Blockdit Logo (Mobile)
พอร์ตเล็ก ใจใหญ่
•
11 มิ.ย. เวลา 00:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เมื่อ OpenAI ใช้คลาวด์ของ Google ควบคู่กับ Microsoft: จุดเปลี่ยนที่- มากกว่าการเลือกผู้ให้บริการ

ช่วงนี้ผมเจอข่าวที่น่าสนใจมากข่าวหนึ่ง
OpenAI เตรียมใช้บริการคลาวด์ของ Google ควบคู่กับ Microsoft Azure
ตอนแรกผมก็แค่คิดว่า “โอเค… เรื่องของระบบเบื้องหลัง”
แต่พอได้อ่านลึก ๆ ผมกลับรู้สึกว่านี่ไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่คือ "สัญญาณบางอย่าง" เกี่ยวกับทิศทางของโลก AI ที่กำลังเปลี่ยนไป
---
จากความเป็นพันธมิตร สู่ความยืดหยุ่นเชิงกลยุทธ์
ก่อนหน้านี้ OpenAI มีพันธมิตรหลักคือ Microsoft ซึ่งก็ลงทุนใน OpenAI ไปหลายพันล้าน และระบบของ ChatGPT เองก็รันอยู่บน Azure มาตลอด
ดังนั้นการที่ OpenAI หันมาใช้งาน Google Cloud ด้วย ดูเหมือนเป็นการ “เปิดประตูอีกบาน” ให้กับความเป็นไปได้ใหม่ ๆ
ในมุมหนึ่ง ผมมองว่ามันคือสัญญาณของ “ความยืดหยุ่น” มากกว่า “การเปลี่ยนใจ”
เพราะในโลกที่ AI โตเร็วแบบก้าวกระโดด การที่บริษัทระดับ OpenAI เลือกไม่ผูกตัวเองไว้กับระบบใดระบบหนึ่งแบบเบ็ดเสร็จ ถือเป็นท่าทีที่ฉลาดมาก
---
ทำไมต้อง Google Cloud?
คำถามนี้ผุดขึ้นในหัวผมทันที
Azure ก็มีครบ, Microsoft ก็เป็นพาร์ตเนอร์ใหญ่ แล้ว OpenAI จะขยับมาใช้ Google ทำไม?
คำตอบที่ผมเจอคือ… TPU (Tensor Processing Units) ของ Google ที่มีศักยภาพสูงสำหรับงานด้าน AI โดยเฉพาะ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่ออกแบบมาสำหรับการประมวลผลโมเดลขนาดใหญ่โดยตรง
แถม Google ยังมีเครื่องมือเฉพาะทาง เช่น Vertex AI และ BigQuery ที่อาจช่วยให้การเทรนโมเดลใหม่ ๆ ของ OpenAI รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น
สำหรับผม มันเหมือนการเปิดประตูให้ AI “คิดได้ลึกขึ้น” และ “เร็วขึ้น” กว่าเดิมอีก
---
นี่ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่มันคือ “ทิศทางของความร่วมมือ”
ถ้าเป็นเมื่อก่อน บริษัทเทคโนโลยีมักแข่งกันแบบตัดขาด
แต่ตอนนี้? OpenAI ใช้คลาวด์ของ Microsoft ก็ยังใช้ของ Google ได้
แถมทั้งสองบริษัทยังมีแนวโน้มจะร่วมกันพัฒนาให้ระบบเชื่อมถึงกันได้ดีขึ้นด้วย
ผมมองว่ามันคือภาพใหม่ของโลกเทคโนโลยี ที่ไม่ได้แข่งขันอย่างเดียว
แต่เริ่มเข้าสู่ยุค “ร่วมมือเพื่อผลักดันขีดจำกัด” มากกว่า
และในฐานะผู้ใช้คนหนึ่ง ผมก็ตื่นเต้นครับ
เพราะยิ่งเบื้องหลังแข็งแรงเท่าไหร่ สิ่งที่อยู่ตรงหน้าผม — ไม่ว่าจะเป็น ChatGPT, Copilot หรือ AI รุ่นใหม่ ๆ — ก็จะมีความสามารถมากขึ้นตามไปด้วย
---
ผมเห็นอะไรจากข่าวนี้?
1. AI จะเติบโตเร็วขึ้นอีก เพราะเบื้องหลังมีพลังประมวลผลจากทั้งสองยักษ์ใหญ่คอยสนับสนุน
2. ผู้ใช้จะมีประสบการณ์ที่ดีขึ้น เพราะความสามารถของโมเดลจะละเอียด ลึก และฉลาดกว่าเดิม
3. บริษัทอื่น ๆ จะต้องปรับตัว เพราะรูปแบบการ “พึ่งพาหลายระบบ” แบบนี้ อาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่
---
สุดท้าย…นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของ OpenAI หรือ Google
แต่มันคือสัญญาณที่บอกเราว่า…
อนาคตของ AI จะไม่ได้ผูกขาดอยู่กับใครคนเดียว
แต่มันจะเป็นโลกที่ความร่วมมือเปิดประตูให้กับความก้าวหน้า
และผมก็อดตื่นเต้นไม่ได้เลยครับ
ที่เราได้มีโอกาส “อยู่ในยุค” ที่จุดเปลี่ยนเหล่านี้กำลังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา
---
#บทความนี้ไม่สนับสนุนการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยงสูง โปรดศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน
โฆษณา