12 มิ.ย. เวลา 15:59 • หุ้น & เศรษฐกิจ

รวบรวมสรุป อบรม The Influencer Financial & Investment Day 5 (24.05.2025)

มาถึงครึ่งทางกันแล้วกับการเรียนในสัปดาห์ที่ 5 ของโครงการ The Influencer โดยมีเนื้อหาที่เข้มข้นเกี่ยวกับพวกสินทรัพย์ดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็น Blockchain, Cryptocurrency, Token ที่แตกต่างจากสินทรัพย์การเงินแบบธรรมดาทั่วไป แล้วมีความเชิงลึกในเรื่องศัพท์ดิจิทัลต่างๆที่ต้องรู้ จึงเป็นเรื่องอาจจะต้องใช้เวลาในการศึกษาเข้าใจในลักษณะตรงหน่อย
ส่วนในช่วงบ่ายเป็นช่วงที่ต่อยอดจากเมื่อเช้านี้ จนมีน้อยคนที่มีความสนใจในเรื่องสินทรัพย์การเงินดิจิทัล บวกกับการเป็นอินฟลูเอนเซอร์/นักผลิตสื่อ มาถ่ายทอดประสบการณ์ในการผลิตคอนเทนต์สายการเงินด้านดิจิทัล รวมไปถึงการหาแหล่งข่าว และแนวทางในการเตรียมความพร้อมที่จะไปงานสัมมนา หรือ งานแถลงข่าว ควรทำอย่างไรบ้าง โดยนำมาสรุปในโพสต์นี้กันค่ะ
Morning Session - จิตตินันท์ ชาติสีหราช
Digital Asset อนาคตการเงินยุคใหม่
- Blockchain จึงเปรียบเสมือนเป็นคอมพิวเตอร์ที่จะต้องเปิดเข้าสู่ระบบของตัวเอง สามารถเก็บไว้คนเดี่ยว ไม่ได้กระจายไปคนอื่น แต่ Blockchain เป็นการเก็บระบบข้อมูลในเครือข่ายคอมอย่างเชื่อมโยงกันในทุกระบบมีการประมวลผลและเก็บเป็น Block ต่อๆกัน
- จุดเด่นหลักของเทคโนโลยี Blockchain ทำให้เกิดปลอดภัยจากคนใดคนหนึ่งที่จะไปแก้ไขข้อมูล ซึ่งแก้ไขได้ยาก ยกเว้นคนๆหนึ่งจะควบคุมโหนดทุกโหนด โดยโหนดทั้งหลายเป็นคนที่ไม่รู้จักกันทำให้จะทำให้มีความปลอดภัย จึงไม่สามารถแก้ไขได้ ในเวลาที่ลงบันทึกไปนั้นทำให้สามารถกลับมาได้ว่าเกิดขึ้นในช่วงเวลาไหนบ้าง
ดังนั้นจุดเด่นของ Blockchain คือ ตรวจสอบได้ และ ความไม่เชื่อใจกัน
จุดเด่นหลักของเทคโนโลยี Blockchain
1) โปร่งใส (Transparency)
2) ปลอดภัยจากการแก้ไข (Immutability)
3) ไม่มีตัวกลางควบคุม (Trustless)
4) ตรวจสอบย้อนหลังได้ง่าย (Auditability)
- Use Case ในเรื่องเรื่องความโปร่งใส และ Tracking ข้อมูล เช่น Supply Chain Management หรือ การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน ที่นำสินค้าวัตถุดิบจากประเทศหนึ่งส่งไปให้ผลิตประเทศหนึ่ง แล้วต้องการมีความโปร่งใสจึงต้องใช้ Blockchain ซึ่งสามารถเข้ามาใช้ในด้านต่างๆ เช่น การเงิน ประกัน ความบันเทิง ลิขสิทธิ์ เป็นต้น
Blockchain with Smart Contract
ธุรกิจการเงินเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่สามารถใช้ Blockchain เข้ามาประยุกต์ใช้ เป็น Use Case แรกที่ใช้คือ Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลแห่งแรกถือกำเนิดในปี 2009 ถือเป็นตัวกลางในการเอามาแลกเปลี่ยนกันในเงินดิจิตอล ในการพัฒนาการของด้านการเงิน Blockchain นั้น
ต้องมีโปรแกรมในการสร้างแอปพลิเคชันด้านการเงินขึ้นมาจนเกิดขึ้นเป็น Ethereum สร้างขึ้นเพื่อรองรับผลิตภัณฑ์ทางการเงินหลายรูปแบบ เกิดขึ้นมากับ Smart Contract โดยใช้สกุลเหรียญ ETH (Ether) นอกจากนี้ Blockchain ยังสามารถเกิดขึ้นชนิดอื่นมากมายในการพัฒนาตาม Infrastructure
- Smart Contract เป็นสัญญาดิจิทัลทำเงินอัตโนมัติเมื่อเข้าเงื่อนไข โดยไม่ต้องใช้คนกลาง ซึ่งสามารถใช้ได้ Use Case เช่น ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยใช้คำนวณในเรื่องผลตอบแทนว่าใครลงทุนเท่าไร ที่จะต้องมีส่วนแบ่งรายได้จากอสังหา ในการใช้ Smart Contract เข้ามาสั่งในการแจกจ่ายรายได้ผู้ถือ Token ทุกสิ้นเดือนแบบไม่มีคนกลาง
- ขาย Token – เมื่อผู้ชำระราคาครบ Smart Contract จะส่งโทเคนผู้ซื้อโดยอัตโนมัติ
- ให้กู้ยืมเงิน - ถ้าวางหลักประกันครบ - ระบบปล่อยกู้ทันที
- แจกสิทธิ์ / แต้มสะสม (Loyalty Point) – ครบใช้งานตามเงื่อนไข - โอนแต้มอัตโนมัติ
