อดีตผู้บริหาร แชร์ชีวิตสู่จุดตกต่ำ กลายเป็นคนล้างจาน - ถูกเด็กด่า ชีวิตไม่ง่ายหลังเกษียณ
อดีตผู้บริหาร เงินเดือน 2.2 แสน แชร์ชีวิตจากจุดสูงสุดสู่จุดตกต่ำ กลายเป็นคนล้างจานค่าแรงต่ำ ถูกคนรุ่นหลานดุด่า ความจริงโหดร้ายหลังเกษียณ
วันที่ 12 มิถุนายน 2568 เว็บไซต์ Mirror Media รายงานว่า นายซาโต้ (นามสมมติ) วัย 61 ปี อดีตผู้บริหารระดับสูงของบริษัทในญี่ปุ่น ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์ชีวิต จากผู้บริหารระดับสูงที่รับเงินเดือน 1 ล้านเยน สู่การเป็นคนงานล้างจานในร้านอาหารหลังเกษียณ โดยมีค่าแรงเพียงชั่วโมงละ 1,580 เยน แถมยังต้องถูกเด็กที่อายุน้อยกว่าเกือบ 40 ปี ดุด่า เส้นทางชีวิตและความภาคภูมิใจที่เปลี่ยนไป ทำให้เขาเกิดความรู้สึกที่หลากหลายปนเปกัน
โดย นายซาโต้ เปิดเผยว่า หลังจบมหาวิทยาลัย เขาก็เข้าทำงานในบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังของญี่ปุ่น ใช้เวลาหลายสิบปีในการทำงาน จนกระทั่งมีตำแหน่งเป็นผู้จัดการฝ่าย ซึ่งมีเงินเดือน 1 ล้านเยน (ราว 2.2 แสนบาท) และจะได้รับเงินบำนาญก้อนใหญ่ 32 ล้านเยน (ราว 7.2 ล้านบาท) หลังเกษียณ
ประสบการณ์ทำงานอันยาวนานทำให้เขามั่นใจในตัวเอง และหวังว่าจะหาความท้าทายใหม่ ๆ หลังเกษียณ ประสบการณ์และความมุ่งมั่นของเขา คงจะเป็นการปูทางสู่ช่วงที่ 2 ของชีวิตได้เป็นอย่างดี เขาจึงตัดสินใจหางานใหม่ผ่านเอเจนซี่ ด้วยความหวังว่าจะนำประสบการณ์ที่สั่งสมมาทั้งชีวิต ไปสร้างคุณค่าให้กับบริษัทอื่น
แต่ความเป็นจริงอันโหดร้ายของตลาดแรงงานทำให้เขาต้องผิดหวังและท้อใจ แม้เขาจะมีประวัติการทำงานอันโดดเด่น เป็นผู้จัดการฝ่ายของบริษัทใหญ่ แต่ใบสมัครกลับถูกคัดทิ้งตั้งแต่การคัดกรองเอกสาร แม้แต่เอเจนซี่หางานก็ยังแนะนำเขาให้มองหางานที่ไม่เกี่ยวกับความชำนาญเดิม
ความล้มเหลวต่อเนื่องทำให้สภาพจิตใจของเขาตกต่ำ นายซาโต้จึงนั่งอยู่บ้านทั้งวันโดยไม่ทำอะไร และเอาแต่บ่นไปเรื่อย เดิมเขาคิดว่าจะใช้ชีวิตต่อไปด้วยเงินบำนาญ ไม่กลับไปทำงานอีก แต่กลับถูกภรรยาพูดว่า
"คุณอยู่บ้านเฉย ๆ ทั้งวัน ยังมีประโยชน์ไม่เท่าของแต่งบ้านด้วยซ้ำ" ซึ่งทำลายความภาคภูมิใจของเขามาก
กระทั่งวันหนึ่งขณะเดินอยู่ข้างถนนอย่างไร้จุดหมาย นายซาโต้สะดุดตากับป้ายรับสมัครงานหน้าร้านอิซากายะแห่งหนึ่ง เขานึกถึงประสบการณ์ทำงานพาร์ทไทม์สมัยเป็นนักศึกษา จึงเข้าไปสมัครงานอย่างกล้าหาญ และได้รับการตอบรับ
แต่การทำงานจริง ๆ ยากกว่าที่เขาคิดมาก หัวหน้าของเขาเป็นเด็กทำงานพาร์ตไทม์วัย 22 ปี ที่ก้าวร้าว นิสัยเข้มงวดและจู้จี้ มักจะไม่ถูกใจในสิ่งที่เขาทำ แถมยังดุด่าเขาอย่างไม่ปรานีว่า "จะต้องให้ฉันพูดแบบนี้กี่ครั้ง"
ตอนแรกนายซาโต้ถูกด่าบ่อย ๆ ก็รู้สึกสมเพชตัวเอง แต่ตอนนี้เขาเริ่มปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ กระทั่งทำงานมาครบ 8 เดือน ทำให้ค่าแรงต่อชั่วโมงเพิ่มจาก 1,380 เยน (ราว 310 บาท) เป็น 1,580 เยน (ราว 350 บาท) ซึ่งเขายอมรับว่าแม้จะไม่ได้มีความสุขเหมือนสมัยนักศึกษา แต่เขารู้สึกได้รับการเติมเต็มจากการทำงาน
ที่น่าประหลาดใจคือ การที่เขาเคยเป็นอดีตผู้จัดการ ยังดึงดูดให้นักเรียนมัธยมที่ทำงานพาร์ตไทม์เข้ามาพูดคุยเกี่ยวกับแผนการเรียนต่อ และแผนในอนาคตกับเขา ทำให้นายซาโต้รู้สึกว่าตัวเองเป็นที่ต้องการอีกครั้ง
เขายอมรับว่าเขาเคยคิดจะยอมแพ้ แต่ตอนนี้ตัดสินใจที่จะทำงานไปเรื่อย ๆ แม้ว่างานนี้จะขาดความรู้สึกภาคภูมิใจในสายตาคนภายนอก แต่ก็ดีกว่าการอยู่บ้านแล้วถูกภรรยาต่อว่า แถมยังได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ได้สัมผัสความรู้สึกว่ายังมีคนที่ต้องการตนเองอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก Mirror Media
13 มิ.ย. 2568 เวลา 10:13:14
โดย : ไฮไลท์กะปุกดอทคอม
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
