ความเจ็บปวดที่ไม่มีใครฟัง หมายถึง ความเจ็บปวดทางใจ ที่ไม่ได้รับสัมผัสจากความเข้าอกเข้าใจจาก "คนที่คุณต้องการเท่านั้น" ย้ำอีกครั้ง "คนที่คุณต้องการให้เขารับฟังเท่านั้น" ซึ่งหากเขาเป็นผู้มีอุปนิสัยไม่ชอบดราม่าเหมือนเรา คุณก็คงต้องโอเคอยู่แล้ว เป็นที่แน่แท้เลยทีเดียวเชียวแหละนะที่รัก
หลายคนที่มีความรู้สึกแบบคุณ เป็นคนที่ภาษาปะกิตเรียกว่า "demanding" ซึ่งคนกลุ่มนี้จำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะทำความเข้าใจอุปนิสัยตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก เพราะข้างในใจนั้น มันไม่ใช่ซากปรักหักพังอย่างแท้จริง แต่มันอาจเป็น "ความรู้สึกหมกมุ่นเอาแต่ใจ" หรือเปล่า?
ปรัชญาแห่งความเจ็ปปวด (Pain Philosophy) แท้จริงแล้วมันเป็นแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อที่ว่า ความเจ็บปวดเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและสามารถนำไปสู่การเติบโตทางจิตใจหรือปัญญาได้ ความเจ็บปวดอาจถูกมองว่าเป็นบทเรียน หรือเครื่องมือที่ช่วยให้เราเข้าใจตนเองและโลกได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น... ตามนี้นะ อ่านสองรอบก่อนนะคะ
ดังนั้น ปรัชญาแห่งความเจ็บปวด จึงไม่ได้สอนให้คุณสร้างพื้นที่ปลอดภัยและแผนการเอาชีวิตรอดของจิตใจแต่อย่างใด แต่มันสอนให้คุณเรียนรู้ว่า ;
1. คุณไม่ได้เป็นมนุษย์เพียงคนเดียวในโลกที่มีความเจ็บปวดทางจิตใจ และหากใครบอกคุณว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีความเจ็บปวดทางจิตใจใดๆเลย คนๆนั้นก็กำลังโกหกคุณอย่างหน้าด้านๆ ความเจ็บปวด จึงเป็นความธรรมดาของมนุษย์ทุกคน
2. เมื่อคุณตระหนักรู้ตามข้อ 1 แล้วก็ค่อยๆ ใคร่ครวญน้อมเข้ามาพิจารณาที่ "ตัวเอง" ว่า "ทำไมเราจึงไปหมกมุ่นอยู่แต่กับความเจ็บปวด มันได้อะไรขึ้นมาบ้าง" ทำอย่างนี้หลายๆครั้ง คุณจะเริ่มหิวน้ำ หิวมาม่ารสต้มยำทันที
3. เมื่อคุณหิวน้ำ หิวมาม่ารสต้มยำ คุณก็จะทำ 2 อย่างคือ ลุกไปต้มน้ำและแกะซองมาม่า เพื่อทำมาม่าทาน ณ ขณะที่คุณกำลังทำมาม่า หรือทานมาม่า ความรู้สึกหมกมุ่นเมื่อสักครู่ มันจะหายไปพลัน
จิตมนุษย์นั้น มหัศจรรย์มาก
เรื่องราวมันไม่มีอะไร
มันก็มักจะทำให้มีอะไร
แต่พอเรื่องราวมันมีอะไร
มันก็กลับลำ บอกว่าไม่มีอะไร..
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
