11 มิ.ย. เวลา 05:45 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.62 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.62 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง”
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.62 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง”
จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 32.65 บาทต่อดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) ยังคงเคลื่อนไหวไร้ทิศทาง ในกรอบ Sideways (แกว่งตัวในกรอบ 32.57-32.69 บาทต่อดอลลาร์) แม้ว่าเงินบาทจะมีจังหวะอ่อนค่าลงบ้าง
เงินบาทแข็งค่าขึ้่นเล็กน้อย
ตามการรีบาวด์ขึ้นของเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ จากความหวังว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน จะดำเนินไปได้อย่างราบรื่น หลังทั้งสองฝ่ายต่างเห็นชอบในกรอบการเจรจา (Framework) ที่จะลดความตึงเครียดทางการค้าลง ซึ่งภาพดังกล่าวได้หนุนให้บรรยากาศในตลาดการเงินสหรัฐฯ กลับมาอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง กดดันให้ราคาทองคำ (XAUUSD) ย่อตัวลงสู่โซนแนวรับระยะสั้นด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดี ในช่วงเช้าวันนี้ของตลาดการเงินฝั่งเอเชีย เงินบาทได้พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น ตามการทยอยแข็งค่าขึ้นของบรรดาสกุลเงินฝั่งเอเชีย ตอบรับความหวังการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับ จีน อีกทั้ง ราคาทองคำก็รีบาวด์สูงขึ้น
แนวโน้มของค่าเงินบาท
ในช่วงระหว่างวัน เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways ไปก่อน เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างก็รอลุ้นรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ ซึ่งจะทยอยรับรู้ในช่วงราว 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยเรามองว่า หากอ้างอิงจากสถิติย้อนหลัง 1 ปี ที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) อาจเคลื่อนไหวในระดับ +/-1 SD ราว +0.2%/-0.4% ชี้ว่า เงินบาทเสี่ยงแข็งค่าขึ้นได้พอสมควร
หากรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ออกมาต่ำกว่าคาด ซึ่งภาพดังกล่าวก็อาจทำให้ ผู้เล่นในตลาดทยอยปรับเพิ่มโอกาสที่เฟดจะสามารถเดินหน้าลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้ง ในปีนี้ ได้ (ล่าสุด ผู้เล่นในตลาดให้โอกาสราว 74% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยได้ 2 ครั้ง ในปีนี้)
ในทางกลับกัน หากอัตราเงินเฟ้อ CPI เพิ่มสูงขึ้น และออกมาสูงกว่าคาดชัดเจน ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดกังวลว่า เฟดจะยิ่งไม่รีบลดดอกเบี้ย ส่งผลให้ผู้เล่นในตลาดทยอยปรับลดโอกาสการลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง ของเฟดในปีนี้ ลง โดยภาพดังกล่าวอาจช่วยหนุนการปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ได้
นอกจากนี้ ความหวังต่อแนวโน้มการเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ อาจช่วยหนุนบรรยากาศในฝั่งตลาดการเงินเอเชีย ซึ่งอาจช่วยให้บรรดาสกุลเงินเอเชียทยอยแข็งค่าขึ้นบ้าง ทว่า ความไม่แน่นอนของการเจรจาการค้าดังกล่าวก็ยังคงมีอยู่ ทำให้ เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดควรเตรียมรับมือกับความผันผวนของบรรดาสกุลเงินเอเชีย หากผลการเจรจาการค้าไม่ได้เป็นไปตามที่ตลาดกำลังคาดหวังอยู่ และแม้ว่า บรรดาสกุลเงินเอเชีย อาจได้แรงหนุนจากความหวังการเจรจาการค้าดังกล่าว
แต่หากราคาทองคำปรับตัวลดลง หลุดโซนแนวรับระยะสั้น จากภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินโดยรวม ก็อาจเป็นปัจจัยที่กดดันเงินบาทฝั่งอ่อนค่าได้
การเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ อย่าง เงินบาทในช่วงระยะสั้นนี้ ยังคงสะท้อนถึงภาวะความผันผวนสูงเกินปกติของตลาดการเงิน ทำให้ เราคงเน้นย้ำความสำคัญของการใช้กลยุทธ์ในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะกลยุทธ์ Options และการพิจารณาใช้ Local Currency เนื่องจากบางสกุลเงิน อย่าง CNYTHB ก็มีความผันผวนที่ต่ำกว่า USDTHB อย่างเห็นได้ชัด
มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.45-32.75 บาท/ดอลลาร์
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ :
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา