17 มิ.ย. เวลา 11:50 • ปรัชญา
เมื่ออยากเมื่อนั้นมีการยึดติดถึงผลลัพธ์เกิดขึ้นในใจแล้ว
ถ้าสมหวังกับสิ่งที่ยึดติด ความสุข ความพึงพอใจก็เกิดขึ้น
แต่ถ้าไม่ ความทุกข์ ความไม่พอใจก็จะตามมาได้เช่นกัน
แพชชั่นก็อยู่ในกลไกนี้
เพียงแต่แพชชั่นมุ่งที่การได้มาของสิ่งที่ปรารถนา(อยาก) มักเป็นในเชิงบวกต่อตัวเอง
ความอยากเป็นตัวผลักดันให้เราใช้ความพยายาม กระทำกรรม เพื่อหวังได้รับผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยมีความพึงพอใจเป็นรางวัลล่อเราไว้
ในระดับสัจธรรมความอยากทำให้เกิดทุกข์ได้ตั้งแต่เริ่มอยาก
แต่ถือว่าโชคดีแล้วกันที่คนส่วนใหญ่ไม่สามารถรับรู้ถึงระดับนี้เท่าไหร่นัก
คนเราจะรู้สึกทุกข์เพราะความอยากก็ตรงที่ไม่สมอยาก
แต่ก็มีรางวัลตรงที่สมอยากที่จะได้ความพึงพอใจ ความสุขเป็นรางวัล
ความอยากนำสู่การกระทำกรรมเพื่อจะได้ผลที่อยาก
แยกเป็นความอยาก การลงมือทำ ผลลัพธ์ที่ตามมา
ในทางใจเมื่อมีความอยากมีคนไม่น้อยที่ใจไปยึดจับที่ผลลัพธ์โดยไม่รู้ตัวเหมือนเป็นการวางกับดักตัวเองว่าต้องสมอยากเท่านั้น ทั้งๆที่ความเป็นจริงมีได้ทั้งสมอยากและไม่สมอยาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกข์ถ้าเกิดจะเข้มข้นขึ้น เหมือนหวังสูงถ้าตกลงมาก็เจ็บหนัก
ถ้าใจของผู้นั้นเข้าใจว่าความอยากไม่ได้เป็นเหตุให้เกิดผลลัพธ์ที่ต้องการ
แต่เป็นการทำเหตุปัจจัย กระทำกรรมที่จำเป็นที่จะทำให้เกิดผลลัพธ์ได้
ซึ่งถึงแม้ว่าไม่อยากแต่ถ้ากระทำเหตุปัจจัยที่นำไปสู่ผลลัพธ์ก็จะได้ผลเช่นกัน
ด้วยความเข้าใจนี้ทำให้ผู้นั้นคลายความยึดถือในผลลัพธ์ที่อยากไปสนใจที่การกระทำเหตุปัจจัย ซึ่งเมื่อทำได้แค่ไหนก็แค่นั้น ผลลัพธ์ก็เกิดขึ้น
ถึงแม้ผลลัพธ์ไม่เกิดขึ้นตามความอยาก ทุกข์ ความไม่พึงพอใจก็จะไม่เข้มข้นเท่ากับที่เอาใจไปยึดคาดหวังผลลัพธ์
ความอยากสำหรับคนทั่วไปพึงยอมให้มันเกิดพร้อมกับจิตใจด้านอื่นด้วย เช่นการคลายความยึดถือ การเข้าใจเรื่องการทำเหตุปัจจัย การเข้าใจเรื่องไตรลักษณ์ ฯลฯ
เมื่อทำได้ดังนี้ ความอยากถึงแม้จะเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ได้ก็จะไม่เข้มข้นหนักหน่วงจนใจทรุดโทรม ทุกข์นาน
1
โฆษณา