ข่าวด่วน! กัมพูชาตัดไฟตัดเน็ตจากไทย 13 มิ.ย. 2568 เจาะลึกเหตุผลเศรษฐกิจ-เทคโนโลยี-ยุทธศาสตร์ภูมิภาค⚡
สั่นสะเทือนภูมิภาค! ทำไมถึงกล้าตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์? 💥⚡
เมื่อเวลา 00:00 น. วันที่ 13 มิถุนายน 2568 ประเทศกัมพูชาได้ทำสิ่งที่หลายคนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ด้วยการ "ตัดการนำเข้าไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตจากประเทศไทยอย่างสิ้นเชิง" หลังจากที่พึ่งพาประเทศเพื่อนบ้านมานานกว่า 30 ปี! 🔌📡
นายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต ประกาศผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "เพื่อป้องกันความสับสนหรือความยากลำบากให้กับฝ่ายไทยในการตัดสินใจว่าจะตัดหรือไม่ตัด กัมพูชาจึงตัดสินใจดำเนินการเอง" การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นผลมาจากการเตรียมความพร้อมและการวางแผนยุทธศาสตร์ที่รอบคอบมาหลายปี
วันนี้เราจะมาเจาะลึกเหตุผลที่แท้จริงเบื้องหลังการตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์นี้ ที่จะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพลังงานและโทรคมนาคมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปตลอดกาล
🏗️ ความพร้อมที่สะสมมาหลายปี ไม่ใช่การตัดสินใจชั่วข้ามคืน
การที่กัมพูชาสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจในครั้งนี้ มาจากการเตรียมความพร้อมที่สะสมมาอย่างยาวนาน รัฐมนตรีพลังงานและเหมืองแร่ เกียว รัตนัก ยืนยันว่า "ขณะนี้กัมพูชาไม่ได้นำเข้าไฟฟ้าจากประเทศไทยเข้าสู่ระบบไฟฟ้าแห่งชาติเลย เป็นศูนย์" และเหตุผลก็คือ "กัมพูชามีไฟฟ้าเพียงพอแล้ว"
ข้อมูลจากกระทรวงพลังงานกัมพูชาแสดงให้เห็นว่า ในปี 2567 ประเทศมีความต้องการไฟฟ้า 4,014 เมกะวัตต์ ซึ่งสามารถผลิตได้ภายในประเทศ 3,033 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ โรงไฟฟ้าถ่านหิน โรงไฟฟ้าดีเซล โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าชีวมวล ส่วนที่เหลือ 981 เมกะวัตต์ เป็นการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน
ที่น่าสนใจคือ การนำเข้าไฟฟ้าจากไทยในปัจจุบันอยู่ที่ 135.50 เมกะวัตต์ เท่านั้น ซึ่งคิดเป็นเพียง 3.4% ของความต้องการทั้งหมด ขณะที่นำเข้าจากเวียดนาม 277 เมกะวัตต์ และลาว 30 เมกะวัตต์ นี่แสดงให้เห็นว่า กัมพูชาไม่ได้พึ่งพาไทยมากเท่าที่หลายคนเข้าใจ
💰 การลงทุนด้านพลังงานที่ทะยานขึ้นอย่างน่าทึ่ง
ในเดือนกันยายน 2567 รัฐบาลกัมพูชาได้อนุมัติโครงการลงทุนด้านพลังงาน 23 โครงการ มีมูลค่ารวม 5.79 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับระยะเวลา 2567-2572 โครงการเหล่านี้ประกอบด้วย โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ 12 โครงการ โครงการพลังงานลม 6 โครงการ โครงการพลังงานผสมระหว่างชีวมวลและแสงอาทิตย์ 1 โครงการ โครงการก๊าซธรรมชาติเหลว 1 โครงการ โครงการพลังน้ำ 1 โครงการ และโครงการสถานีเก็บพลังงาน 2 โครงการ
จาก 23 โครงการนี้ มี 21 โครงการผลิตไฟฟ้าที่มีกำลังการผลิตรวม 3,950 เมกะวัตต์ และ 2 โครงการสถานีเก็บพลังงานที่สามารถเก็บพลังงานได้ 2,000 เมกะวัตต์ เมื่อโครงการเหล่านี้แล้วเสร็จ กัมพูชาจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดคิดเป็น 70% ของการผลิตทั้งหมดภายในปี 2573
การลงทุนขนาดใหญ่นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเองเอง แต่เป็นผลจากการสนับสนุนจากหลายประเทศ โดยเฉพาะจีนที่มีบทบาทสำคัญผ่านโครงการ Belt and Road Initiative โครงการลงทุนจากจีนในด้านพลังงานของกัมพูชาคิดเป็น 65.7% ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดในประเทศ
📡 การปฏิวัติโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม
ด้านโทรคมนาคม รัฐมนตรีไปรษณีย์และโทรคมนาคม เจีย วันเดท ยืนยันว่า "บริษัทเครือข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสงและผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทุกรายในกัมพูชาจะหยุดซื้อแบนด์วิดท์อินเทอร์เน็ตจากประเทศไทย มีผลตั้งแต่เที่ยงคืนวันศุกร์" และเขายืนยันว่า "กัมพูชามีความสามารถเพียงพอที่จะให้บริการอินเทอร์เน็ตได้อย่างอิสระ"
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมของกัมพูชาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาน่าทึ่งมาก ณ ปี 2567 ประเทศมีเสาอากาศ 13,498 เสาทั่วประเทศ ทำให้การครอบคลุมของเครือข่าย 4G เพิ่มขึ้นจาก 84.2% ของประชากรและ 60% ของพื้นที่ในปี 2563 เป็น 93.2% ของประชากรและ 82% ของพื้นที่ในปี 2567
กระทรวงไปรษณีย์และโทรคมนาคมมีเป้าหมายที่จะให้บริการโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตครอบคลุมทั่วประเทศภายในปี 2570 ขณะนี้ครอบคลุมมากกว่า 80% ของประเทศแล้ว และกำลังพัฒนาเครือข่าย 5G ร่วมกับบริษัทเทคโนโลยีจากหลายประเทศ
ตลาดโทรคมนาคมของกัมพูชามีมูลค่า 3.17 พันล้านดอลลาร์ในปี 2568 และคาดว่าจะเติบโตเป็น 4.82 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2577 ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ย 4.74% ต่อปี
🌏 ความร่วมมือระหว่างประเทศที่หลากหลาย
สิ่งที่ทำให้กัมพูชาสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจคือการมีความร่วมมือกับหลายประเทศ ไม่ได้พึ่งพาประเทศใดประเทศหนึ่งเพียงแห่งเดียว ในปี 2567 กัมพูชา สิงคโปร์ และลาวได้ร่วมกันจัดตั้งคณะทำงานเพื่ออำนวยความสะดวกในการค้าไฟฟ้าข้ามแดน โดยมุ่งเน้นการพัฒนา ASEAN Power Grid
คณะทำงานนี้มีวัตถุประสงค์สามประการ ประการแรก วางกรอบการทำงานที่ครอบคลุมเพื่ออำนวยความสะดวกในการพัฒนาโครงการการค้าไฟฟ้าข้ามแดนภายใน ASEAN ประการที่สอง ปรับปรุงกระบวนการกำกับดูแลและขั้นตอนการออกใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับการผลิต ส่งออก และนำเข้าไฟฟ้า ประการสุดท้าย สำรวจช่องทางในการอำนวยความสะดวกด้านข้อตกลงทางการค้าและส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการผลิตและการส่งจ่าย
รัฐมนตรีพลังงานกัมพูชา เกียว รัตนัก กล่าวว่า "เรายินดีที่จะร่วมมือกับสิงคโปร์และลาวเพื่อพัฒนา ASEAN Power Grid ความพยายามร่วมกันของเราในการเชื่อมโยงด้านพลังงานในภูมิภาคและการแบ่งปันพลังงานสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพเป็นตัวอย่างที่ดี"
⚡ ผลกระทบทันทีที่เกิดขึ้นจริง
เมื่อกัมพูชาตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับไทยในเที่ยงคืนวันที่ 13 มิถุนายน ผลกระทบเกิดขึ้นทันที ผู้อยู่อาศัยในพนมเปญและเสียมราฐรายงานว่าประสบปัญหาการขัดข้องของบริการมือถือและความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
บริการ Smart mobile หยุดทำงานตั้งแต่เช้าตรู่ บริการ Cellcard ประสบปัญหาความเร็วที่ลดลง และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ทั่วประเทศประสบปัญหาการชะลอตัวอย่างมาก หลายคนแสดงความไม่พอใจต่อการขัดข้องที่ไม่คาดคิดท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กำลังดำเนินอยู่
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีไปรษณีย์และโทรคมนาคม เจีย วันเดท กล่าวว่า "การตัดการเชื่อมต่อจะทำให้ประเทศไทยสูญเสียรายได้สูงถึงหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ" และเขาเน้นว่า "ผลที่ตามมานี้เป็นผลจากการคุกคามจากประเทศไทย ซึ่งกัมพูชาได้ตอบสนองอย่างรวดเร็ว"
🎯 ยุทธศาสตร์ระยะยาวและการเตรียมความพร้อม
การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ใช่การกระทำแบบปฏิกิริยา แต่เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ระยะยาวที่กัมพูชาวางไว้ ตามแผนพัฒนาพลังงาน 2565-2583 กัมพูชามีเป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 42% ภายในปี 2573 เมื่อเทียบกับสถานการณ์ปกติ และเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในการผลิตไฟฟ้าเป็น 70% ภายในปี 2573
แผนพัฒนาพลังงานแห่งใหม่ของกัมพูชาวางแผนลงทุน 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อปรับปรุงเครือข่ายส่งจ่ายไฟฟ้า หลังจากรัฐบาลตัดสินใจหยุดสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินใหม่ โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติขนาด 900 เมกะวัตต์ใหม่กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา
นายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต ได้สั่งการให้กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกัมพูชาทบทวนสถานการณ์และเตรียมมาตรการฉุกเฉินเพื่อรับมือกับภัยคุกคามเพิ่มเติมใดๆ ต่อการจ่ายบริการที่สำคัญ เขากล่าวว่า "เรากำลังเตรียมดำเนินการเพิ่มเติมหากมีการคุกคามการขัดข้องอื่นๆ"
🌐 ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ในภูมิภาค
การตัดสินใจของกัมพูชาส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ในภูมิภาคอย่างมีนัยสำคัญ แต่รัฐมนตรีพลังงาน เกียว รัตนัก เน้นย้ำว่า "ข้อเท็จจริงที่ยืนยันแล้วเรื่องความเป็นอิสระด้านพลังงานของกัมพูชาในปัจจุบันนี้ ต้องไม่ถูกบิดเบือนไปในทางที่จะบ่อนทำลายความสำคัญของการสนับสนุนซึ่งกันและกันระหว่างกัมพูชาและไทย หรือเพื่อทำให้ความตึงเครียดทวิภาคีรุนแรงขึ้น"
