมสันก็ประกาศลาออกจากตำแหน่งกุนซือทีมชาติไอซ์แลนด์ ซึ่งนับตั้งแต่นั้นมาทีมชาติไอซ์แลนด์ก็ยังไม่สามารถกลับไปเล่นในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลระดับชาติได้อีกเลยจนถึงยุคปัจจุบัน
#นักฟุตบอลนอกกระแส
#ทีมชาติไอซ์แลนด์
#ฟุตบอลยูโร2016
#ฟุตบอลโลก2018
ลาร์ส ลาเกอร์บัค และ ไฮเมียร์ ฮัลล์กริมสัน กุนซือคู่ของทีมชาติไอซ์แลนด์ซึ่งทั้งคู่มีส่วนสำคัญที่ทำให้ไอซ์แลนด์ได้ไปเล่นฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ระดับชาติเป็นครั้งแรก
ศึกยูโร 2016 พวกเขาสร้างปาฏิหาริย์ครั้งใหญ่ด้วยการล้มทีมชาติอังกฤษในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ท่าฉลองความดีใจแบบ Viking Thunder Clap ซึ่งได้รับความนิยมในปัจจุบันก็ได้รับอิทธิพลมาจากทีมชาติไอซ์แลนด์
ฮัลล์กริมสันกลายมาเป็นกุนซือใหญ่คนเดียวของทีม หลังจากที่ลาเกอร์บัคลาออกและย้ายไปคุมทีมชาตินอร์เวย์
ฟุตบอลโลก 2018 เป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกของทีมชาติไอซ์แลนด์ แต่ในคราวนี้พวกเขาต้องยุติเส้นทางเพียงแค่รอบแบ่งกลุ่มเท่านั้น
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