- Digital Asset - หน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ถูกสร้างเพื่อ เป็นสื่อกลางแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ กำหนดสิทธิรูปแบบต่างๆ ซึ่งสินทรัพย์ดิจิทัลเป็น Asset อย่างหนึ่งที่สร้างขึ้นแล้วต้องมีวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น ใช้เป็นเงิน Bitcoin
Cryptocurrency VS Token Digital
คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) เป็นหน่วยข้อมูลสร้างระบบหรือเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีวัตถุประสงค์เป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยนสำหรับสินค้า บริการ สิทธิ์อื่นๆ หรือสินทรัพย์ดิจิทัล
โทเคน (Token Digital) เป็นหน่วยข้อมูลสร้างระบบหรือเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ สิทธิในการลงทุน (Investment Token) และสิทธิในการแลกเปลี่ยน (Utility Token) โดยมีวัตถุประสงค์ขึ้นอยู่กับประเภทโทเคน เช่น สิทธิบุคคลการร่วมลงทุน สิทธิการได้ซึ่งสินค้าและบริการ และถามตกลงผู้ออกโทเคน
โดยทั้งคริปโตกับโทเคน ได้รวมหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ชนิดอื่นๆ ตามที่ ก.ล.ต. กำหนด
- ในส่วนของ Investment Token นั้น ทาง ก.ล.ต. ต้องการการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นอยากให้มีความชัดเจนขึ้นว่าต้องการลงทุนกับสินทรัพย์ในรูปแบบไหน พร้อมกำหนดส่วนแบ่งรายได้และผลตอบแทนในรูปแบบต่างๆ นักลงทุนจะต้องเอาเงินทำอะไรได้บ้าง ซึ่งดำเนินการแตกต่างกับหุ้น
6 ประเภทสำหรับ Investment Token
- Project Based Ico เป็นการระดมทุนโดยการนำเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อพัฒนาในรูปแบบโครงการต่างๆ ตามแผนธุรกิจ โดยให้ผลตอบแทนการลงทุนมาจากส่วนแบ่งรายได้จากโครงการต่างๆ ตามแผนธุรกิจ
- Real Estate – Backed Ico เป็นการระดมทุนในการเสนอขายโทเคนดิจิทัลที่มีสินทรัพย์อ้างอิงหรือมีกระแสรายรับจากอสังหาฯ ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ หุ้นไม่น้อยกว่า 75% ของนิติบุคคลเฉพาะกิจที่ครอบครองอสังหาฯ และ สิทธิการเช่าอสังหาฯ
- Infra – Backed Ico เป็นการระดมทุนโดยการนำเสนอขายโทเคนที่มีลงทุนในโครงการ โครงสร้างพื้นฐานที่อยู่ในระหว่างดำเนินการหรือดำเนินการเสร็จแล้ว เช่น ระบบขนส่ง ระบบบริหารจัดการน้ำ สนามบิน ท่าเรือน้ำลึก โทรคมนาคม พลังงานทางเลือก ระบบจัดการของเสีย เป็นต้น
- DEBT-Linked Token เป็นการระดมทุนในการนำเสนอขายโทเคนดิจิทัลในการกำหนดอัตราผลตอบแทนหลักไว้แน่นอน โดยผู้ระดมทุนต้องให้ ICO Portal หรือผู้เชี่ยวชาญอิสระ ประเมินความน่าเชื่อถือของโครงการ และเปิดเผยปัจจัยใช้ในการพิจารณา
- Sustainability Themed Token เป็นการระดมทุนโดยการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อลงทุนในโครงการที่ส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว พวกโครงการด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การปลูกป่าเพื่อลดก๊าซเรือนกระจก เป็นต้น
- Soft Power Token (ICOS Shelf Filing) เป็นการระดมทุนในการเสนอขายโทเคนที่ลงทุนในอุตสาหกรรม Soft Power เช่น ดนตรี ภาพยนตร์ ละคร ศิลปะ เป็นต้น โดยต้องขออนุญาตจาก ICO แบบกลุ่ม ซึ่งผู้ได้รับอนุญาตสามารถเสนอขายโทเคนได้ โดยไม่จำกัดมูลค่า และจำนวนครั้งที่เสนอขาย ภายใน 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับอนุญาต
ตัวอย่าง Investment Token ที่ออกเสนอขายในประเทศไทย มีดังนี้
- SiriHub Token เป็นการลงทุนให้ได้มาซึ่งกลุ่มอาคารสำนักงาน สิริแคมปัส เพื่อลงทุนในหุ้น และโอนเข้าไปเป็นทรัพย์สินในกองทรัสต์
- Destiny Token ใช้สำหรับโครงการภาพยนตร์ เช่น บุพเพสันนิวาส 2 ในการผลิตงานส่วนต่างๆ เช่น การตลาด โปรดักชั่น ช่องทางจัดจำหน่ายภาพยนตร์ และจัดหาสิทธิประโยชน์แก่ผู้ถือประเภทนี้ สามารถเป็นตัวแทนที่เป็นตัวเงินกับผลตอบแทนเป็น Utility จะเรียกว่า Hybrid Token
- RealX เหมาะสำหรับนำเงินที่ได้จากการระดมทุนเพื่อกระแสรายรับจากห้องชุดบางส่วนของโครงการพาร์ค ออริจิ้น สาขาพร้อมพงษ์ พญาไท และ ทองหล่อ และ 1 โทเคนดิจิทัล RealX เสมือนการครอบครองสิทธิ์รายได้เหรือผลตอบแทนจากบริหารผู้ให้เช่า
- Summer Point กระแสรายรับจากโครงการสำนักงานซิมเมอร์พ้อยท์ โดยมี 2 ส่วนหลัก คือ ลงทุนในสัญญา RSTA ระหว่างผู้ออกโทเคนดิจิทัลและบริษัท และ ลงทุนในหุ้นของ BPKN3 คิดเป็น 100% และโอนหุ้นให้ทรัสต์เพื่อเป็นทรัพย์สินใช้สำหรับชำระค่าใช้จ่ายทำธุรกรรม และเงินทุนหมุนเวียนโดยผู้ออกโทเคนดิจิทัล
Utility Token เป็นการให้สิทธิแก่ผู้ถือในการเสนอพัฒนาสินค้าและบริการ หรือสิทธิ์อื่นเฉพาะเจาะจง โดยแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ แบบพร้อมใช้และไม่พร้อมใช้
- แบบพร้อมใช้ เป็นโทเคนพร้อมให้ผู้ถือสามารถใช้ประโยชน์ได้ แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ ใช้วัตถุประสงค์หลักเพื่อการอุปโภคบริโภค เช่น Influencer Youtuber ศิลปะ รูปภาพ เพลง ทำในรูปแบบ NFT และ โทเคนใช้แทนใบรับรอง (Certificate) เช่น ใบรับรองพลังงานทดแทน หรือ Carbon Credit แต่ไม่ได้รับรองจาก ก.ล.ต.
- แบบพร้อมใช้ในลักษณะอื่นที่นอกเหนือจากกลุ่มที่ 1 คือให้สิทธิเข้าถึงสินค้าและบริการในเครือข่ายอิเล็กทีอนิกส์มีการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายใช้งาน เช่น Native/Governance Token, Utility Token โครงการ DeFi/CeFi, Exchange Token โดยใช้ค่าธรรมเนียม แต่ไม่ต้องรับอนุญาตเสนอขายเช่นเดียวกับ Utility Token แบบกลุ่มที่ 1 ยกเว้นกรณีสำคัญ Issuer ที่ต้องไปจดทะเบียนซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลผ่าน ก.ล.ต. สามรถไปเสนอขายได้
- Token ไม่ได้มีการจัดระบบเรทติ้งมารองรับ สามารถเป็นบริษัทจำกัด/บริษัทมหาชนได้ แต่ต้องจัดตั้งประเทศไทยเท่านั้น ต้องผ่านด่านหลายด้านในการทำ Token เป็นเครื่องมือก่อนยัง Responsible มากเป็นโครงการเฉพาะเจาะจง ใช้ Concept Project ไฟแนนซ์ซิ่ง
ประเภทของโทเคน (Types of Token)
- Investment Token เป็นโทเคนดิจิทัลประเภทหุ้น ตราสารหนี้ ที่สามารถให้สิทธิในการร่วมลงทุนในโครงการ ผู้ถือได้รับสิทธิการรับผลตอบแทนจากการลงทุน เช่น ส่วนแบ่งกำไรหรือสิทธิในการโหวต
- Utility Token เป็นโทเคนเหมือนบัตรกำนัลดิจิทัลที่สามารถซื้อสินค้าและบริการได้ในการแลกเปลี่ยนสินค้า
- Fungible Token เป็นประเภทเหมือนเหรียญสกุลเงินดิจิทัลทั่วไป สามารถแลกเปลี่ยน/ทดแทนกันได้ เช่น Bitcoin กับ Ethereum
- Non-Fungible Token หรือเรียกสั้นๆว่า NFT ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่สามารถทดแทนกันได้ และมีลักษณะเฉพาะตัวเช่น NFT รูปภาพ ศิลปะ เพลง ภาพยนตร์ เป็นต้น
- NFT Artwork สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ เช่น
Beeple Everyday – The First 5000 Day
Beeple Crossroad
Kevin Abosch, Forever Rose
นอกจากนี้ยังสามารถทำ Investment Token NFT ได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเคส NFT Restaurant, Kunang Kundang Resort RTS NFT
- Tokenization เป็นกระบวนการแปลง “สิ่งที่มีมูลค่า” หรือ “สิทธิในทรัพย์สิน” ให้อยู่ในรูปแบบของโทเคนสามารถซื้อขายหรือโอนกันเองได้ผ่าน Blockchain เช่น สินทรัพย์ทางการเงิน / โภคภัณฑ์ / สินทางปัญญา / อสังหาฯ / อื่นๆ สิทธิเข้าร่วมกิจกรรม, คาร์บอนเครดิต, Loyalty Point
- ก.ล.ต. ได้กำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล ทันพัฒนาที่เปลี่ยนแปลงไป (ระยะกลาง) ซึ่งตอนนี้ โทเคนดิจิทัลลักษณะการระดมทุน (Investment + Utility Token ไม่พร้อมใช้) กำลังเข้าสู่ในกระบวนการกฎหมายที่ พ.ร.บ. หลักทรัพย์ นั้นยังแยกอยู่กับ พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ เพื่อให้อยู่ในกฎหมายกำกับจะโยกไปอยู่เดียวกันกับตราสารการลงทุนเดิม
การระดมทุนและตลาดรอง
1. การระดมทุน (Primary Market)
- การออกบริษัทจำกัด/บริษัทจำกัดมหาชนจะต้องออกทางโทเคนขายผ่าน ICO แล้วผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนในการคัดกรองโครงการก่อนนายขออนุญาตจาก ก.ล.ต. ก่อนเข้าสู่กระบวนการการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (Secondary Market)
2. การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (Secondary Market)
- ผู้ที่ต้องการคริปโทฯ หรือ โทเคนดิจิทัล นำไปซื้อขายแลกเปลี่ยนผ่าน ศูนย์ซื้อขาย, นายหน้า และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล ผ่านกระบวนการไปถึงผู้ลงทุนในโทเคนจะได้รับผลตอบแทน สินค้า/บริการตามที่กำหนด ซึ่งบางอย่างกฎไม่ได้ลิสต์ในตลาดรอง
- ใครลงทุน ICO ได้บ้าง ได้แก่นักลงทุนสถาบัน, นิติบุคคลร่วมลงทุน/กิจการเงินร่วมทุน, นักลงทุนรายใหญ่/พิเศษ และ นักลงทุนทั่วไป (ลงทุนได้ไม่เกิน 300,000)
- ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย
โดยมีหลายประเภทพร้อมองค์กรที่รองรับสินทรัพย์ดิจิทัล มีดังนี้
ศูนย์ซื้อขาย เช่น InnovestX, TDX, Bitkub, BinanceTH เป็นต้น
โปรกเกอร์ เช่น InnovestX, XSpring, Z.com, Bitazza, BinanceTH เป็นต้น
ICO Portal/Tokenization เช่น TokenX, KubX, XSpring Bitkub เป็นต้น
ผู้จัดการเงินทุน เช่น Orbix Invest และ Merkle Capital
ผู้ค้า เช่น XSpring, Mobyx เป็นต้น
รับฝาก เช่น RakkaR, Orbix เป็นต้น
ที่ปรึกษา เช่น Cryptomind, Coindee
เทคโนโลยีบล็อกเซน เช่น TokenX และ Orbix
- การเปรียบเทียบสินทรัพย์ดิจิทัล Blockchain ในการจัดการและการดำเนินการทางการเงินที่แตกต่างกัน โดยมีลักษณะในแต่ละประเภท ดังต่อไปนี้
DeFi (Decentralized Financial) เป็นการเงินแบบกระจายอำนาจ โดยมีเป้าหมายกำจัดตัวกลางออกจากกระบวนการเงินต่างๆ สามารถเข้าถึงในการใช้งานได้ง่ายและสะดวก มีความโปร่งใสในการทำธุรกรรมที่เก็บบันทึกเอาไว้ สามารถตรวจสอบได้ และสามารถคุมสินทรัพย์เอง
CeFi (Centralized Finance) เป็นการเงินแบบรวมศูนย์ ที่ดำเนินการผ่านสถาบันหรือบริษัทที่เป็นตัวกลางแบบเดียวกับระบบการเงินแบบดั้งเดิม โดยมีตัวกลาง กำกับดูแล และผู้ดูแลสินทรัพย์
CeDeFi (Centralized Decentralized Finance) แบบองค์รวมทั้งรวมศูนย์และกระจายอำนาจ ซึ่งรวม CeFi และ DeFi ไว้ด้วยกัน เพื่อสร้างระบบการเงินคริปโตอย่างมีความสมดุล ช่วยความสะดวกสบาย ปลอดภัย และการกำกับดูแลของ
CeFi ควบคู่กับ นวัตกรรม ความโปร่งใส และการเข้าถึงของ DeFi ที่สามารถใช้งานร่วมกันได้ ดูแลกำกับดูแลการเงินได้ เช่น KYC เป็นคนไม่ได้ตั้งใจมาโกงความสามารถ Centralized บางส่วนได้ Centralized – Investor สามารถทำธุรกรรมของตัวเองได้
Crypto Owners VS Traditional Payment Networks
- 15 ปี หลังเปิดตัว Bitcoin ปี 2009 ถือครองคริปโตทั่วโลกเพิ่ม 560 ล้านคน อัตราเติบโตเร็วกว่า เครือข่ายชำระเงินแบบดั้งเดิม ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ในช่วงปี 2018-2023 มีผู้ถือครองคริปโทอย่างเติบโตก้าวกระโดด แต่ประชากรถือคริปโทยังมีสัดส่วนน้อยมาก 6.8% ของประชากรทั่วโลก
- ในปี 2023 จำนวนผู้ถือครองคริปโท เพิ่มขึ้น 33% แตะระดับ 34% ส่วนใหญ่อายุ 24-35 ปี เป็นผู้ชาย เล่นคริปโท ส่วนประเทศไทย มีผู้ถือครองคริปโทมากที่สุดอยู่อันดับ 5 ของโลก รองจาก อาเจนตินา ตุรกี สิงคโปร และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
Tokenization Market Overview