เขายังกล่าวเสริมว่า "ความร่วมมือด้านไฟฟ้าข้ามแดนให้ประโยชน์ร่วมกันและควรมองว่าเป็นแบบอย่างของความร่วมมือที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์" และยืนยันความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของกัมพูชาต่อความร่วมมือด้านพลังงานในภูมิภาคและการสนับสนุนเป้าหมายการเชื่อมโยงของ ASEAN
การที่กัมพูชาสามารถดำเนินการได้สำเร็จแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างอำนาจในภูมิภาค ประเทศขนาดกลางสามารถสร้างความเป็นอิสระทางเศรษฐกิจได้หากมีการวางแผนที่ดีและการสนับสนุนจากหลายฝ่าย
💡 บทเรียนสำคัญและข้อคิดสำหรับอนาคต
ความสำเร็จของกัมพูชาให้บทเรียนสำคัญหลายประการ การวางแผนระยะยาวและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่องเป็นกุญแจสำคัญของความสำเร็จ การหลากหลายของแหล่งลงทุนและความร่วมมือช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มอำนาจต่อรอง การใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับทรัพยากรธรรมชาติของประเทศสร้างความได้เปรียบเชิงแข่งขัน
สำหรับประเทศอื่นในภูมิภาค การตัดสินใจของกัมพูชาอาจเป็นแรงบันดาลใจให้ลดการพึ่งพาประเทศใหญ่และสร้างความเป็นอิสระทางเศรษฐกิจมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ก็เป็นสัญญาณให้ประเทศที่เป็นผู้ส่งออกบริการต้องปรับยุทธศาสตร์และสร้างความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันมากขึ้น
🙋♀️ คำถามที่ถามบ่อย (FAQ)
กัมพูชาตัดไฟตัดเน็ตจากไทยจริงหรือไม่?
- จริง เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 13 มิถุนายน 2568 โดยมีการประกาศอย่างเป็นทางการจากนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
กัมพูชามีไฟฟ้าเพียงพอจริงหรือไม่?
- รัฐมนตรีพลังงานยืนยันว่า ขณะนี้กัมพูชาไม่ได้นำเข้าไฟฟ้าจากไทยเข้าสู่ระบบไฟฟ้าแห่งชาติเลย และมีไฟฟ้าเพียงพอสำหรับความต้องการภายในประเทศ
ผลกระทบต่ออินเทอร์เน็ตในกัมพูชาเป็นอย่างไร?
- มีการรายงานปัญหาการชะลอตัวและขัดข้องของบริการอินเทอร์เน็ตในวันแรก แต่รัฐบาลยืนยันว่ามีความสามารถให้บริการได้อย่างอิสระ
เหตุผลหลักของการตัดสินใจคืออะไร?
- เพื่อป้องกันความสับสนและความยากลำบากให้กับฝ่ายไทยในการตัดสินใจ และเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นอิสระทางเศรษฐกิจของกัมพูชา
จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาหรือไม่?
- รัฐมนตรีพลังงานกัมพูชาเน้นว่าไม่ควรบิดเบือนเหตุการณ์นี้ไปในทางที่จะบ่อนทำลายความสำคัญของการสนับสนุนซึ่งกันและกัน
กัมพูชาจะรับมือกับปัญหาเทคนิคได้หรือไม่?
- จากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานมาหลายปีและการมีแผนสำรองที่รอบคอบ น่าจะสามารถรับมือได้ แต่อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัว
ประเทศอื่นในภูมิภาคจะทำตามหรือไม่?
- ขึ้นอยู่กับความพร้อมและสถานการณ์ของแต่ละประเทศ แต่การตัดสินใจของกัมพูชาอาจเป็นแรงบันดาลใจให้ประเทศอื่นพิจารณาสร้างความเป็นอิสระทางเศรษฐกิจ
การตัดสินใจนี้จะส่งผลต่อ ASEAN หรือไม่?
