18 มิ.ย. เวลา 10:11 • ข่าว

10 ปีหลัง = 10 ปีที่ร้อนที่สุด

ปี 2024 ได้รับการบันทึกว่าเป็นปีที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกสูงกว่าระดับก่อนยุคอุตสาหกรรมถึง 1.6°C
ปี 2025 ที่เพิ่งเริ่มต้นก็ยังคงร้อนต่อเนื่อง! เดือนมกราคมที่ผ่านมา อุณหภูมิโลกสูงกว่าระดับก่อนยุคอุตสาหกรรมถึง 1.75°C ซึ่งเกินขีดที่โลกควรจะหยุดไว้ที่ 1.5°C ตามข้อตกลงปารีสไปแล้วอย่างน่ากังวล
แม้อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกในเดือนเมษายนและพฤษภาคม 2025 จะลดลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับช่วงต้นปีที่ร้อนเป็นประวัติการณ์ แต่ นักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่า นี่ไม่ใช่สัญญาณว่า “ภาวะโลกร้อน” กำลังจบลง
การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากหลายปัจจัยในระยะสั้น ที่ทำให้โลกร้อนน้อยลงชั่วคราวเท่านั้น
1. การสิ้นสุดของวัฏจักรเอลนีโญ (El Niño) ซึ่งส่งผลให้ น้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกอุ่นผิดปกติ ดันอุณหภูมิโลกสูงขึ้น และหลังจากการสิ้นสุดทำให้มหาสมุทรเริ่มเย็นลงเล็กน้อย
2. เมฆ ฝุ่น และละอองลอยมากขึ้น ซึ่งละอองลอยเหล่านี้ สามารถสะท้อนรังสีดวงอาทิตย์ออกไปจากโลก ทำให้พื้นผิวโลกเย็นลงเล็กน้อยในช่วงเวลาหนึ่ง
3. ฤดูกาลเปลี่ยนก็มีผล ทำให้ภาพรวมของอุณหภูมิในช่วงนี้ดู “เย็นลง” กว่าช่วงต้นปี
แม้อุณหภูมิจะลดลงในช่วงเดือนเมษายน–พฤษภาคม 2025 แต่ข้อมูลจาก WMO องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก ยังเตือนว่า ในช่วงปี 2025–2029 มีโอกาสถึง 70% ที่โลกร้อนทะลุ 1.5°C อย่างถาวร ทั้งหมดนี้เกิดจากก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ โดยเฉพาะคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) จากการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล และมีเทน (CH₄) ที่แม้มีน้อยกว่า แต่ส่งผลรุนแรงกว่าถึง 25 เท่า!
ไม่ว่าเราจะรู้ตัวหรือไม่ การใช้ชีวิตประจำวันของเราได้มีส่วนสร้างภาวะโลกร้อน จึงต้องร่วมมือกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจัง เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่รุนแรงในอนาคต
#โลกร้อน #ลดคาร์บอน
ที่มา :
โฆษณา