การจับคู่ (Matching)
มาทำความเข้าใจเรื่อง “การจับคู่ (Matching)” ในทางคณิตศาสตร์กันแบบง่าย ๆ พร้อมตัวอย่างเข้าใจได้ในชีวิตประจำวัน 😊
📌 การจับคู่ (Matching) คืออะไร?
การจับคู่ คือ แนวคิดพื้นฐานในคณิตศาสตร์ โดยเฉพาะในเรื่องของ “เซต” และ “ความสัมพันธ์”
หมายถึง การจับสิ่งของในกลุ่มหนึ่ง (เช่น คน สิ่งของ ตัวเลข ฯลฯ) มา จับคู่ กับอีกกลุ่มหนึ่ง
โดยเงื่อนไขที่ว่า:
❗ “แต่ละสิ่ง จับได้กับเพียงหนึ่งสิ่งในอีกกลุ่มเท่านั้น (ไม่มีซ้ำ ไม่มีว่าง)”
🔸 ตัวอย่างง่าย ๆ:
🎒 ตัวอย่าง 1: เด็กกับกระเป๋านักเรียน
มีนักเรียน 3 คน: A, B, C
และมีกระเป๋า 3 ใบ: 1, 2, 3
ถ้า
A ได้กระเป๋า 1
B ได้กระเป๋า 2
C ได้กระเป๋า 3
แบบนี้เรียกว่า “การจับคู่ที่สมบูรณ์แบบ” เพราะแต่ละคนมีของ 1 ชิ้นพอดี ไม่มีเหลือ ไม่มีซ้ำ
🍽️ ตัวอย่าง 2: คนกับจานอาหาร
มีคน 3 คน: X, Y, Z
มีจานอาหาร 2 ใบ: A, B
หาก X → A, Y → B แล้ว Z ไม่มีจาน แบบนี้เรียกว่า
❌ ไม่ใช่การจับคู่สมบูรณ์ เพราะมีบางคน “ไม่มีคู่”
🔶 ประเภทของการจับคู่
การจับคู่สมบูรณ์ (Perfect Matching) ทุกสมาชิกของทั้ง 2 ฝั่ง จับคู่กันพอดี
การจับคู่บางส่วน (Partial Matching) บางตัวจับคู่ บางตัวไม่จับ
หนึ่งต่อหนึ่ง (One-to-One) แต่ละสิ่งจับคู่กับแค่ 1 สิ่ง และไม่ซ้ำ
✏️ ประยุกต์ในวิชาคณิต
การจับคู่ใช้ในหลายเรื่อง เช่น:
ฟังก์ชัน (Function): เป็นการจับคู่จากโดเมนไปเรนจ์
กราฟ (Graph): ใช้จับคู่จุดยอดกับเส้นเชื่อม
การคูณเซต (Cartesian Product): สร้างคู่ลำดับ
📌 สรุปสั้น ๆ:
“การจับคู่” คือแนวคิดในการ จับสิ่งของจาก 2 กลุ่มให้เข้าคู่กันโดยไม่ซ้ำ ไม่เหลือ
ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น จับคู่ถุงเท้า, คนกับเก้าอี้, นักเรียนกับห้องเรียน และใช้เป็นพื้นฐานในการเรียนฟังก์ชัน กราฟ และเซตในวิชาคณิตศาสตร์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
