Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เจแปน - แจนแปล
•
ติดตาม
12 มิ.ย. เวลา 10:13 • ข่าวรอบโลก
ในโลกของนักโทษประหาร การแต่งงานในเรือนจำเป็นทางเดียว ที่ยังสามารถเชื่อมโยงกับโลกภายนอกได้
แม้ในอดีตจะมีกรณีลักษณะนี้อยู่บ้าง
แต่สิ่งที่ทำให้กรณีของ “ เขา ” และซึบาสะ “ไม่เหมือนใคร”
คือการแต่งงานที่เกิดขึ้น…
หลังโทษประหารถูกตัดสินไปแล้วหลายปี
บางทีนี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่ง
ที่ทำให้เรือนจำโตเกียว
ลังเลอย่างยิ่งที่จะอนุญาตให้ทั้งสองได้พบหน้ากัน
เพราะสำหรับระบบ…
เขาคือ “นักโทษที่รอวันประหาร”
ไม่ใช่ “สามี” ของใคร
การแต่งงานครั้งนี้
นำมาซึ่งผลกระทบที่เขาเองก็ไม่ทันตั้งตัว
ก่อนหน้านี้
มีคนภายนอกจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้หญิง
ส่งเงินช่วยเหลือให้เขาเป็นประจำ
รวมแล้วเกือบสิบคน
แต่ทันทีที่ข่าวการแต่งงานถูกเผยแพร่
การส่งเงินทั้งหมด…หยุดลงทันที
สำหรับคนที่เคยส่งเงินเข้ามา
ข่าวการแต่งงานแบบเป็นทางการ
คงทำให้รู้สึกบางอย่าง…ที่ยากจะพูดออกมา
มันซับซ้อน
…จนไม่สามารถอธิบายเป็นคำได้ง่าย ๆ
⸻
เรื่องนี้ทำให้นึกถึงอีกคดีหนึ่ง
ทะคุมะ มะโมรุ
นักโทษประหารจากคดีแทงเด็กประถมที่โรงเรียนอิเคะดะ
ในช่วงที่กำลังจะมีคำตัดสิน
มีผู้หญิงสองคน
แสดงความประสงค์กับทนายว่าอยากแต่งงานกับเขา
หนึ่งในนั้นเป็นแฟนประจำนิตยสาร “โซ”
แต่สุดท้าย
คนที่ได้แต่งกับเขา…กลับเป็นอีกคนหนึ่ง
ในปี 2004
เพียงหนึ่งปีหลังคำตัดสิน
ทะคุมะก็ถูกประหารชีวิตอย่างรวดเร็ว
หญิงสาวที่แต่งกับเขา
เขียนบันทึกความรู้สึกไว้ยาวหลายหน้า
และ “โซ” ก็นำมาตีพิมพ์ฉบับเต็ม
ขณะเดียวกัน
หญิงอีกคนที่ไม่ได้รับเลือก
…ส่งจดหมายแสดงถึงความโกรธเกลียดอย่างรุนแรง
อาจจะเป็นความหึงหวง
อาจจะเป็นความเจ็บปวด
มันคือความรู้สึกที่ไม่สามารถตีกรอบด้วยเหตุผลทั่วไปได้
ดังนั้น เมื่อมีคนได้ยินว่า
เขาแต่งงานในเรือนจำ
แล้วบรรดาหญิงสาวที่เคยช่วยเหลือ
…ถอยห่างทันที
มันจึงชวนให้นึกถึงกรณีของทะคุมะอย่างแปลกประหลาด
⸻
ภาพวาดของทั้งคู่ — หนึ่งเป็นภาพวาดลายเส้น
อีกหนึ่ง…คือภาพสีน้ำมันแบบนามธรรม
⸻
เราจะลองแนะนำผลงานทั้งสองชิ้นไว้ตรงนี้
เริ่มจากภาพที่ “ เขา ” วาด “ภรรยา – ซึบาสะ”
เป็นภาพวาดลายเส้นที่ฝีมือจัดว่าดีทีเดียว
สีสันที่ใช้ และแววตาที่เขาใส่ลงไปในภาพ
…สื่อออกมาได้อย่างชัดเจน
ส่วนภาพที่ ซึบาสะ วาด “สามี” ของเธอ
เป็น ภาพสีน้ำมันแนวนามธรรม
ภายในนั้น
