Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Witly. - เปิดโลกวิทย์แบบเบา ๆ
•
ติดตาม
28 มิ.ย. เวลา 00:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
🌀 ไขปริศนา "ดาวสสารมืด" | การค้นพบล่าสุดจากกล้องเจมส์ เว็บบ์ ที่สั่นสะเทือนวงการดาราศาสตร์
กล้องโทรทรรศน์เจมส์ เว็บบ์ (JWST) กำลังพาเราไปสำรวจความลับของจักรวาลยุคแรก และมันก็ได้พบกับวัตถุที่ "สว่างผิดปกติ" และ "ใหญ่เกินจริง" จนท้าทายทุกความเข้าใจของเรา...
นักดาราศาสตร์เคยคิดว่ามันคือกาแล็กซียุคแรก แต่ทฤษฎีล่าสุดที่ทั้งล้ำและบ้าบิ่นเสนอว่า มันอาจเป็นสิ่งที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนเลย: "ดาวฤกษ์สสารมืด" (Dark Stars) ซึ่งเป็นดาวฤกษ์ที่ไม่ได้ใช้พลังงานจากนิวเคลียร์ฟิวชันเหมือนดาวทั่วไป แต่ใช้พลังงานจากการที่ "สสารมืด" ทำลายล้างกันเอง!
การค้นพบนี้กำลังเป็นที่ถกเถียงในวงการดาราศาสตร์อย่างมาก และอาจเปลี่ยนความเข้าใจของเราเกี่ยวกับจักรวาลไปตลอดกาล
สรุปสั้นๆ สำหรับคนอยากรู้เร็ว:
กล้อง JWST ค้นพบวัตถุสว่างขนาดใหญ่ที่อาจเป็น "ดาวสสารมืด" ตามทฤษฎี การค้นพบนี้กำลังถูกท้าทายโดยทฤษฎี "ดาวฤกษ์ดึกดำบรรพ์มหึมา" และกลายเป็น "สงครามแห่งทฤษฎี" ที่อาจเปลี่ยนความเข้าใจของเราเกี่ยวกับสสารมืดและจักรวาลยุคแรก
⭐ "ดาวสสารมืด" คืออะไร?
ย้อนกลับไปในปี 2007 แคทเธอรีน ฟรีส (Katherine Freese) และทีมงาน ได้เสนอทฤษฎีว่า ในยุคแรกของจักรวาล กลุ่มก๊าซขนาดยักษ์อาจผสมเข้ากับ "สสารมืดชนิดที่ทำลายล้างตัวเองได้" (self-annihilating dark matter)
ตามปกติ กลุ่มก๊าซที่ใหญ่ขนาดนั้นควรจะยุบตัวลงกลายเป็น "หลุมดำ" แต่ถ้ามีสสารมืด พลังงานมหาศาลที่ปลดปล่อยออกมาจากการที่สสารมืดทำลายล้างกันเอง จะทำหน้าที่เป็น "แรงต้าน" การยุบตัว ทำให้กลุ่มก๊าซร้อนขึ้นและก่อตัวเป็นวัตถุคล้ายดาวฤกษ์ที่เสถียรและมีขนาดใหญ่ยักษ์ได้
และที่สำคัญคือ ดาวฤกษ์ชนิดนี้ไม่ได้ใช้พลังงานจาก "ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชัน" เหมือนดาวทั่วไป แต่ใช้พลังงานจากการเผาไหม้สสารมืดแทน
🔭 หลักฐานใหม่จากกล้องเจมส์ เว็บบ์
ในปี 2022 กล้อง JWST ได้เริ่มค้นพบวัตถุที่สว่างและอยู่ไกลมากจำนวนมากผิดปกติ ซึ่งในตอนแรกคาดว่าเป็นกาแล็กซี แต่ฟรีสและทีมของเธอกล่าวว่า ผลการสังเกตการณ์เชิงสเปกตรัม (spectroscopic observations) ชุดใหม่จาก JWST นั้น สอดคล้องกับการคาดการณ์ทางทฤษฎีว่าดาวสสารมืดควรจะมีลักษณะอย่างไรเป็นอย่างดี และพวกเขายังได้พบผู้ท้าชิงเพิ่มอีก 2 ดวงด้วย
หนึ่งในผู้ท้าชิงรายใหม่ยังมี "คำใบ้ที่น่าตื่นเต้น" ของฮีเลียมชนิดพิเศษ ซึ่งถ้าหากยืนยันได้ มันจะเป็นเหมือน "ลายนิ้วมือ" ที่ระบุตัวตนของดาวสสารมืดโดยเฉพาะ
⚔️ สงครามแห่งทฤษฎี: ดาวสสารมืด vs. ดาวยักษ์ดึกดำบรรพ์
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วย... และนี่คือจุดที่เรื่องราวน่าตื่นเต้นขึ้นครับ
แดเนียล วาเลน (Daniel Whalen) จาก University of Portsmouth โต้แย้งว่า "ดาวฤกษ์ดึกดำบรรพ์มหึมา" (supermassive primordial stars) ซึ่งเป็นทฤษฎีทางเลือกที่ไม่ต้องใช้สสารมืด ก็สามารถอธิบายข้อมูลจาก JWST ได้ดีไม่แพ้กัน
เรื่องราวยิ่งซับซ้อนขึ้นไปอีก เมื่อการสังเกตการณ์อีกชุดหนึ่งบ่งชี้ว่ามี "ออกซิเจน" อยู่ในวัตถุเหล่านั้น ซึ่งเป็นธาตุที่ไม่ควรจะพบในดาวสสารมืด
• คำอธิบายของฝ่ายดาวสสารมืด: พวกเขาเสนอว่าดาวสสารมืดอาจอยู่ปะปนกับดาวฤกษ์ธรรมดาที่ระเบิดและปล่อยออกซิเจนออกมา
• คำอธิบายของฝ่ายดาวดึกดำบรรพ์: พวกเขามองว่าออกซิเจนคือ "สัญญาณที่ชัดเจน" ว่าวัตถุเหล่านี้ "ไม่สามารถ" เป็นดาวสสารมืดได้ เพราะการระเบิดของดาวฤกษ์ธรรมดาจะรบกวนการก่อตัวของดาวสสารมืดตั้งแต่แรก
ณ ตอนนี้ หลักฐานจึงยังไม่เป็นที่สิ้นสุด และการถกเถียงทางวิทยาศาสตร์อันเข้มข้นยังคงดำเนินต่อไป ผลลัพธ์ของสงครามทฤษฎีนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันไม่ได้เป็นแค่การตัดสินว่าดาวดวงนั้นคืออะไร แต่มันอาจจะยืนยันหรือหักล้างความเข้าใจพื้นฐานของเราเกี่ยวกับ "ธรรมชาติของสสารมืด" ที่เป็นปริศนาใหญ่ที่สุดของจักรวาล
🏡 แล้วเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเราอย่างไร?
การค้นพบและการถกเถียงในระดับโลกเช่นนี้ คือสิ่งที่ขับเคลื่อนวงการดาราศาสตร์ไปข้างหน้า และประเทศไทยก็เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางครั้งนี้ครับ ผ่าน "สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)" หรือ NARIT ซึ่งมีเครือข่ายกล้องโทรทรรศน์ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ทำงานร่วมกับนานาชาติ
แม้การค้นพบนี้จะมาจากกล้อง JWST แต่การมีอยู่ของ NARIT และนักดาราศาสตร์ไทย ทำให้เราเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลกที่กำลังร่วมกันไขปริศนาของจักรวาล การถกเถียงเรื่องดาวสสารมืดในวันนี้ อาจนำไปสู่ความเข้าใจใหม่ๆ ที่นักดาราศาสตร์ของไทยจะได้ร่วมศึกษาและต่อยอดในอนาคต
🎯 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ ทฤษฎีดาวสสารมืด: มีแนวคิดว่าดาวฤกษ์ยักษ์ในยุคแรกของจักรวาลอาจใช้ "การทำลายล้างตัวเองของสสารมืด" เป็นแหล่งพลังงาน แทนที่จะเป็นนิวเคลียร์ฟิวชัน
✅ หลักฐานใหม่จาก JWST: ข้อมูลสเปกตรัมล่าสุดจากกล้องเจมส์ เว็บบ์ สอดคล้องกับการมีอยู่ของดาวสสารมืดอย่างน่าทึ่ง
✅ สงครามทฤษฎี: การค้นพบนี้ยังไม่เป็นที่สิ้นสุด และกำลังถูกท้าทายโดยทฤษฎีทางเลือกอย่าง "ดาวฤกษ์ดึกดำบรรพ์มหึมา" ที่ไม่ต้องใช้สสารมืด
✅ ปริศนาออกซิเจน: การพบออกซิเจนในวัตถุต้องสงสัยกลายเป็นจุดถกเถียงสำคัญ โดยทั้งสองฝ่ายต่างใช้อธิบายเพื่อสนับสนุนทฤษฎีของตนเอง
✅ วิทยาศาสตร์ที่กำลังเคลื่อนไหว: เรื่องนี้คือตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ที่ความก้าวหน้าเกิดจากการเสนอหลักฐาน, การโต้แย้ง, และการแสวงหาคำตอบต่อไป
💖 มาช่วยกันขับเคลื่อน "Witly" กันครับ!
การส่องกล้องโทรทรรศน์เพื่อไขความลับของจักรวาล คือการพยายามมองหาแสงริบหรี่ท่ามกลางความมืดมิดอันกว้างใหญ่...
เป้าหมายของ Witly ก็เช่นกัน คือการทำหน้าที่เป็น "กล้องโทรทรรศน์" ที่ส่องเข้าไปในโลกวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อน แล้วนำแสงแห่งความรู้นั้นมาเล่าให้ทุกคนเข้าใจ
ทุกการสนับสนุนผ่าน "ค่ากาแฟ" ของคุณ คือพลังงานที่ช่วยให้ "เลนส์" ของเราคมชัดและสามารถสำรวจความมหัศจรรย์ของจักรวาลต่อไปได้ครับ
💬 แล้วคุณล่ะครับ...
ระหว่างทฤษฎี "ดาวสสารมืด" กับ "ดาวฤกษ์ดึกดำบรรพ์มหึมา" จากหลักฐานที่มีอยู่ตอนนี้ คุณเอนเอียงไปทางฝั่งไหนมากกว่ากัน? และถ้าเลือกได้ คุณอยากให้ JWST หันกล้องไปสำรวจความลับอะไรในจักรวาลเป็นลำดับต่อไป?
มาแบ่งปันมุมมองกันในคอมเมนต์... และถ้าอยากชวนเพื่อนมาถกกันเรื่องจักรวาล ก็ "แชร์" ได้เลยนะครับ 🔭✨
🔎 แหล่งอ้างอิง
1. Freese, K., et al. (2025). Spectroscopic Supermassive Dark Star candidates. arXiv.
http://doi.org/pqrg
วิทยาศาสตร์
ดาราศาสตร์
อวกาศ
บันทึก
1
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
NEWS BRIEF
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย