14 มิ.ย. เวลา 13:08 • นิยาย เรื่องสั้น

รักย้อนอดีตภาค 5 ภัยร้ายจากดาวหางฮัลเลย์

.
บทที่ 41 ท่านเซียนผู้ทรงศีล
.
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงพวกเขาก็จัดตั้งสภาสงคราม พวกผู้บังคับบัญชาของหน่วยทหารมาอยู่กันพร้อมหน้าซึ่งรวมทั้งกองทหารที่ตระเวณโดยรอบนครลู
.
เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะมนต์วิเศษที่ดับแสงจันทร์จนมืดมิดของผู้วิเศษที่เป็นขวัญกำลังใจของเหล่าทหาร ตอนนี้พวกเขาพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับกองทัพปีศาจจำ
นวนนับแสนแล้ว
.
อินฟาดูสมั่นใจว่าการโจมตีของทวาลายังไม่เริ่มใน2-3วันนี้ เพราะต้องรอการทำพิธีปลุกปีศาจจากอเวจีที่ภูเขา3แม่มด ในระหว่างนี้อิกโนสีจึงต้องเตรียมแผนรับมือและเอาชนะทั้งทวาลาที่ยังมีกองทหารส่วนตัวอีกไม่น้อยแล้วยังกองทัพปีศาจ
.
มนุษย์ด้วยกันเป็นหน้าที่ของอินฟาดูสและพวกผู้บังคับบัญชาคนอื่น ๆ ที่จะเกลี้ยกล่อมให้ทหารเหล่านี้มาเข้าพวก แต่จะสำเร็จเพียงใดไม่อาจรับรอง เพราะคนส่วนใหญ่มักเกรงพระเดชและการบังคับมากกว่าเกรงพระคุณและความเมตตา
.
ส่วนการต่อสู้กับปีศาจเป็นหน้าที่ของอิกโนสี ซึ่งเขาได้ขอเวลาอยู่ตามลำพังเพื่อหาวิธีการ แท้จริงแล้วก็เพื่อติดต่อท่านเซียนผู้เป็นพระอาจารย์
.
"อิกโนสี" เสียงเมตตาของท่านเซียนผู้เป็นพระอาจารย์ดังขึ้นเบาๆโดยไม่เห็นต้วของท่าน "ตอนนี้อาจารย์อยู่บนสวรรค์แต่ก็เฝ้าดูเจ้าด้วยความห่วงใย และดีใจที่เจ้ามีมิตรที่ดี มีอาที่ดี มีกองทหารนักรบชั้นดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเจ้าก็ต้องเป็นคนดีด้วย สิ่งดีๆเหล่านี้จึงมาสู่เจ้าได้
.
อาจารย์เป็นผู้ทรงศีลไม่อาจฆ่าหรือทำลายชีวิต แต่ก็เป็นโชคดีของเจ้าอีก ที่สิ่งที่เจ้าต่อสู้ด้วยหาชีวิตไม่แล้ว จึงถือว่าอาจารย์ไม่ได้ผิดศีลสามารถช่วยเหลือศิษย์ได้ เจ้าจะระดมคนได้เพิ่มไม่เกืน2พันคนเท่านั้น"
.
ถึงตอนนี้อิกโนสีได้ขัดขึ้น "อาจารย์ครับ ผมมีหนทางอื่นที่จะไปหาคนเพิ่มได้อีกหรือไม่"
.
"อาจารย์เห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าจึงบอกได้เพียงว่า ไม่ แท้จริงแล้วคุณภาพของกองทัพไม่ได้ขึ้นกับจำนวนอยู่ที่การวางแผนสู้รบอันชาญฉลาดใช้คนให้ถูกกับงาน
.
อาจารย์ขอแนะนำให้เจ้าเตรียมคนไปทำแนวรบด้านหน้าของแม่น้ำฝั่งทิศใต้ ให้ใกล้ภูเขา3แม่มดเพราะกองทัพปีศาจจะตั้งต้นที่นั่น โดยมีแม่น้ำสายใหญ่คดเคี้ยวของนครลูเป็นปราการหลังของเจ้า
.