สะท้อนภาพในใจที่ซับซ้อน
จากความรู้สึกต่อการแต่งงานในเรือนจำ
เป็นงานที่ดูเงียบ
แต่มีบางอย่างค่อย ๆ ไหลออกมา
ทั้งสองภาพ
ถูกตีพิมพ์ลงใน นิตยสาร “โซ” ฉบับเดือนกรกฎาคม
ซึบาสะนำเล่มนั้น
ไปมอบให้สามีระหว่างการพบหน้า
…ทันทีหลังตีพิมพ์เสร็จ
แต่ปรากฏว่า
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น
กลับเป็นเรื่องไม่คาดคิด
เขา
เกิดความไม่พอใจ
เมื่อเห็นอีกภาพหนึ่งที่ตีพิมพ์อยู่ในหน้านั้น
เขาคิดว่า
ซึบาสะวาดภาพจินตนาการถึง “การประหารชีวิต” ของเขา
เขาโกรธ
แต่ซึบาสะบอกว่า
เขาเข้าใจผิดทั้งหมด
เพราะจริง ๆ แล้ว
ภาพนั้นคือ ภาพเหมือนตัวเธอเอง
แม้จะเป็นภาพนามธรรม
แต่มันเต็มไปด้วย “อารมณ์ไม่มั่นคง”
เธออยากสื่อถึงความรู้สึกภายในของตัวเอง
แต่สามี
กลับนำไปเชื่อมกับ “ความกลัว” ของตัวเอง
ที่มีต่อการประหารชีวิต
ความเข้าใจคลาดเคลื่อนนี้
กลายเป็นชนวนของความไม่เข้าใจระหว่างทั้งคู่
⸻
บันทึกการเยี่ยมของ “ซึบาสะ”
⸻
นอกจากบทความหลัก
นิตยสาร “โซ” ยังได้นำเสนอ
บันทึกการเยี่ยมเรือนจำ
ที่ซึบาสะเขียนด้วยตัวเอง
แต่เนื่องจากเนื้อหาค่อนข้างยาว
จึงยกมาเพียงบางส่วนที่เป็นตัวแทนความรู้สึกของเธอ
● 15 พฤษภาคม
ช่วงนี้
เซย์ซัง ดูสงบลงมากเลยค่ะ
ก่อนหน้านี้เขาก็เป็นคนอ่อนโยนอยู่แล้ว
แต่พักหลัง ๆ มา
สีหน้าและท่าทีของเขา ดูสงบลงมากขึ้นเรื่อย ๆ
ตอนเจอกันใหม่ ๆ
เขาเคยพูดชัดเจนว่า “คุณไม่ใช่คนพิการ”
…ถึงจะไม่ได้ถามเหตุผลว่าเพราะอะไร
แต่ในใจก็อดรู้สึกกังวลไม่ได้
ว่าเขาอาจไม่อยากแต่งงานกับคนที่มีความบกพร่อง
แต่ช่วงนี้ คำพูดที่เคยว่า “คุณไม่ใช่คนพิการ”
ค่อย ๆ เปลี่ยนมาเป็น…
“เรามารักษาโรคไปด้วยกันนะ มันต้องหายแน่นอน”
คำพูดนั้น
ทำให้ฉันดีใจมาก…แม้จะอยู่แค่ในใจ
เขาเริ่มระวังไม่พูดในสิ่งที่ฉันไม่อยากฟัง
หรือสิ่งที่อาจทำให้ฉันรู้สึกไม่ดี
แม้แต่ช่วงจบการพบหน้า
การวางมือแตะกันผ่านแผ่นอะคริลิกที่เคยบอกว่า “ไว้เจอกันนะ”
ก็เปลี่ยนมาเป็นคำว่า…
“เจอกันพรุ่งนี้นะ”
การโยนจูบที่เคยใช้แค่มือเดียว
ตอนนี้กลายเป็นใช้ “ทั้งสองมือ”
คำว่า “ฉันรักคุณ” ที่เคยฟังดูแข็ง ๆ
กลายเป็นคำธรรมดา ๆ ว่า “ชอบมากเลยนะ”
ช่วงเวลาแค่ 20 นาทีในการเยี่ยมแต่ละครั้ง
เลยรู้สึก “เร็วขึ้น สนุกขึ้น”
เหมือนเวลาผ่านไปเร็วกว่าเดิม
แม้ว่า เซย์ซังจะอายุมากกว่าฉันถึง 9 ปี
แต่ช่วงนี้…ฉันกลับรู้สึกว่าเขา “น่ารัก” และ “น่าทะนุถนอม” มากขึ้นเรื่อย ๆ
⸻
● วันเดียวกัน
“อยากให้ยายที่เสียไปแล้ว ได้เจอคุณจังเลย…”
เขาพูดแบบนั้น
