ไม่นานมานี้มีข่าวที่น่าสนใจมาก: Meta ได้เข้าซื้อหุ้นบางส่วนของ Scale AI สตาร์ทอัพด้านการจัดการและอนิเทตข้อมูลระดับโลกที่เคยเป็นเบื้องหลังความสำเร็จของหลายโมเดลใหญ่ รวมถึง OpenAI ด้วย
Meta อาจเข้าถือหุ้นใน Scale AI แต่ไม่ได้หมายความว่า Scale จะเลิกให้บริการกับคู่ค้าเดิม หรือกลายเป็นบริษัทลูกที่ทำตาม Meta ทุกอย่าง
บริษัทด้าน AI ในยุคนี้ต่างก็มีโครงสร้างพันธมิตรที่ไขว้กันอย่างซับซ้อน บางครั้งคู่แข่งก็เป็นพันธมิตรในบางโครงการ เช่น OpenAI ทำงานกับ Microsoft แต่ก็ยังเปิดรับบริการจากบริษัทอื่นที่อาจจะอยู่ฝั่งตรงข้ามในบางมุม
เพราะในโลกของ AI "ใครมีข้อมูลดีกว่า คนนั้นได้เปรียบกว่า" และ OpenAI รู้ดีว่าการจะพัฒนาโมเดลระดับโลก มันต้องเลือกมืออาชีพที่สุดในแต่ละด้าน แม้บางคนจะถือหุ้นไขว้กับคู่แข่งก็ตาม
---
บทเรียนจากเรื่องนี้: ในโลกของ AI ไม่มีคำว่า ‘เพื่อนแท้’ หรือ ‘ศัตรูถาวร’
OpenAI ไม่หยุดทำงานกับ Scale AI แม้ Meta จะเข้ามาถือหุ้น นั่นแปลว่า “ความสัมพันธ์นี้มีคุณค่ามากกว่าการเมืองของวงการ”
ใครที่มองว่า AI คือการแข่งขันแบบ zero-sum game อาจต้องคิดใหม่ เพราะสิ่งที่เรากำลังเห็น คือยุคของความร่วมมือที่ยืดหยุ่น และขับเคลื่อนด้วยประสิทธิภาพมากกว่าภักดีต่อค่าย