จัดแนวรบให้ได้5ด่านๆละ4พันคนซึ่งต้องใช้คน 2หมื่นคน อีก2พันคนประจำการที่ค่ายทหารตั้งทัพรายรอบที่มั่นป้องกันและคอยคุ้มกันค่าย
เพราะแม่น้ำสายนี้โอบล้อมค่ายจึงเป็นจุดอ่อนให้ทวาลาใช้ประโยชน์จากแม่น้ำด้วยการส่งคนลอบขึ้นฝั่ง ที่นี่ให้อาของเจ้าบัญชาการ
.
แนวรบปีศาจในแต่ละแนวรบจะต้องจัดทหารราว 50 คนเป็นคนตีกลองเพื่อบอกจังหวะการต่อสู้ซึ่งมี 4 จังหวะคือ เตรียมรบ โรมรัน ถอยฉาก และ วิ่งหนี"
.
อิกโนสี "เดี๋ยวก่อนครับอาจารย์ เตรียมรบ โรมรัน ถอยฉาก ผมเข้าใจ แต่วิ่งหนีนี่ผมไม่เข้าใจครับ"
.
"อ้าวถ้าไม่วิ่งจะหนีทันเรอะ"
.
อิกโนสี "OK ผมเข้าใจแล้ว แต่ทำไมอาจารย์ไม่จัดการกำจัดกองทัพปีศาจตั้งแต่แรกทีเดียวครับ"
.
"แน่นอนว่าอาจารย์สามารถทำได้ เนื่องจากกาก้าคนเรียกปีศาจแก่หง่อมมากแล้วแถมยังสร้างแต่กรรมชั่ว พลังเวทย์จึงมีแต่เสื่อมลงทำให้ปีศาจที่ปลุกขึ้นมาจำนวนแสนไม่มีพิษสงอะไรแถมเคลื่อนตัวได้ช้ามาก
.
แต่อิกโนสีศิษย์รัก สิ่งที่ได้มาง่ายเกินไปนั้นหามีคุณค่าไม่ เจ้าต้องร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับคนของเจ้า
เพื่อให้คนของเจ้ามีความไว้ใจทั้งเชื่อมั่นในตัวของผู้นำจึงจะได้ความรักความภักดีโดยไม่ต้องมีมนต์วิเศษและปาฏิหารย์มาเป็นตัวช่วย
.
ด่านที่ 1 เจ้าควรเป็นผู้นำกำลังทหารจัดการปีศาจด้วยการตัดคอเท่านั้นให้ได้มากเท่าที่ทำได้อย่างน้อย1ต่อ3-4 แล้วถอยร่นมาให้ด่านที่2รับหน้าจัดการด้วยวิธีเดียวกัน ในด่านที่2นี้ให้หัวหน้าทหารบัญชาการ เช่นเดียวกันกับด่านที่3และ4
.
แล้วเจ้ามาร่วมบัญชาการในด่านที่5ร่วมกับนายทหารรูปหล่อแสนสุริยาและหญิงชุดดำ ซึ่งด่านที่5เป็นด่านสุดท้ายคือด่านริมน้ำซึ่งรับหน้าที่หนักที่สุด
.
เพราะนอกจากต้องอำนวยความสะดวกในการที่ทหารแต่ละด่านที่ถอยนับเป็นหมื่นคนต้องข้ามแม่น้ำด้วยสะพานไปยังที่มั่นคือค่าย ยังต้องคอยจัดคิวให้เป็นระเบียบกันสะพานพังและคอยระวังหลังให้อีกด้วยตอนหนีชุดสุดท้าย
.
หากแผนการบรรลุเป้าในแต่ละด่านจะเหลือปีศาจที่ด่านริมน้ำนี้เพียง2หมื่นเศษ นี่คิดอย่างถ่อมตัวนะที่จริงไม่น่าถึง2หมื่นด้วยซ้ำ จึงต้องมียอดฝีมือคอยคุมด่านสุดท้ายนี้
.
อิกโนสี "ทำไมจึงต้องกำจัดปีศาจให้เหลือน้อยที่สุดในด่านนี้ครับ"
.
"เพราะปีศาจพวกนี้สร้างจากทราย หากมีมากเกินไปจะทำให้แม่น้ำตื้นเขินและหากไม่ทำการขุดลอก พอถึงหน้าฝนก็เจอปัญหาน้ำรอการระบาย พูดง่ายๆก็น้ำท่วมนั่นแหละ
.
