12 มิ.ย. เวลา 23:33 • ข่าวรอบโลก

สัญญาณบ่งบอกว่า “อิสราเอล” กับ “อิหร่าน” ใกล้ยิงถล่มกันครั้งใหม่

และรอบนี้มันจะรุนแรงขนาดไหน ตีขยายวงกว้างหรือไม่
1
เจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐกล่าวกับซีบีเอสนิวส์ว่าอิสราเอล “เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่” สำหรับการโจมตีทางทหารต่ออิหร่านที่อาจเกิดขึ้น ตามรายงานของเอ็นบีซี การโจมตีของอิสราเอลต่ออิหร่านที่เตรียมการไว้จะเกิดขึ้นโดยไม่ได้มีการประสานงานกับสหรัฐ แม้ว่าในอดีตอิสราเอลจะพึ่งพาหน่วยข่าวกรองและด้านโลจิสติกส์จากสหรัฐก็ตาม แหล่งข่าวเน้นย้ำว่ายังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะโจมตีหรือไม่
2
ตามที่นิวยอร์กไทมส์รายงาน ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น สหรัฐฯ ได้สั่งอพยพเจ้าหน้าที่ของสถานทูตบางส่วนในอิรัก และอนุญาตให้ครอบครัวของนักการทูตเดินทางออกจากบาห์เรนและคูเวตได้ ส่วนอังกฤษได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับเรือขนสินค้าในอ่าวเปอร์เซีย
1
เครดิตภาพ: WION
ทั้งนิวยอร์กไทม์และ Haaretz สื่อท้องถิ่นอิสราเอลได้เขียนถึงแรงจูงใจที่เป็นไปได้ในการโจมตีครั้งนี้ว่า อิสราเอลเชื่อว่าตอนนี้เป็น “ช่วงเวลาที่เหมาะสม” ที่จะโจมตีโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน จากมุมมองของผู้นำอิสราเอล อิหร่านตกอยู่ในความเสี่ยงหลังจากสูญเสียกลุ่มตัวแทนของตน ได้แก่ ฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ และเนื่องจากการป้องกันทางอากาศของอิหร่านอ่อนแอลงอันเป็นผลจากการโจมตีทางอากาศเมื่อปีที่แล้ว
2
นอกจากนี้ตามข้อมูลของ IAEA อิหร่านได้เพิ่มปริมาณแร่ยูเรเนียมเสริมสมรรถนะสูงในคลังแสงอย่างมาก ซึ่งทำให้อิสราเอลมีความกังวลมากขึ้น
คณะกรรมการบริหารของ IAEA ได้มีคำตัดสินอย่างเป็นทางการว่า อิหร่านไม่ปฏิบัติตาม “พันธกรณีด้านนิวเคลียร์” ซึ่งถือเป็นเคสแรกในรอบ 20 ปี การตัดสินใจครั้งนี้อาจเป็นก้าวสำคัญในการฟื้นคืนมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติที่ยกเลิกไปหลังจากข้อตกลงนิวเคลียร์เมื่อปี 2015
2
เครดิตภาพ: Atta Kenare / AFP
ในสถานการณ์ตอนนี้อิหร่านก็กำลังขู่ว่าจะตอบโต้กลับเช่นกัน แหล่งข่าวของนิวยอร์กไทมส์อ้างว่าเตหะรานได้วางแผนโจมตีอิสราเอลด้วยขีปนาวุธจำนวนมากในกรณีที่ถูกโจมตีก่อนแล้ว ผู้บัญชาการกองกำลัง IRGC ของอิหร่าน “ฮอสเซน ซาลามี” ประกาศว่าการตอบโต้จะสร้างความสูญเสียมากกว่าครั้งในอดีต (เมื่อปีก่อน)
“อาซิส นาซีร์ซาเดห์” รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอิหร่านขู่เมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า “ฐานทัพของสหรัฐฯ ทั้งหมดในภูมิภาคตะวันออกกลางนี้อยู่ในเขตสังหาร” และจะถูกโจมตีด้วยหากเกิดสงครามขึ้น ตามรายงานของซีบีเอส สหรัฐฯ ไม่ตัดทิ้งความเป็นไปได้ที่เตหะรานจะโจมตีฐานทัพของสหรัฐฯ ในอิรักด้วย
ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” ของสหรัฐ กล่าวว่าเขาเริ่มหมดหวังขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับ “ข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่กับอิหร่าน” อย่างไรก็ตาม “สตีฟ วิทคอฟฟ์” ผู้แทนพิเศษของเขามีกำหนดหารือกับ “อับบาส อารากี” รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านที่ประเทศโอมานในวันอาทิตย์ ก่อนหน้านั้นเขาจะพบกับ “เดวิด บาร์เนีย” หัวหน้าหน่วยข่าวกรองมอสสาด และ “รอน เดอร์เมอร์” รัฐมนตรีกระทรวงกิจการยุทธศาสตร์ของอิสราเอล
ความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันแล้ว โดยราคาน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งสูงถึง 68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนปีนี้
1
เครดิตภาพ: Majid Asgaripour/WANA (West Asia News Agency) via REUTERS
  • การโจมตีอิหร่านของอิสราเอลครั้งนี้จะรุนแรงกว่าคราวก่อนหรือไม่? นี่คือประเด็นสำคัญที่ถูกตั้งคำถาม
ทวีตของ Jason Brodsky จากองค์กรที่มีชื่อโดดเด่นว่า United Against Nuclear Iran (UANI) กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเขาได้สรุปสัญญาณการโจมตีอิหร่านที่ใกล้จะเกิดขึ้น [1] เช่น
การพบปะของทรัมป์กับผู้เชี่ยวชาญอิหร่าน การสนทนากับเนทันยาฮู (หลังจากนั้นเขาได้จัดการประชุมด้านความมั่นคง) คำเตือนของ UKMTO เกี่ยวกับความเสี่ยงของเส้นทางเดินเรือในช่องแคบฮอร์มุซ อ่าวเปอร์เซีย และอ่าวโอมาน การอพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐในอิรัก บาห์เรน และคูเวต (บางส่วน) และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการสิ้นสุดระยะเวลาสองเดือนที่ทรัมป์จัดสรรไว้เพื่อจัดทำข้อตกลงกับอิหร่าน
2
UANI ตามชื่อแล้วก็น่าจะเป็นองค์กรที่มีอคติต่ออิหร่านอยู่แล้ว แต่สื่อตะวันตกก็ยังออกอากาศสัญญาณเบื้องต้นด้วยเช่นกันอย่าง Sky News ไม่มีข้อสงสัยว่าอิสราเอลกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ของการดำเนินการทางทหารต่ออิหร่านในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยไม่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ สื่อกระแสหลักอื่นๆ ก็รายงานไปในแนวทางเดียวกัน (ตามที่เขียนไว้ในบทความนี้ตอนต้น)
ในขณะเดียวกันอีกทางหนึ่งพวกเขาก็เน้นย้ำว่าทรัมป์กำลังเจรจาอย่างจริงจังกับอิหร่านเกี่ยวกับข้อตกลงทางการทูตที่มุ่งลดศักยภาพโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน
เครดิตภาพ: CNN
สิ่งที่เกิดขึ้นอาจมาจากสองสาเหตุ คือ การหวังสูบฉีดข้อมูลอย่างเข้มข้นเพื่อเป็นแรงกดดันทางจิตวิทยาต่อเตหะรานเพื่อบังคับให้บรรลุข้อตกลง ซึ่งเป็นวิธีที่ทรัมป์ชื่นชอบมาก หรืออิสราเอลตัดสินใจที่จะโจมตีอิหร่านโดยคำนึงถึงจุดยืนของสหรัฐฯ เพราะในความเป็นจริงแล้ววอชิงตันไม่ต้องการสงครามครั้งใหม่เพิ่ม - ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มล็อบบี้ยิสต์ทั้งหมดในวอชิงตัน – และความเสี่ยงและต้นทุนทางการเงินอื่นๆ
การโจมตีอิหร่านของอิสราเอลจะไม่น่านำไปสู่ WWIII หรือแม้แต่สงครามระดับภูมิภาคในระยะยาว ทุกคนจำเหตุการณ์ในอดีตประเภทนี้ได้ มีการสังเกตอยู่บ่อยครั้งว่าแม้อิสราเอลจะร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาก็ตาม การจะ “ล้มล้าง” โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ทำได้เพียงชะลอไว้เท่านั้น
ดังนั้นหากการโจมตีเกิดขึ้น อาจมีการวางแผนอย่างเคร่งครัดในรูปแบบของการทูตทางทหารและการเมืองไว้แล้ว ไม่ใช่ความพยายามที่จะทำลายโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านทางกายภาพ เว้นแต่แน่นอนว่าอิสราเอลจะมีแผนการลับอะไรทางเทคนิคที่เราไม่อาจรู้ล่วงหน้ามาก่อน เหมือนกับปฏิบัติการสั่งกดระเบิดเพจเจอร์ของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์จากทางไกล
เรียบเรียงโดย Right Style
13th Jun 2025
  • อ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: The Insider>
โฆษณา