- คาดการณ์ตลาดสินทรัพย์แนวโน้มถูก Tokenized มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 0.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2025 เป็น 18.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2033 จะเพิ่มอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 53%
- ภายในปี 2030 – 2035 ถูก Tokenized สามารถแตะหลายหลักสิบล้านล้านดอลลาร์
- แนวโน้มถูก Tokenized เช่น ตราสารหนี้ (Bonds), กองทุนรวมและกองทุนตลาดเงิน (Fund) ทำเงินตราดิจิทัล (Digital Currencies) ตราสารทุน (Equities), สินทรัพย์ทางเลือก (Alternative Assets) เช่น อสังหาฯ ศิลปะ ฯลฯ
Thailand Tokenization
- เพิ่ม Invest Token เป็นสินทรัพย์กองทุนสามารถลงทุนได้ โดยมีอัตราส่วนการลงทุน เช่นสินทรัพย์การลงทุน เช่น หุ้น ตราสารหนี้ หุ้นกู้ อนุพันธ์ เป็นต้น ซึ่งมีลักษณะความเสี่ยงคล้ายกัน
 
- แนวโน้ม ปรับปรุงหลักเกณฑ์เปิดผู้ประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้า และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล สามารถให้บริการ Tokenized Cabon Credit และ Tokenized Renewable Energy Certificate (REC) และ Tokenizd Carbon Allowance เพื่อเพิ่มช่องทางการเลือกรับบริการผู้ลงทุน
- ขยายบัญชีรายชื่อคริปโท เพิ่ม USOT และ USDC ทำธุรกรรม ในการชื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้
- ผู้ออกเสนอขายโทเคนดิจิทัล (Issuer) สามารถรับคริปโทเป็นรูปแบบการตอบแทนได้
- โปรเจค G-Token (พรรคเพื่อไทย) เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลรูปแบบใหม่ที่มีความมั่นคง ผลตอบแทนสูง สามารถซื้อขายผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ โดยร่วมกับ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) อยู่ภายใต้ก.ล.ต. โดยมีเป้าหมายเพิ่มสภาพคล่องในตลาดรอง เพิ่มการออมสำหรับคนไทย ยกระดับความปลอดภัยและโปร่งใส ยังเป็นการช่วยสนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัลในไทยได้อีกด้วย โดยโครงการนี้ได้เสนอผ่านครม. ยังอยู่ในระหว่างดำเนินการ (ข้อมูลจาก The Standard)
- คริปโตเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำกับดูแล ถ้าเอาคริปโตออกมาใช้อาจจะต้องไปเข้าข่ายกำกับดูแลของแบงค์ชาติ ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้รับอนุญาตในสิ่งนี้ที่เผยแพร่คริปโตได้
- มองภาพ Pilot มองตลาด หรือ เข้าใจอะไรบางอย่างแรงผลักดัน ปัจจุบันคนทั่วไปจะไปซื้อได้
Afternoon Session - ชัชชญา อังคุลี
Content Creation in Digital Asset
Part 1 วิธีคิดแบบนักข่าว ก่อนลงมือทำคอนเทนต์
1 มีคนคว้าโอกาสและ Take Off
- ท็อป จิรายุส ทรัพย์ศรีสุข CEO ของ BitKub และ อ.ตั๊ม พิริยะ สัมพันธารักษ์ ทั้งสองเป็นผู้บุกเบิกคนสำคัญที่ช่วยสร้างโอกาสและการเติบโตของคริปโทในประเทศไทยโดยผ่านนำเสนอแพลต์ฟอร์มที่เข้าถึงได้และให้ความรู้แก่คนไทย
2 มีคนพลิกโอกาส เป็นวิกฤติ
- ในขณะที่ใช้โอกาสทำให้เกิดวิกฤติได้ เช่น เคสข่าว ZipMex ระงับการถอนเหรียญ / FTX ล้มละลาย / Voager ล้มละลายเนื่องจากมีสภาพคล่องที่ไม่เพียงพอต่อการดำเนินงาน / Three Arrows Capital (3AC) ล้มละลาย ปกป้องสินทรัพย์ตนตามกฎหมาย เป็นต้น
3 โอกาสยังมีอีกมาก ตลาดยังเล็ก
- Bitcoin 2 trillion Dollars หรือคิดเป็น 0.22% เมื่อเทียบเท่ากับสินทรัพย์การลงทุนทั่วไปภายใน 20 ปี ภายในปี 2045 มีโอกาสโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด ดังนั้นโอกาสตรงนี้ยังมีอีกมากสำหรับทุกคนที่จะเข้ามาในวงการคริปโท
- กลต. เผยสินทรัพย์ดิจิทัลไทย 7.83 หมื่นล้าน ซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 1.74 พันล้านบาท คิดเป็น 4-5% เทียบตลาดหุ้นไทย
ฝึกเป็นคุณหนูเอ๊ะ?
