Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
“วันละเรื่องสองเรื่อง”
•
ติดตาม
เมื่อวาน เวลา 13:09 • ธุรกิจ
🧠 “รู้แล้ว” กับดักที่พรากโอกาสจากคนเก่ง
(หรือคุณอาจไม่ได้หยุดโตเพราะไม่รู้…แต่เพราะ “คิดว่ารู้พอแล้ว”)
“เคยลองแล้ว”
“อันนี้รู้แล้ว”
“ก็เคยอ่านมาแล้วเหมือนกัน” เป็นต้น
คำพูดที่ฟังดูมั่นใจเหล่านี้
…หลายครั้งคือจุดเริ่มต้นของ “การปิดประตูการเรียนรู้” โดยไม่รู้ตัว
ในวันที่โลกเปลี่ยนเร็วเกินจะยึดสูตรเดิมๆ ได้
คนที่กล้ายอมรับว่า “ยังไม่รู้พอ” มักไปได้ไกลกว่า…
คนที่คิดว่า “รู้อยู่แล้ว”
⸻
🚫 “รู้แล้ว” ไม่ใช่ความมั่นใจ — แต่มักเป็นการหยุดตั้งคำถาม
คำว่า “รู้แล้ว” ฟังดูเบา
“แต่แรงพอจะ”
• ปิดกั้นโอกาสเรียนรู้จากบริบทใหม่
• ทำให้เราไม่รับฟังเสียงที่แตกต่าง
• พลาดมุมลึกที่อาจเปลี่ยนวิธีคิดหรือวิธีทำงานได้ทั้งหมด เป็นต้น
“ความรู้ที่ไม่เปิดอัปเดต = ความรู้ที่หมดอายุ”
และในโลกวันนี้ ความรู้หมดอายุเร็วขึ้นเรื่อยๆ
⸻
🎯 ตัวอย่างที่ “รู้แล้ว” กลายเป็น “พลาดแล้ว”
* ทีม Dev ที่บอกว่าเคยลองฟีเจอร์แล้วไม่เวิร์ก → ลืมคิดว่าตลาดเปลี่ยนไปแล้วตั้งแต่ตอนนั้น
* หัวหน้าที่คิดว่ารู้จักลูกทีมดีพอ → จนไม่เห็นสัญญาณ burnout เพราะไม่เคย “ฟังใหม่”
* ผู้บริหารที่จบหลักสูตรดังๆ แล้วไม่เคยเรียนรู้อะไรอีก → จนตามไม่ทัน Gen Z ที่เรียนจาก YouTube แล้วทดลองทันที
⸻
🧠 บทเรียนจาก 2 ผู้นำโลกที่ไม่เคยหยุดเรียนรู้
📌 Satya Nadella (CEO, Microsoft)
เขาปรับวัฒนธรรม Microsoft จาก “know-it-all” เป็น “learn-it-all”
“The learn-it-all will always do better than the know-it-all”
— Satya Nadella
📖 Ref: Business Insider, 2017
📌 Shunryu Suzuki – Zen Master และผู้เขียน Zen Mind, Beginner’s Mind
“In the beginner’s mind, there are many possibilities. In the expert’s mind, there are few.”
📖 Ref: Wikipedia
ผู้นำเหล่านี้ไม่ได้ยิ่งใหญ่เพราะ “รู้มาก”
แต่เพราะ “ยอมรับว่ายังรู้ไม่พอ” และเรียนต่ออย่างสม่ำเสมอ
⸻
🔄 เปลี่ยน “รู้แล้ว” เป็น “ยังไม่รู้พอ” ด้วย 4 วิธีคิด
1. ถามว่า…ฉันรู้อะไร และยังไม่รู้อะไร?