ด่านริมน้ำนี้ให้ตาลุงจากประเทศไทยทำทีเหมือนกำลังร่ายเวทย์ให้น้ำในแม่น้ำหายไปโดยอาจารย์จะหายตัวไปคอยบอกบท
หลังจากที่ด่านนี้ตัดกำลังให้ปีศาจลดจำนวนเท่าที่ทำได้ก็รีบถอยข้ามสะพานแล้วทำลายสะพานทิ้ง
.
เมื่อพวกปีศาจอยู่กลางแม่น้ำที่แห้งเหือดแล้ว อาจารย์จะบันดาลให้เกิดน้ำท่วมจำนวนมหาศาลซัดกองทัพปีศาจสลายไปกับสายน้ำเหมือนหนังเรื่องบัญญัติ10 ประการ"
.
อิกโนสีทรุดกายลงโขกศีรษะคำนับอาจารย์ทั้งที่ไม่เห็นตัว "ลุกขึ้นเถิดอิกโนสีศิษย์รัก" เป็นเสียงที่เปี่ยมเมตตาของท่านเซียนผู้เป็นพระอาจารย์
"จงรำลึกเสมอว่า เจ้าเป็นศิษย์ของอาจารย์ตลอดไป เมื่อใดที่ประสบปัญหาจงรำลึกถึงอาจารย์ แล้วอาจารย์จะมาช่วย"
.
อิกโนสี "อาจารย์เป็นเซียนผู้ทรงศีลทำไมรู้เรื่องการรบครับ"
.
"ก่อนเป็นเซียนผู้ทรงศีล อาจารย์เป็นแม่ทัพมาก่อน ปกป้องประเทศจีนในสมัยของจิ๋นซีฮ่องเต้ พระจักรพรรดิองค์แรกของจีนแห่งราชวงศ์ฉินและผู้สร้างจักรวรรดิจีนที่รวมเป็นหนึ่งคนแรก
ทั้งบังคับให้ใช้อักษรจีนแบบเดียวกันทั้งประเทศด้วย นั่นคือช่วงเวลา2ร้อยกว่าปีก่อนคริสตกาล เท่ากับ2พันกว่าปีมาแล้ว"
.
อิกโนสี "อาจารย์อายุ2พันกว่าปีแล้วหรือครับ"
.
"2พันกว่าปีแล้วยังไง รู้ไหมว่านี่เป็นอายุที่น้อยและหนุ่มที่สุดในเซียนทั้งหมด เพราะแต่ละคนล้วน 5 พันปีupทั้งนั้น"
.
อิกโนสี "อาจารย์มาเป็นเซียนได้อย่างไรครับ"
.
"จู่ๆอาจารย์ก็เบื่อเรื่องการสู้รบฆ่าฟัน นอนกลางดิน กินกลางทราย เมื่อการสงครามสงบบ้านเมืองร่มเย็น อาจารย์จึงปลีกวิเวกไปอยู่ในภูเขาตามลำพัง โดยไม่สนใจลาภยศสรรเสริญ
.
รับประทานมังสวิรัติวันละมื้อๆละกาละมังเป็นเวลา 3 ปี ระหว่างนั้นสวดมนต์อุทิศส่วนกุศลที่มีหรือเปล่าก็ไม่รู้ให้ผู้ที่อาจารย์เคยฆ่าตอนสงครามแม้จะทำตามหน้าที่ก็ตาม
.
ครบ 3 ปีอาจารย์ก็ชำระกายให้สะอาดแต่งชุดขาว แล้วนั่งสมาธิตั้งใจจะไม่ลุกขึ้นมาอีก ฟ้าถล่มดินทลายก็ไม่สนใจ รู้แต่ไม่มีเป้าประสงค์ใดๆทั้งสิ้นในการนั่งนิ่งๆครั้งนี้ แล้วอาจารย์ก็เข้าสู่ภวังค์
.
ในตอนนั้นอาจารย์พบว่าตนเองมีที่พักเป็นวิมานบนสวรรค์ เหาะเหิรได้เหมือนนก อิ่มทิพย์ ยังคงความหนุ่มเหมือนตอนอายุ 50 ปี ได้สนทนาธรรมกับเซียนที่แต่ละท่านล้วนเป็นคนชรา
 
.
อาจารย์จึงเป็นคนหนุ่มเพียงคนเดียวที่ไว้หนวดเครายาวเหมือนเซียนชราเหล่านั้น แต่แม้จะหนุ่มฟ้อก็ไม่น่าดีใจหรอกเพราะนางฟ้าสาวๆสวยๆหาไม่ได้สักคน ที่มีอยู่มากมายแต่ละคนก็ล้วนแต่หญิงชราเช่นกัน
.
มารู้ตัวอีกทีเวลาได้ผ่านไปพันปีและกลายเป็นเซียนสมบูรณ์แบบ อาจารย์จึงได้ตั้งสำนักบนโลกมนุษย์เพื่อฝึกสอนการทำดีมีฝีมือ แม้จะมีลูกศิษย์มากมายแต่ไม่มีสักคนที่โด่งดังเป็นที่รู้จักของโลก
 
.
จนกระทั่งมีลิงที่เกิดจากหินวิเศษมาขอเป็นศิษย์ ลิงตัวนี้เก่งกล้าหัวแหลมเหมือนหัวลิง อ้อ...อาจารย์ลืมไปว่ามันเป็นลิง
มันเรียนรู้วิชาของอาจารย์จนจบครบหมดไม่ว่าการต่อสู้ทั้งมือเปล่าและอาวุธ แปลงกาย 72 แบบ เรียกเมฆมาเป็นพาหนะเหาะไปมา เรียนจบทั้งสิ้นภายในคืนเดียว
.
อาจารย์จึงตั้งชื่อแซ่ให้ว่า ซุน และนามว่า หงอคง เพราะเก่งกล้าไม่มีใครเกินมันจึงไปก่อเรื่องบนสวรรค์จนปั่นป่วน ไม่มีเทพองค์ใดปราบได้แม้แต่นาจาที่ว่าแน่ๆ
.
ทำให้อาจารย์ได้คิดว่ามันไม่ใช่ความผิดของหงอคงเลย มันเป็นลิงป่ามันก็ซนไปตามเรื่อง เพราะมันไม่ได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตใคร
อาจารย์อับอายตัวเองที่อยากสอนวิชาแต่ไม่เลือกศิษย์ที่เหมาะสม จึงปิดสำนักหนีไปปลีกวิเวกซ่อนตัวในภูเขาอีกรอบ
 
.
จนเวลาผ่านไปอีกพันกว่าปีอาจารย์เบื่อจึงออกมาเหาะแก้เซ็งจนมาพบเจ้าเข้า ส่วนตอนนี้เจ้าลูกศิษย์หงอคงก็ไปก่อเรื่องยุ่งและกำลังเรียกให้อาจารย์ช่วยอีกแล้ว เฮ้ออาจารย์ต้องไปแก้ปัญหาให้มันก่อน 3วันข้างหน้าเราค่อยพบกัน"
.
ด้วยน้ำตาหลั่งรินอิกโนสีทรุดกายลงโขกศีรษะคำนับอาจารย์ทั้งที่มองไม่เห็นและอาจารย์ไม่อยู่แล้ว รำลึกถึงอาจารย์ด้วยความซาบซึ้ง แล้วความคิดของเขาก็สะดุดลง เมื่อคณะของลุงเดินเข้ามา
.
"ท่านลุง" อิกโนสีเอ่ยขึ้น "ท่านเซียนอาจารน์ของข้าเพิ่งไปเมื่อครู่ ท่านช่วยวางแผนการรบและกำจัดกองทัพปีศาจ......"
แล้วอิกโนสีได้เล่ารายละเอียดทั้งหมดให้ฟัง ทั้งขอร้องให้ลุงรับสมอ้างเป็นท่านเซียนอีกด้วย ซึ่งลุงก็จำยอมทั้งที่ไม่ต้องการโกหก แต่เพื่อโค่นล้มทวาลาจอมโหด เอาไงเอากัน
.
จบบทที่ 41 ภาพปก ซุนหงอคงแห่ง journey to the west 1986 ที่สร้างโดยจีนแผ่นดินใหญ่ นำแสดงโดยจางจินไหล ทุกวันนี้เขาเป็นสัญลักษณ์ของปีวอก(ลิง)
โฆษณา