โดยมี 3 ประเด็นสำคัญที่ฝึกความสงสัย คือ
- สงสัยไว้ก่อน เช่น ออนไลน์โซเชียล Press แหล่งข่าว - การใส่ใจกับผู้อื่นเป็นสิ่งสำคัญมากๆที่มีคุณสมบัติเบื้องต้นในการเป็นสื่อ อย่าเพิ่งเชื่อทั้งหมดจากตามแหล่งข่าว ก่อนว่าต้องสงสัยก่อนตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร โดยต้องถามเพิ่ม หรือตรสจสอบข้อมูลหลายด้านก่อนจะได้เผยแพร่ข้อมูลข่าว
- ถ้าเราไม่ตรวจสอบ ฐานันดรที่ 5 จะต้องตรวจสอบเราเอง – ตั้งแต่มีสื่อโซเซียลอย่าง Facebook Twitter (X) YouTube ประชาชนหรือคนที่ติดตามตรวจสอบสื่อมวลชนตลอดเวลา ถ้าไม่มีจรรยาบรรณ หรือ นำเสนอข้อมูลเท็จ ซึ่งจะต้องดูละเอียดอย่างเข้มงวดในการตรวจสอบสื่อ
- ตัวอย่างข่าว ก.ล.ต. USDT - กรณี ก.ล.ต. ไม่ได้อนุมัติ USDT ให้ชำระสินค้าและบริการ ใช้ทำธุรกรรมสำหรับ Token และ Exchange จากกรณีนี้มี 2 ประเด็นที่สงสัยคือ
สงสัย 1 เคยออกข่าวมาอยู่แล้ว
สงสัย 2 เช็คกับกลต ควรตรวจสอบก่อนที่จะรายงานข้อมูล
เตรียมตัวแบบมืออาชีพ ไปทำข่าว ไม่ใช่แค่ อยู่ในงาน
- เตรียมประเด็นก่อนไปงาน – ทุกคนมีเวลาที่เท่ากัน จึงควรเตรียมความพร้อมที่จะไป 1 งาน ที่จะต้องเก็บข้อมูล เวลาที่เจอกับคนสำคัญ
- ไม่ใช่แค่นั่งฟัง แต่ต้องตั้งคำถาม - เราต้องทำการบ้านเตรียมประเด็นคำถามไว้ก่อนที่อยากจะรู้เพิ่มเติมเพื่อเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุน จึงลิสต์คำถามในการใช้โอกาสให้คุ้มในการไปงานที่สำคัญ
- Press Released - เอกสารข้อมูลส่วนเสริมที่จะช่วยเข้าใจจากประเด็นที่ให้มา
- ไปงานเดียว ได้คอนเทนต์หลากหลาย - ไปแล้ว สามารถคิดคอนเทนต์ได้หลากหลายที่จะนำไปเสนอเรื่องราวผ่านแพลต์ฟอร์มสื่อต่างๆ เช่น ทำคลิป บทความ รูปภาพ Infographic เป็นต้น
- จากที่เราไปฟังสัมมนา ในระหว่างงานควรเตรียมประเด็นก่อน แล้วค่อยไปคุยทีหลัง หลังจากสัมมนาเสร็จ พอมีเรื่องค้างคาใจของตัวเองนั้น ต้องจดในสิ่งที่พวกเค้าพูดในงานให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ แล้วอาจจะต้องนัดคุยส่วนตัวในภายหลัง
ไปถึงก่อน กลับทีหลัง – ของดีอยู่นอกเวทีแถลง
- คนวงใน, เบาะแส, ข้อมูลเฉพาะ มักได้ตอนนอกเวที - อยากรู้เรื่องราวมากกว่านั้นที่นอกเหนือจากสคริปที่ให้มา หรือในเวทีสัมมนา จึงมีโอกาสได้พูดคุยกับบุคคลสำคัญ แล้วสะดวกในการพูดคุยอย่างเต็มที่
- การไปถึงก่อน เปิดโอกาสคุยกับ Key Person ลึกๆ / ได้รู้จักแหล่งข่าวเพิ่มไม้ 1 ไม้ 2 - ไปถึงก่อนควรเช็คก่อนว่ามีผู้บริหารท่านไหนมาบรรยายในประเด็นด้วยไหม ควรเตรียมประเด็นคำถามให้เข้ากับงาน และบุคคลที่อยู่ระดับตำแหน่งต่างๆ แล้วแต่ตามความเหมาะสมและบริบของบุคคลนั้นๆ
“ของดีอยู่นอกเวทีแถลง หน้าห้องน้ำ หน้างาน หลังไมค์”
- ชาชา เล่าประสบการณ์ในการตามติดผู้ว่าแบงค์ชาติ ในเรื่องที่สำคัญ ถึงต้องตามติด พร้อมสำนักข่าวมากมายที่จะต้องมีการใช้เครื่องเสียงบันทึก มีหน้ากล้อง เขียนจดบันทึก แล้วไปเชื่อมกับสำนักข่าวของตัวเองเพื่อเตรียมเขียนประเด็นข่าว ซึ่งเป็นกระบวนการที่จะต้องแข่งขันในการทำข่าวแบบเรียลไทม์ในสมัยนั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความท้าทายและความกดดันอยู่พอสมควรในการเป็นสื่อ
- นอกจากเวทีสัมมนาแล้ว ยังสามารถพูดคุยกับผู้คนตามพื้นที่ต่างๆในหลังไมค์ หรือแม้กระทั่งมีคนชวนมานั่งร่วมวงคุยกันในห้องลับ เลี้ยงข้าว ห้องน้ำ หรือ พื้นที่ต่างๆ ตามที่นัดหมาย ถือเป็นการสร้าง Connection ในการมีความสัมพันธ์กับบุคคลมากขึ้น
รู้เขา รู้เรา - ทำการบ้าน
- ใครมาในงาน ดูเรื่องอะไร Background Character
รู้ในลักษณะของบุคคลนั้นเป็นคนอย่างไรบ้าง เช่น นิสัย ตำแหน่ง จากแหล่งข่าว และติดตามดูจากในคลิปได้ 100 คลิป เพื่อจะได้เรียนรู้ทางอ้อมในการรู้ลักษณะของบุคคลนั้นทั้งๆที่ยังไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว หรือ ยังไม่เคยเจอตัวจริงมาก่อน
- เล็งคำถามตรงเข้า อ่านกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลให้เข้าใจ
ถามตรงประเด็น และได้ใจความ ต้องทำการบ้านให้เยอะก่อนเตรียมไปงาน แล้วต้องอ่านกฎหมายเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเข้าใจ ตอนไปงานสัมมนาหรืองานแถลงข่าวสามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
Part 2 หา Idea แหล่งข่าว และตรวจสอบข้อมูล
การหาแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ
- ข่าวแปล เช่น Bloomberg, Reuters, CNBC, CoinDesk
- ข่าวเรียบเรียง เช่น แบงค์ชาติ, ก.ล.ต., Website หรือ Social Media ใน Official ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- ข่าว Exclusive กับผู้เชี่ยวชาญ เช่น BTC, Privacy Coin, Blockchain, DeFi, GameFi, Meme
- บทความ เช่น Messari, Chainalysis, CoinGecko, Grayscale, Bitwise เป็นต้น
- หนังสือชี้ชวน / แบบ Filing
- สรุปภาวะตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลรายเดือน
- อัปเดตรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจ DA
“ระมัดระวังความถูกต้องของข้อมูลกรณีที่ใช้ AI ช่วยงานด้านคอนเทนต์”
ใช้เป็นผู้ช่วยมากกว่าที่พึ่ง คนจะต้องรู้เรื่องนั้นจริงๆ อย่าเชื่อ AI ทั้งหมด
เทคนิคเช็กข่าว-เช็คแหล่งแบบนักข่าว
Primary Source - เช็กแหล่งข่าวต้นทางจริง เช่น เวทีแถลง, เอกสารจริง, คลิปจริง อยากให้ดูจากแหล่งข้อมูลข่าว รวมไปถึงเจาะลึกต้นฉบับว่าเป็นอย่างไร ว่ามีเนื้อหาค่อนข้างตรงไหม ก่อนจะเผยแพร่ข่าวสู่สาธารณะ
Cross-Check - เทียบหลายสำนัก เพื่อดูความสอดคล้องของข้อมูล ตรวจสอบความรอบคอบว่าตรงข้อมูลหรือไม่ในการเทียบกับหลายสื่อ
On-Chain Check - ดูข้อมูลจริงบน Blockchain แบบ Real-Time ด้วยตัวเอง โดยตรวจสอบจากข้อมูลที่สามารถเช็คได้เอง กับ เว็ปไซต์ โดยไม่ต้องพึ่งแหล่งข่าวจากที่อื่น
Part 3 จับข่าวเป็น เล่าเรื่องเก่ง แบบนักข่าวมือโปร
สร้าง Trust อย่างมืออาชีพ
- ใช้ระยะเวลาสะสมผลงาน
ใช้เวลาในการสะสมผลงานอย่างต่อเนื่องและความน่าเชื่อถือ ด้วยการการเพจในเนื้อหาที่สนใจ หรือ ผลิตสื่อต่างๆ สามารถสร้างเป็นอาชีพของตัวเองได้ รวมไปถึงรวบรวมผลงานเพื่อรองรับในการประกอบการสมัครงาน หรือ นำเสนอให้กับลูกค้าที่สนใจเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตร
- Trust ไม่ได้เกิดข้ามคืน แหล่งข่าวเป็นคน “ยืนยันตัวเรา”
ความเป็นตัวของตัวเอง สามารถสร้างความจริงใจให้กับผู้อื่นได้ ในช่วงเวลาที่ทำคลิป แล้วมีความพยายามที่จะถ่ายทอดความรู้ของตัวเองไปสู่คนอื่นที่อยากเติมเต็มในการสะสมผลงาน
- วางตัวให้เหมาะกับหมวก “ของตัวเอง”
เน้นความน่าเชื่อถือ และ สร้างหลายอาชีพที่จะสวมหมวกตัวเอง เช่น PR นักข่าว Influencer เป็นต้น
- นักข่าวอาจมีบทบาท Influ/KOL แค่ยึดหลัก “จริยธรรมสื่อ”
คนเราต้องมีความน่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไรก็ตามเพียงแค่เราเป็นผู้ส่งสารออกไปทำให้สามารถอยู่อย่างยั่งยืนได้ แล้วต้องยึดในความเป็นจริยธรรมและจรรยาบรรณสื่อด้วย
- คิดแบบนักข่าว เห็นเรื่องไว จับประเด็นเร็ว การเป็นนักข่าวในยุคดิจิทัลต้องอาศัยทักษะค้นหาและวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อจะได้จับประเด็นในการทำข่าว การหาแหล่งข่าวที่น่าเชื่อและทำความเข้าใจข้อมูลของธุรกิจบริษัท ถือเป็นหัวใจสำคัญในการเป็นนักข่าวได้ เช่น ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก.ล.ต. แบงค์ชาติ สื่อ Social Data และ จากสำนักข่าวและวารสาร
Part 4 ใช้แก่นนักข่าว สร้างตัวตนที่น่าเชื่อถือในโลกดิจิทัล
โครงสร้างการเขียนข่าว (News Pyramid)
Headline สั้น ง่าย ใช้ภาษาตรงจริต
Lead 5W (Who What Where When Why)
Body เนื้อหา
Storytelling แบบข่าว “เล่าข้อเท็จจริง ให้มีลมหายใจ”
พาดหัวสั้น และง่าย ใช้ภาษาตรงจริต
หลักการจับประเด็นข่าว Press
1) ข่าวนั้นมุ่งเข้าไปที่ นลท / ผู้ประกอบการธุรกิจ
2) สาระสำคัญ “ประกาศ/ขอความเห็น/ชี้แจง/เดือน ฯลฯ
3) ดึงสาระสำคัญเป็น Headline ใช้ภาษาสั้น ง่าย ตรงจริต
กุญแจนักข่าวยุคดิจิทัล
การเป็นนักข่าว ผู้ส่งสาร หรือใครก็ตามที่อยากถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆสู่ภายนอกนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต พิชิตการอ่าน เป็นคนรักการอ่าน ขอบค้นคว้า กรองสารก่อนส่ง ประมวลตรวจเช็ค ตรวจสอบก่อนที่จะเผยแพร่ แล้วผู้ติดตามคาดหวังเราหรือเป็นที่พึ่งและไว้ใจได้
- คติส่งท้ายของชาช่า
“ผลตอบแทนทั้งหมดในชีวิต ความมั่งคั่ง ความสัมพันธ์ หรือความรู้ ล้วนมาจากหลักการทบต้น”
ทบต้นเครดิต ความน่าเชื่อในการทำคอนเทนต์ เพื่อสร้างความยั่งยืนของตัวเองได้
“อย่าลืมสร้าง Personal Branding”
ต้องสร้างตัวตน เอาคนที่ชอบเฉพาะด้านของตัวเองนั้น มาปรับในการผลิตคอนเทนต์ตัวเอง
- ในโลกนี้มี 3 อุตสาหกรรมที่ไม่มีวันใด ไม่ว่าจะเปลี่ยนทิศทางไปทางไหน เช่น การพนัน อาวุธสงคราม อุตสาหกรรมการเงิน อุตสาหกรรมการลงทุนยังอยู่ได้ ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจไม่ดีก็ตาม
- ไม่ว่าจะเป็น Influ/KOL มีโอกาสรวย จะเลือกแบบไหน หรือไปทางสายกลาง (สายขาว) เรื่องความยั่งยืน
พยายามแหกกฎ อย่ายึดติดสิ่งเดิมๆ หรือประสบความสำเร็จในอดีต
- สุทธิชัย หยุ่น ถือเป็นนักสื่อสารมวลชนบุคคลต้นแบบที่มองการณ์ไกลไทยในการปรับตัวสื่อและเข้าใจสถานการณ์ภูมิทัศน์สื่อ เป็นผู้คิดริเริ่มในการใช้สื่อออนไลน์ในการรายงานข่าวสาร ซึ่งในตอนนั้นกระแสสื่อ Social Media อย่าง Facebook และ Twitter กำลังเริ่มมีอิทธิพลบทบาทต่อวงการสื่อสารมวลชนและวงการข่าวสารในไทย ถือเรียกว่า “นักข่าว 3.0” ถือเป็นแนวคิดเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2553
บทสรุปการเรียน The Influencer ครั้งที่ 5 ได้อธิบายถึงภาครวมของ Digital Asset อย่าง Blockchain เป็นระบบเก็บข้อมูลอย่างกว้างขวางเชื่อมต่อกันหลายเครือข่าย มีการประมวลผลข้อมูลเป็นบล็อก ซึ่งทำให้มีความโปร่งใส ความปลอดภัย ตรวจสอบได้ มีการเปรียบเทียบระหว่าง Cryptocurrency กับ Token Digital ที่ทำหน้าที่แตกต่างกัน แล้วสินทรัพย์ดิจิทัลบางชนิดมี ก.ล.ต. มากำกับดูแล ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย มีใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจที่หลากหลายเพื่อช่วยในการสะดวกกับนักลงทุนที่สนใจสินทรัพย์ดิจิทัล
ส่วน DeFi / CeFi / CeDeFi ทำหน้าที่บริหารจัดการเงินที่แตกต่างในโลกคริปโท และแนวโน้มในการถือครองคริปโททั่วโลกเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่วนไทยมีผู้ถือครองคริปโทอันดับ 5 ของโลก ถือเป็นความโดดเด่นที่ให้ความสำคัญกับสินทรัพย์ดิจิทัล
ส่วนการเป็นนักข่าวในด้านสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น ได้สอนแนวทางในการสงสัย ค้นคว้าหาความรู้ในหลากหลายรูปแบบ การรู้จักกับบุคคลเพื่อสร้าง Connection ในการได้ขข้อมูลที่แท้จริงมาได้ รวมไปถึงได้สอนกฎหมาย จริยธรรมสื่อ ซึ่งได้ถอดแบบมาจากเรียนพวกวารสาร นิเทศศาสตร์ นำมาสู่สอนเรื่องการเป็นสื่อในด้านการเงิน การลงทุน
หวังว่าโพสต์นี้จะเป็นประโยชน์ในการนำเสนอสำหรับผู้ติดตามทุกคนนะคะ อย่าลืมฝากเพื่อนๆ และผู้ติดตามทุกท่านมาช่วยกันโหวตให้หนูหน่อยค่ะ เพื่อได้รับเป็นหนึ่งใน Popular Vote และรับสิทธิคัดเลือกเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของโครงการ The Influencer Financial & Investment มาร่วม Vote ได้ผ่านทางลิงค์นี้ค่ะ
“1 Vote = 1 ให้กำลังใจ” ในการผลิตสื่อของเราต่อไป!!
สามารถโหวตได้วันละ 1 ครั้งต่อวันค่ะ
* หมายเหตุ Content นี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ The Influencer Financial & Investment ของ E-FinanceThai เท่านั้น
แล้วยังได้ลุ้นเป็นหนึ่งใน Popular Vote และเป็นผู้ได้รับคัดเลือกเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของโครงการ The Influencer Finanacial & Investment ค่ะ ขอบพระคุณล่วงหน้าที่สนับสนุนหนูในฐานะเป็นนักผลิตสื่อตัวน้อยค่ะ 🙏🙏
#TheInfluencerTH #TheInfluencer2025
#DigitalAssets #Tokenization #TokenX
โฆษณา