อย่าพึ่งตัดบท ลองเปิดใจว่ามีมุมไหนเรายังไม่เคยฟัง
2. ฟังอย่างตั้งใจ ไม่ใช่รอพูดแทรก
คนที่กล้าพูด “เล่าเพิ่มหน่อยได้ไหม?” มักได้ Insight ที่คนอื่นไม่เคยฟัง
3. ใช้ Beginner’s Mind แม้ในเรื่องที่ชำนาญ
เพราะความลึกมักซ่อนอยู่ในสิ่งที่เราคิดว่า “รู้หมดแล้ว”
4. ตั้งคำถามให้ดีขึ้น แทนที่จะพยายามตอบให้เร็วขึ้น
คำถามที่ดี มักพาไปสู่คำตอบที่เราไม่เคยนึกถึง
⸻
🧭 “R-E-L-E-A-R-N Model”: 7 ขั้นตอนปลดล็อก Mindset คนไม่หยุดโต
Framework นี้ช่วยเปลี่ยน “คนที่คิดว่ารู้แล้ว” ให้กลายเป็น “คนที่พร้อมจะเติบโตอีกครั้ง”
• R = Recognize blind spots
ยอมรับว่าเราอาจพลาดบางมุม
📍 ทีมที่เคยพังเพราะ UI ไม่ใช่ไอเดีย จะไม่รู้เลยถ้าไม่กลับมาทบทวน
• E = Embrace new input
ฟังมุมใหม่ แม้คนพูดจะไม่ใช่ “คนที่เราคิดว่าเก่ง”
📍 Insight จาก Frontline มักไม่ปรากฏใน PowerPoint
• L = Listen with intent
ไม่ใช่แค่ฟังเพื่อตอบ…แต่ฟังเพื่อเข้าใจ “บริบทของเขา”
📍 ถามว่า “ทำไมเขาถึงคิดแบบนี้?” แทนที่จะรีบแก้
• E = Experiment again
เลิกกลัวคำว่า “เคยลองแล้วไม่เวิร์ก”
📍 Netflix ล้มเหลวกับระบบ Personalization หลายครั้ง ก่อนจะทำให้แม่นขึ้นถึง 70%
(Ref: Netflix Tech Blog, 2022)
• A = Ask better questions
คำถามดีๆ คือจุดเริ่มต้นของการ Re-learn
📍 “เราพลาดตรงไหน?” vs “เราพลาดเพราะเชื่อใครเร็วไปหรือเปล่า?”
• R = Reflect deeply
ทบทวนอย่างลึก ไม่ใช่แค่สรุปให้ไว
📍 IDEO ใช้ Reflection Log หลังทุกโปรเจกต์ ไม่ใช่เพื่อเช็กถูก–ผิด แต่เพื่อถามว่า “ถ้าเริ่มใหม่ จะทำอะไรต่างออกไป?”
• N = Never settle
อย่าหยุดไว้ที่คำว่า “เก่งพอแล้ว”
📍 Adobe ใช้แนวคิด “Check-in not check-up” กระตุ้นให้ทีมพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพื่อสอบผ่าน แต่เพื่อเติบโตจริง
⸻
✨ โมเดลนี้ใช้ได้ทั้งในองค์กร ทีมงาน และชีวิตส่วนตัว
เพราะ “การเรียนรู้ใหม่” เริ่มจากการยอมรับว่า
สิ่งที่รู้…อาจไม่ใช่ทั้งหมดที่มี
และความเก่ง…ไม่ควรหยุดอยู่แค่ตอนนี้
⸻
✨ ส่งท้าย - คนที่ “ยังไม่รู้พอ” มักไปได้ไกลกว่าคนที่ “รู้อยู่แล้ว”
บางครั้ง เราไม่ได้ติดอยู่เพราะไม่รู้
แต่เพราะเราคิดว่า “พอแล้ว”
ในโลกที่เร็วขึ้นทุกวัน…
คนที่ยอมถ่อมตนว่า “ยังไม่รู้พอ”
จะเป็นคนที่ “พร้อมที่สุดสำหรับวันพรุ่งนี้”
#วันละเรื่องสองเรื่อง
#BeginnerMindset
#RethinkWhatYouKnow
#LeadershipByLearning
#RELEARNModel
#NeverStopGrowing
ความรู้
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย