10 มิ.ย. เวลา 23:00 • ธุรกิจ

เปิดขุมข่ายบ่อนกาสิโน ผลประโยชน์แสนล้าน ชายแดนไทย-กัมพูชา

เปิด "รายงานการวิจัยของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน" เจาะลึก 'ธุรกิจกาสิโน" มูลค่าแสนล้านบาท บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา รู้หรือไม่ว่ามีขุมข่ายนักการเมือง ข้าราชการ นักธุรกิจ มีผลประโยชน์มากมายอยู่ในนั้น
ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างไทย-กัมพูชา จากกรณีปัญหาข้อพิพาทชายแดน จนทหารกัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทยบริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี เกิดการปะทะและนำไปสู่การลดเวลาเปิด-ปิดด่านถาวรและจุดผ่อนปรนตามแนวชายแดนทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2568 ส่งผลกระทบต่อการเดินทางข้ามแดนของประชาชนทั่วไป
นอกเหนือจากมิติความมั่นคง เหตุการณ์นี้ได้เปิดโปงให้เห็น "เครือข่ายผลประโยชน์มหาศาล" ที่ซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา
-----
■ เครือข่ายชนชั้นนำผู้ทรงอิทธิพล
จาก "รายงานการวิจัยของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน" เรื่อง เครือข่ายชนชั้นนำทางเศรษฐกิจการเมืองและผลกระทบของบ่อนกาสิโนตามชายแดนไทย-กัมพูชา พบว่า การลงทุนบ่อนกาสิโนตามแนวชายแดน โดยเฉพาะในจังหวัดจันทบุรีและตราด เกิดขึ้นภายใต้เครือข่ายทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ
ชนชั้นนำในเครือข่ายการลงทุนประกอบด้วย 2 กลุ่มหลัก คือ 1.กลุ่มชนชั้นนำทางเศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่ นักธุรกิจท้องถิ่น นักธุรกิจจากกรุงเทพฯ และนักธุรกิจข้ามชาติจากประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย
และ 2.กลุ่มชนชั้นนำทางการเมือง ประกอบด้วยนักการเมืองท้องถิ่นตั้งแต่ระดับองค์การบริหารส่วนจังหวัดขึ้นไป และนักการเมืองของประเทศกัมพูชา ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีจนถึงผู้ว่าราชการจังหวัด
-----
■ อาณาจักรเกาะกง – ผลประโยชน์ทับซ้อนระดับชาติ
กรณีศึกษาชัดเจนคือบ่อนกาสิโนเกาะกง ซึ่งเป็นบริการหนึ่งของโรงแรมเกาะกง รีสอร์ท ตั้งอยู่บ้านจามเยี่ยม อำเภอมณฑลสีมา จังหวัดเกาะกง ห่างจากจุดผ่านแดนถาวรคลองใหญ่ประมาณ 800 เมตร ติดกับชายแดนไทยที่บ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด
เจ้าของกิจการคือ "ออกญา ลี ยงพัด" มีชื่อไทยว่า "พัด สุภาภา" หรือ "เสี่ยพัด" เป็นสมาชิกวุฒิสภาและนักธุรกิจชาวกัมพูชาเชื้อสายจีนและไทยเกาะกง เขาเป็นเจ้าของ บริษัท แอลวายพีกรุป (LYP Group) บริษัทขนาดใหญ่ของกัมพูชา โดย "เสี่ยพัด" ครอบครองพื้นที่นับหมื่นไร่ เป็นอาณาจักรทางธุรกิจภายใต้บริษัทกลุ่มลี ซอ
นอกจากบ่อนกาสิโนและโรงแรมแล้ว ยังมีธุรกิจสำคัญอื่นๆ เช่น นิคมอุตสาหกรรม ศูนย์ผลไม้ อาคารพาณิชย์ให้เช่า ถนนส่วนบุคคล และสะพานข้ามแม่น้ำ ที่น่าสนใจคือความเชื่อมโยงระหว่าง "เสี่ยพัด" กับผู้นำระดับสูงของกัมพูชา
งานวิจัยระบุว่า "ฮุน เซน" มีบทบาทในการออกนโยบายอนุญาตให้เปิดบ่อนกาสิโน และถูกระบุว่าเป็น "ลูกพี่" ของ "เสี่ยพัด" ซึ่งถูกนิยามว่าเป็น "กระเป๋าเงิน"
ความสัมพันธ์นี้เกิดขึ้นจากการที่ "เสี่ยพัด" สนับสนุน "ฮุน เซน" ในการแข่งขันทางการเมืองที่จังหวัดเกาะกง จนได้รับชัยชนะ หลังจากนั้น "เสี่ยพัด" ได้รับการแต่งตั้งเป็น "ออกญา ลีย ยงพัด" ซึ่งเป็นเครื่องราชย์สูงสุดของกัมพูชา
-----
■ แผนที่อำนาจ – จุดร้อนกาสิโนชายแดน
ปัจจุบันกัมพูชามีกาสิโนประมาณ 150 แห่ง กลายเป็นประเทศที่มีกาสิโนมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่บริเวณชายแดนติดกับประเทศไทย แหล่งใหญ่ที่สุดคือปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย ติดกับอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว คาดการณ์ว่ากลุ่มนักพนันมากกว่าร้อยละ 80 เป็นชาวไทย
กาสิโนสำคัญในปอยเปต ได้แก่ Grand Diamond City มีนายวัฒนา อัศวเหม อดีตนักการเมืองชื่อดังจากสมุทรปราการเป็นเจ้าของ โดยเข้าซื้อกิจการปี 2544 ด้วยมูลค่าประมาณ 700 ล้านบาท และเคยประกาศขายในปี 2564 ด้วยราคา 1.2 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ยังมี Holiday Poipet ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างนักธุรกิจอินโดนีเซีย จีนมาเก๊า และไทย และ Star Vegas & Club ของนักธุรกิจน้ำมัน ร่วมทุนกับชาวไต้หวันและน้องชายอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา
พื้นที่ร้อนอื่นๆ ได้แก่ เกาะกงที่ติดกับอำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด, ไพลินและช่องจอม ที่มีโรยัลฮิลล์และโอเสม็ดรีสอร์ตตั้งอยู่, และบ่อนกาสิโนใหม่ที่ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นกลุ่มทุนจากประเทศจีน มูลค่าลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท
-----
■ ใครเป็นใครในอาณาจักรกาสิโน
การถือครองกาสิโนชายแดนไทย-กัมพูชาเป็นเครือข่ายที่ซับซ้อน มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลหลายฝ่ายเกี่ยวข้อง
กลุ่มนักการเมืองไทย นำโดยวัฒนา อัศวเหม อดีต ส.ส.สมุทรปราการ 11 สมัย ฉายา "เจ้าพ่อปากน้ำ" เจ้าของ Grand Diamond City และ Poipet Resort ซึ่งปัจจุบันติดคดีจำคุก 10 ปี คดีทุจริตที่ดิน รวมถึงนักการเมืองท้องถิ่นสระแก้วที่ร่วมทุนใน Holiday Poipet
กลุ่มทหารและข้าราชการกัมพูชา มีน้องชายอดีตรัฐมนตรีกัมพูชาร่วมทุนใน Star Vegas & Club และ "ออกญาลึม เฮง" นักธุรกิจใหญ่กัมพูชา เจ้าของบ่อนสายตะกู ซึ่งมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับฮุน เซน และร่วมทุนกับนักธุรกิจสิงคโปร์ เจ้าของ Royal Hill
กลุ่มนักธุรกิจต่างชาติ ได้แก่ "นายโทนี่" นักธุรกิจอินโดนีเซีย เจ้าของ Holiday Palace และ Holiday Poipet, Chen Lip Keong นักธุรกิจมาเลเซีย เจ้าของ Naga World ผ่าน NagaCorp, นักธุรกิจจีนมาเก๊าที่ร่วมทุนหลายกาสิโน และกลุ่มทุนไต้หวันที่ร่วมลงทุนใน Star Vegas
กลุ่มนักธุรกิจไทย นำโดย "เสี่ยสมบูรณ์" อดีตเจ้าของ Star Vegas และ Star King (ก่อนขายต่อ) นักธุรกิจน้ำมันคอสโมออยส์ที่ถือหุ้นใน Star Vegas และนักธุรกิจท้องถิ่นสระแก้วที่ร่วมทุนในหลายกาสิโน
■ กลไกอิทธิพลและการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์
รูปแบบการลงทุนในบ่อนกาสิโนชายแดนมีลักษณะพิเศษ โดยนักลงทุนซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลของฝ่ายกัมพูชามักเข้ามา "ถือหุ้นลม" ด้วยการอาศัยการเป็นเจ้าของพื้นที่ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีอิทธิพลทางการเมืองในประเทศกัมพูชา ทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ
กรณีตัวอย่างชัดเจนคือ นายสมพร อดีตผู้นำเขมรแดงในจังหวัดไพลิน และอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดไพลิน ในฐานะผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ได้เปิดให้นักลงทุนไทยเข้ามาเปิดบ่อนกาสิโนในจังหวัดไพลิน โดยขอร่วมลงทุนด้วยการเป็น "หุ้นลม" บ่อนกาสิโนหลายแห่งในไพลินมีความเกี่ยวข้องกับการลงทุนของนายสมพร เช่น บ่อนไพลิน, บ่อนมงกุฎเพชร, บ่อนดรีมเวิร์ล และบ่อนเค.อาร์. วิกตอเรีย กาสิโน
ที่น่าสนใจคือ การดำเนินธุรกิจบ่อนกาสิโนของกลุ่มที่ร่วมลงทุนกับนายสมพรต้องเสียค่าสัมปทานซ้ำซ้อน ทั้งต่อรัฐบาลกลาง และระดับท้องถิ่น
นอกจากนี้ ยังมีกรณีของ "กก อาน" เศรษฐีชาวกัมพูชาและที่ปรึกษาของฮุน เซน ที่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อสร้างกาสิโนปรินเซสคราวน์ในปอยเปตที่ละเมิดข้อตกลงเขตแดน จนกระทั่งถูกประท้วงจากทางการไทยและเทศบาลปอยเปต จึงได้หยุดการก่อสร้างและนำดินที่ถมคลองกลับคืนไป
การดำเนินธุรกิจบ่อนกาสิโนตามแนวชายแดนไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้ประกอบการต้องจ่ายค่าส่วยให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งฝั่งไทยและกัมพูชา เพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆ เช่น เวลาเปิด-ปิดด่านชายแดน, หนังสือเดินทาง, การตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย, และการนำเงินข้ามประเทศ
ที่สำคัญ บ่อนกาสิโนยังเป็นแหล่งฟอกเงินของกลุ่มชนชั้นนำไทยที่ทำธุรกิจผิดกฎหมาย โดยมีการสมคบคิดระหว่างชนชั้นนำที่จะฟอกเงินกับเจ้าของบ่อนกาสิโน ซึ่งมักเป็นลูกค้าระดับ VIP
การลดเวลาเปิด-ปิดด่านถาวรและจุดผ่อนปรนตามแนวชายแดนทั้ง 7 จังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2568 ซึ่งเป็นผลจากข้อพิพาทชายแดนและการปะทะบริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจกาสิโนชายแดน โดยเฉพาะมาตรการที่จุดผ่านแดนการอรัญประเทศ - ปอยเปตปรับเวลาเปิด-ปิด: เป็น 08.00-16.00 น. และเขียนชัดเจน "ชาวไทยที่ไปเล่นพนันและท่องเที่ยว ห้ามออกนอกประเทศ"
มาตรการนี้อาจเป็นการตอกย้ำความพยายามในการควบคุมการพนันและปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติที่มักเกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดน แต่ในอีกแง่หนึ่ง ก็สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันซับซ้อนระหว่างอำนาจรัฐ ผลประโยชน์ทางธุรกิจ และเครือข่ายอิทธิพลที่เชื่อมโยงกันระหว่างสองประเทศ
เหตุการณ์ความตึงเครียดครั้งนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะนำไปสู่การทบทวนนโยบายการพนันและการควบคุมชายแดน รวมถึงเปิดโปงเครือข่ายผลประโยชน์มหาศาลที่ซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังบ่อนกาสิโนชายแดนที่สร้างรายได้มหาศาลและมีความเชื่อมโยงกับผู้มีอิทธิพลทั้งในไทยและกัมพูชามายาวนาน
คำถามที่น่าสนใจคือ ปมพิพาทไทย-กัมพูชารอบนี้จะยืดเยื้อนานแค่ไหนและจบลงอย่างไร ท่ามกลางผลกระทบถึงเครือข่ายผลประโยชน์เบื้องหลังธุรกิจกาสิโนแสนล้านตามแนวชาย
โฆษณา