“วิธีการเตรียมสอบ TPAT1 แบบใจเย็นๆ แต่คะแนนปังงง!!!”
วิธีเตรียมตัวสอบ TPAT 1: 3
🩺👩⚕️สอบติดแพทย์การสอบ TPAT 1 (Thai Professional Aptitude Test) เป็นหนึ่งในการสอบที่สำคัญที่สุดสำหรับน้อง ๆ ที่อยากเข้าคณะ แพทยศาสตร์ เพราะข้อสอบนี้ไม่ได้วัดแค่ความจำหรือความรู้ทางวิชาการเท่านั้น แต่ยังวัด "ความถนัด ความคิดเชิงเหตุผล และจริยธรรม" ซึ่งเป็น พื้นฐานสำคัญของการเป็นแพทย์ที่ดีหลายคนอาจรู้สึกกังวลว่า TPAT 1 จะยากหรือไม่ หรือควรเริ่มอ่านจากตรงไหนก่อนกับ 3 วิธีเตรียมตัวสอบ TPAT 1 แบบเจาะลึกและใช้งานได้จริง ช่วยให้คุณเตรียมตัวได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
ตัวอย่างหนังสือ TPAT 1
1. เข้าใจข้อสอบให้ทะลุ - รู้จักพาร์ตรู้จักวิธีคิด
สิ่งแรกที่ต้องทำก่อนเริ่มอ่านหนังสือ คือ "เข้าใจข้อสอบให้ดี" เพราะ TPAT 1 ไม่ใช่ข้อสอบที่เน้นการท่องจำ แต่เป็นข้อสอบแนวจิตวิทยา การวิเคราะห์ และใช้ตรรกะอย่างเข้มข้น
ข้อสอบ TPAT 1 แบ่งออกเป็น 3 พาร์ตใหญ่ ๆ ได้แก่:
📍พาร์ตที่ 1: ความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหา
เน้นวัดการคิดวิเคราะห์ จับประเด็น จัดลำดับความคิดเช่น
• อ่านบทความหรือสถานการณ์แล้วตอบคำถาม
• วิเคราะห์ข้อมูลจากตาราง กราฟ หรือข้อความ
• การคิดเชิงตรรกะและอุปมาอุปไมย
📍พาร์ตที่ 2: จริยธรรมและทัศนคติทางวิชาชีพแพทย์
เป็นพาร์ตที่วัด จริยธรรม ความเข้าใจคน และทัศนคติเช่น
• สถานการณ์จำลองทางจริยธรรม เช่น คนไข้, แพทย์,ครอบครัว
• คำถามแนวจิตวิทยา การให้เหตุผลที่ไม่ใช่ถูกหรือผิด
แต่ "เหมาะสมหรือไม่เหมาะสม"
📍พาร์ตที่ 3: ความสามารถในการใช้เหตุผลเชิงวิทยาศาสตร์
วัดความสามารถในการเข้าใจหลักการทางวิทยาศาสตร์พื้นฐาน และการคิดเชิงระบบ เช่น
• วิเคราะห์สถานการณ์ที่เกี่ยวกับฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา
• คิดตามหลักเหตุและผล เช่น ถ้า A เกิด → จะส่งผลยังไงกับ B
ตัวอย่างสัดส่วนคะแนนที่ใช้⏰🩺
📚📖2. ฝึกทำโจทย์อย่างมีระบบ - ทำทุกวัน
ไม่ใช่แค่ท่อง
การฝึกทำโจทย์คือหัวใจของการเตรียมสอบ TPAT 1เพราะนี่ไม่ใช่การอ่านหนังสือแบบท่องจำ แต่ต้อง
"ลงมือคิด" และ "เจอของจริง" ซ้ำ ๆ เพื่อให้สมองปรับ ตัวและเรียนรู้จากข้อผิดพลาด
วิธีฝึกทำโจทย์ที่ได้ผลที่สุด:
✅ เริ่มจากทำ ข้อสอบเก่าจริง ย้อนหลัง 3-5 ปี เพื่อดูแนวว่าถามแบบไหน ใช้เวลาเท่าไร คำตอบแบบใดที่มักเป็น distractor (ตัวหลอก)
✅ จากนั้นเลือกหนังสือเฉพาะทาง เช่น ติวข้อสอบ
TPAT1 ของ Plook หรือสถาบันติวต่าง ๆ ที่มีคุณภาพ
✅ จับเวลา ทุกครั้งที่ทำโจทย์ เพราะของจริงมีเวลาจำกัด ต้องฝึกการคิดภายใต้แรงกดดัน
✅ หลังทำโจทย์ ให้ "ตรวจคำตอบและวิเคราะห์เหตุผล" ว่าทำไมผิด หรือเลือกคำตอบนั้น เพราะสิ่งสำคัญไม่ใช่เฉพาะผลลัพธ์ แต่คือ "กระบวนการคิด"
ตารางชีวิตเด็ก 69 🩺👩⚕️
🧘♀️3. เตรียมใจและสมาธิให้พร้อม - จิตแข็ง สมองนิ่ง สอบติดแน่นอนหลายคนเก่งมาก แต่ตกม้าตายเพราะ "ตื่นสนามสอบ"หรือ "สมาธิหลุด" เพราะฉะนั้นการเตรียม "จิตใจ" ก็
สำคัญไม่แพ้เนื้อหาวิชาการ
วิธีฝึกสมาธิและปรับจิตใจให้พร้อมสอบ:
• ⏰จัดเวลานอน-ตื่นให้ตรงกับเวลาสอบจริง อย่าง น้อย 2 สัปดาห์ก่อนสอบ
• 📵ลดการใช้โซเชียลช่วงใกล้สอบ โดยเฉพาะก่อน
นอน เพื่อให้สมองพัก
• 🧘♀️ฝึก "การตั้งสติ" ก่อนทำข้อสอบแต่ละพาร์ต เช่นหายใจเข้า-ออกลึก ๆ แล้วโฟกัสกับโจทย์ตรงหน้า
• 🩺📖เตรียมความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับอาชีพแพทย์ เช่น คุณสมบัติที่แพทย์ควรมี เพราะอาจมีคำถามในพาร์ตจริยธรรมที่ให้เลือกการกระทำที่ "เหมาะสม"
ความฝันของคุณจะเป็นจริง✨
✍🏻สุดท้ายนี้...
การสอบ TPAT 1 เป็นเพียงหนึ่งในก้าวสำคัญของเส้นทางแพทย์ แต่การเตรียมตัวอย่างมีวินัยและเข้าใจหลักการคือกุญแจที่จะพาคุณไปถึงเป้าหมาย ขอให้เชื่อมั่นในตัวเอง และอย่ากลัวความผิดพลาด เพราะทุกข้อที่ผิดคือโอกาสในการเรียนรู้
ให้กำลังใจ เรามาเริ่มไปด้วยกันนะคะ✌🏻✍🏻
💖💖"สอบติดแพทย์ไม่ได้เริ่มจากความเก่ง แต่อยู่ที่ความกล้าฝึกซ้อมและอดทนจนถึงวันสอบ"💖💖
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