- กัมพูชายืนยันความมุ่งมั่นต่อความร่วมมือใน ASEAN และ ASEAN Power Grid การตัดสินใจนี้อาจเป็นการเร่งการพัฒนาความร่วมมือในภูมิภาคให้หลากหลายมากขึ้น
🏆 บทสรุป การเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์
การตัดสินใจของกัมพูชาในการตัดไฟตัดเน็ตจากประเทศไทยเมื่อเที่ยงคืนวันที่ 13 มิถุนายน 2568 ไม่ใช่การกระทำแบบอารมณ์หรือปฏิกิริยาชั่วคราว แต่เป็นผลมาจากการวางแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวที่รอบคอบและการเตรียมความพร้อมที่สะสมมาหลายปี
การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชา ความสำเร็จในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและโทรคมนาคม และความมั่นใจในศักยภาพของประเทศ การลงทุนมูลค่า 5.79 พันล้านดอลลาร์ในโครงการพลังงาน 23 โครงการ และการพัฒนาเครือข่ายโทรคมนาคมที่ครอบคลุม 93.2% ของประชากร เป็นรากฐานที่แข็งแกร่งของการตัดสินใจครั้งนี้
ความสำเร็จของกัมพูชาเป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้ความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างชาญฉลาด การหลากหลายของแหล่งลงทุนจากจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มอำนาจต่อรอง การเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับทรัพยากรธรรมชาติ เช่น พลังน้ำและพลังงานแสงอาทิตย์ สร้างความได้เปรียบเชิงแข่งขันระยะยาว
สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การตัดสินใจของกัมพูชาอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าประเทศขนาดกลางสามารถสร้างความเป็นอิสระทางเศรษฐกิจได้หากมีการวางแผนที่ดีและการสนับสนุนที่เหมาะสม ในขณะเดียวกัน ก็เป็นบทเรียนสำหรับประเทศที่เป็นผู้ส่งออกบริการว่าต้องสร้างความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันและยั่งยืน
การเรียนรู้จากประสบการณ์ของกัมพูชาจะเป็นประโยชน์สำหรับประเทศอื่นๆ ที่ต้องการสร้างความเป็นอิสระทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในด้านพลังงานและโทรคมนาคมซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศในศตวรรษที่ 21 ความสำเร็จของกัมพูชาพิสูจน์ให้เห็นว่าด้วยการวางแผนที่ดี การลงทุนที่ต่อเนื่อง และความร่วมมือระหว่างประเทศที่หลากหลาย ประเทศเล็กก็สามารถสร้างความเป็นอิสระและความมั่นคงทางเศรษฐกิจได้จริง
#กัมพูชา #ความเป็นอิสระทางพลังงาน #โทรคมนาคม #เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ #พลังงานสะอาด #ยุทธศาสตร์ชาติ #ASEAN #ความร่วมมือระหว่างประเทศ #การพัฒนาอย่างยั่งยืน #เทคโนโลยี
อ้างอิง
Asian Development Bank. (2024). Cambodia Power Development Master Plan 2022-2040. ADB Energy Division.
Cambodia Ministry of Mines and Energy. (2025). Cambodia Confirms Stable Domestic Power Supply. Government Publishing Office.
Cambodia Ministry of Post and Telecommunications. (2025). MPTC: Cambodian Telecom Operators Disconnect Cross-Border Internet Links with Thailand. Official Government Statement.
Enerdata. (2025). Cambodia Energy Report. Energy Market Intelligence Division.
Laotian Times. (2025). Cambodia Cuts Thai Internet, Bans Entertainment, Affirms Power Independence. Regional News Analysis.
Nation Thailand. (2025). Cambodia to stop importing electricity and internet from Thailand. International Relations Desk.
Phnom Penh Post. (2025). Cambodia secure independent electricity and Internet supplies amid threats from Thailand. National Affairs Division.
SolarQuarter. (2024). Singapore, Lao PDR, And Cambodia Forge Alliance To Boost Cross-Border Electricity Trade. Regional Energy Cooperation Analysis.
The Better Cambodia. (2025). Cambodia's Plan for Nationwide Internet and Digital Transformation by 2027. Digital Development Research.
Xinhua News Agency. (2024). Cambodian gov't approves 23 power investment projects for next 6 years. Economic Development Bureau.
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