เพราะยายเคยบอกว่าอยากรู้ว่าแฟนของเซย์ซังเป็นคนแบบไหน
ตอนเล่าให้ฟัง
เขายิ้มออกมา พร้อมเล่าว่า
ตอนเด็ก ๆ ยายเป็นคนที่ชอบทำให้เขาหัวเราะ
เป็นคุณยายที่ร่าเริงและอบอุ่นมาก
การได้ยินคนที่เรารัก
พูดว่า “อยากให้คุณได้เจอกับคนในครอบครัวของผม”
มันเป็นความรู้สึกที่…
…ดีใจมากจนพูดไม่ออกเลยค่ะ
⸻
การแต่งงานกับนักโทษประหาร
และความหมายที่ซ่อนอยู่หลากหลายประการ
⸻
ตลอดช่วงที่ผ่านมา
นิตยสาร “โซ”
ได้นำเสนอเรื่องราวของผู้หญิงที่แต่งงานกับนักโทษประหารหลายคน
เช่น ยูคิซัง ภรรยาของ นิอิมะ โทโมะมิตสึ
อดีตสมาชิก “โอมชินริเกียว” ผู้ถูกพิพากษาให้ประหารชีวิต
ซึ่งแต่งงานกันระหว่างอยู่ในเรือนจำ
บันทึกจากผู้หญิงเหล่านี้
กำลังจะถูกรวบรวมตีพิมพ์ในรูปแบบหนังสือ
ชื่อว่า “การเป็นครอบครัวกับนักโทษประหาร”
ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้
ตามที่เคยเขียนไว้ใน Yahoo News มาก่อน
การแต่งงานกับนักโทษประหารนั้น
เกิดขึ้นบ่อยกว่าที่สังคมคาดคิด
เหตุผลหนึ่งคือ…
เมื่อคำตัดสินโทษประหารออกมาแล้ว
นักโทษจะถูกตัดขาดจากโลกภายนอกทันที
ในสถานการณ์แบบนั้น
การแต่งงานในเรือนจำ
จึงกลายเป็น “สายใยบาง ๆ”
ที่ยังเชื่อมพวกเขาไว้กับสังคม
สำหรับนักโทษที่ไม่สามารถติดต่อใครได้
สิ่งนี้…อาจเป็นเพียงความหวังเดียว
ที่ทำให้พวกเขายังมีเหตุผลในการมีชีวิตอยู่
จากการอ่านทบทวนกรณีเหล่านี้
เพื่อใช้ในการจัดทำหนังสือ
สิ่งที่ชัดเจนยิ่งขึ้นคือ…
“การแต่งงานในเรือนจำ”
ยังสะท้อน ความย้อนแย้งลึก ๆ
ที่ซ่อนอยู่ในโทษประหารของญี่ปุ่น
⸻
ตามกฎหมาย
เมื่อโทษประหารถูกตัดสิน
ต้องมีการ “ดำเนินการภายใน 6 เดือน”
นั่นจึงอาจเป็นเหตุผล
ว่าทำไม…ตั้งแต่โทษถูกตัดสิน
นักโทษถึงถูกแยกขาดจากสังคมทันที
เพราะเชื่อว่า
ชีวิตของเขาจะจบลงภายในเวลาสั้น ๆ นั้น
แต่ในความเป็นจริง
ไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย
มีนักโทษประหารจำนวนมาก
ที่ใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำนานนับสิบปี
ทั้งที่โทษถูกตัดสินแล้ว
เพราะการประหารชีวิต
คือ “การฆ่าคนโดยรัฐ”
ไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้เสร็จตามขั้นตอนกฎหมาย…ได้อย่างง่ายดาย
⸻
⸻
แปลและเรียบเรียง: Janisa C.
โพสต์ครั้งแรกที่ เพจ เจแปน - แจนแปล
วันที่: 12 มิถุนายน 2025 | สงวนลิขสิทธิ์
📌 อ่านทั้งหมดในกลุ่ม สมาชิกแบบสมัครเข้า
ข่าว
ข่าวรอบโลก
ญี่ปุ่น
1 บันทึก
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย